เปรียบเทียบเซรั่ม 𝟭𝟰 ตัว ตาม 𝘼𝙘𝙩𝙞𝙫𝙚 𝙄𝙣𝙜𝙧𝙚𝙙𝙞𝙚𝙣𝙩 ตัวตายตัวแทน ใช้แทนกันได้

ก่อนจะเลือกใช้สกินแคร์ เพื่อน ๆ ดูส่วนผสมกันบ้างไหม ? ยิ่งตอนนี้เทรนด์ในการเลือกใช้สกินแคร์ไม่ได้มีแค่อ่านคุณประโยชน์ หรือเอาชื่อเสียงของแบรนด์ดัง ๆ มาเปรียบเทียบกันเฉย ๆ  แต่กระทู้นี้ มิ้งจะมาบอกเล่าความในใจ ในการเลือกใช้สกินแคร์ทั้งหมด 14 ตัว แบบแน่น ๆ จุก ๆ แตก ๆ ค่าาา


ที่ต้องเปรียบเทียบเยอะขนาดนี้ก็เพราะว่าบางตัวที่เคยซื้อมาใช้ ก็มีข้อได้เปรียบ เสียเปรียบกันหลายอย่างเลยอ่ะ  วันนี้เลยได้ฤกษ์เปิดกรุเปรียบเทียบเซรั่มตาม Active Ingredient  ซะที ให้ทุกคนได้รู้วววกันไปเลยค่ะว่าตัวไหนเริ่ด ใช้ดี คุ้มค่าแก่การลงทุนทิ่สุด แบบว่าเป็นตัวตายตัวแทน อย่างกับฝาแฝดคนละฝา 5555 อ๊ะ ๆ อย่าพึ่งสับสนมึนงงกันนะคะ เพราะกระทู้นี้จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ได้สิ่งดี ๆ กลับไปแน่นอนค่าา


ขอเกริ่นเลยว่า มิ้งเป็นคนผิวแห้งแบบมาก ถึงขนาดลอกเป็นขุย และผิวยังอ่อนแอ แพ้สารง่ายมาก ถ้าเจอตัวไหนไม่ถูกกับหน้าคือจะขึ้นผด ผื่น แดงยิบ ๆ ทรมานมากจริง ๆ หรือช่วงที่เป็นเมนส์สิวจะขึ้นอยู่ที่เดิมซ้ำ ๆ อย่างที่คาง หน้าผาก ขึ้นวน ๆ ไปไม่จบไม่สิ้น  ช่วงที่ผ่านมา 7 เดือนนี้ก็ได้มีเวลามาศึกษาสกินแคร์แบบเชิงลึกว่า เอ๊ะ! ที่ผิวเราเป็นอย่างงี้ มันจะใช้ครีม หรือเซรั่มตัวไหนได้บ้าง ที่เหมาะกับผิวหน้าเราจริง ๆ โดยไม่ทำให้หน้าเราระคายเคืองขึ้นมา 


บางคนผิวแพ้ง่ายกว่านี้มาก อาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนหรือกรรมพันธุ์ ซึ่งก็ต้องเยียวยารักษากันต่อไป แค่เลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองที่สุด ซึ่งตอนนี้สภาพผิวหน้าที่ผ่านมาของมิ้งเหมือนเจอมรสุมมาหนักเหมือนกัน มีทั้งช่วงสิวขึ้น ระหว่างวันผิวไม่เคยเจอสมดุลของมันเอง มันเป็นบางช่วง แห้งเป็นบางช่วง ซื้อสกินแคร์มาเต็มบ้าน เอาไว้ใช้แต่ละสภาพหน้าของตัวเอง สรรหามาทุกที่ หลายแบรนด์ ทั้งใน และนอกประเทศ ใครป้ายยาอะไรก็ซื้อมาลองหมด 


วันนี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์สุดอลังการ ให้เพื่อน ๆ ได้มาลองอ่านกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการเลือกตัดสินใจ เลือกซื้อของเพื่อน ๆ กันได้นะค้า 


สิ่งที่มิ้งจะมารีวิวในวันนี้เป็นสกินแคร์ตระกูลเซรั่มทั้งหมดที่มิ้งเคยลองใช้ มีทั้งชอบแล้วก็ไม่ชอบ ซึ่งแต่ละตัวที่เอามารีวิวก็จะเป็นแนวแบ่งแยกตามสารสกัดที่ใกล้เคียงกัน และคุณประโยชน์ของมันเนาะ จะได้เลือกกันได้ง่าย ๆ หน่อย

มาตัวแรกเลยคือพวกตระกูลเซรั่ม ที่มีสารสกัด Niacinamide

สารสกัดตัวนี้ถ้าจะให้พูดคร่าว ๆ มันคือ Vitamin B3 เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิว ลดริ้วรอยและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว อาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และช่วยกระชับรูขุมขนและคุมความมันบนผิว ใช้ได้กับทุกสภาพผิว 

The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%  

VS 

Revox B77 JUST NIACINAMIDE 10%


“Ordinary Niacinamide 10% เน้นใช้ช่วงที่สิวขึ้นหนักเลยซื้อมาใช้ทาลดรอยสิว รอยสิวก็จางลงดีนะ แต่ใช้ระยะเวลานานพอสมควร ตัวนี้มีส่วนผสมของ zinc 1% ด้วย ลดความมันบนผิวได้

 เนื้อเซรั่มที่ค่อนข้างดีเลย ซึมไวนะ ไม่ค่อยช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเท่าไหร่  ”


“Revox JUST NIACINAMIDE 10%  อันนี้เห็นคนรีวิวมานานแล้วแต่ยังไม่เข้าไทย กะจะพรีมาแต่เห็นมีเข้ามาขายในไทยพอดี เลยจัดมาหลายตัวเลย (ราคาพอไหว) อันนี้ขอพูดถึงตัวแรกก่อน Niacinamide 10% +  Zinc ลองใช้เออเป็นปลื้ม เนื้อดี ผิวชุ่มชื้นไม่เหนอะหน้า ใช้ทาทั้งตอนกลางวัน และกลางคืนเลย รอยสิวจางเร็วกว่าเดิม ผิวดูเนียน ๆ ขึ้น ราคาถูกกว่าด้วย ตัวนี้เริ่ดเลยถือว่าใช้แทนกันได้อยู่”


*ข้อควรระวังก็คือ Niacinamide ไม่ควรใช้คู่กับ Vit C เพราะถ้าทาผสมกันมันจะทำให้สารเสื่อมสภาพ สามารถใช้คนละเวลาเช้า / เย็น หรือเว้นช่วงทาห่างกันสัก 30 นาทีก็ได้ค่ะ

ต่อมาเป็นตัวที่ใช้บ่อยเป็นประจำช่วงผิวแห้งเลยคือ 

Hyaluronic Acid


Hyaluronic Acid ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งแตก ลดเลือนริ้วรอย และยังช่วยให้ผิวหนังกระชับขึ้นได้ด้วย ตัวที่มิ้งเลือกใช้ทั้งสองแบรนด์นี้ก็เป็นแบบ Hyaluronic Acid มีโมเลกุลขนาดเล็กจะซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีกว่าดั้ววว 

Revox B77 JUST HYALURONIC ACID 5% 

VS

The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5


“Revox B77 JUST HYALURONIC ACID 5%" อันนี้ส่วนตัวชอบตรงเนื้อเซรั่ม เพราะเนื้อไม่หนืด ซึมไว ไม่เหนอะๆ ที่ผิว แล้วความเข้มข้นที่เค้าให้มาคือ 5% มากกว่า Ordinary ด้วยนะ ใช้แล้วเห็นผลเหมือนกันเรื่องให้ความชุ่มชื้น ผิวตึง ๆ  ด้วยความที่นั่งทำงานในห้องแอร์ ระหว่างวันผิวชอบแห้งลอกหนักมาก ๆ ก็หายไปแล้วจ้าา”


“The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5" ตัวนี้ถ้าจะกดในเว็บสั่งพรีกว่าจะได้มารอพรีนานมาก เพื่อนที่เคยสั่งมาบอกว่าประมาณเดือนนึงกว่าจะได้ของ เลยสั่งจากมาร้านที่เค้าพรีออเดอร์มาแล้วในไอจี ได้ของเลยทันที 5555 หลังใช้รู้สึกชอบที่ผิวไม่แห้ง รู้สึกผิวมันตึง ๆ ยืดหยุ่นขึ้น เนื้อเซรั่มค่อนข้างหนืด เวลาเก็บตัว Dropper ลงขวดต้องระวังนิดนึงเพราะมันจะหยดเลอะข้างขวดได้ รวม ๆ แล้วชอบค่า”

สายนอนน้อยใช้นี่เลยค่ะเซรั่ม Caffeine


เพราะคาเฟอีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดอาการบวมและรอยคล้ำรอบดวงตา ปกป้องผิวรอบดวงตาจากการถูกทำลายจากแสง UV และมลภาวะ รวมถึงฟื้นฟูผิวรอบดวงตาที่แห้ง ลดริ้วรอยรอบดวงตา ปรับผิวรอบดวงตาให้กระจ่างใสขึ้น

Revox B77 JUST CAFFEINE 5% 

VS

The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG


“Revox B77 JUST CAFFEINE 5%" ช่วงนอนน้อย นอนดึกแล้วใต้ตาหมองคล้ำ เหมาะมากที่จะหยิบตัวนี้มาใช้ ยิ่งตอนที่วันไหนทะเลาะกับแฟนร้องไห้ ตาบวม ตาช้ำ ใช้ดีมาก ช่วยบรรเทาอาการบวมได้ดี   แต่ถ้าอยากให้ใต้ตาชุ่มชื้น ตัวนี้ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้นมากนัก หรือเพระใต้ตาเราแห้งจัดก็ไม่รู้ แต่จุดเด่นคือเนื้อซึมไว ไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่ระคายเคือง รวม ๆ แล้วชอบค่า ”


"The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG" “ตัวนี้เนื้อเหลว ซึมช้านิดนึง แต่หักคะแนนตรงหัวดรอปเปอร์ ตอนได้มาใหม่ๆ แกะออกมาเหมือนเป็นคราบน่าจะเกิดจากตอนขนส่งหรือเปล่าไม่แน่ใจน้า ผลลัพธ์ส่วนตัวเป็นคนมีใต้ตา ใต้ตาบวมมาก ตัวนี้ใช้แล้วยังไม่เห็นผลเท่าไหร่แต่ ให้คะแนนเรื่องความชุ่มชื้น ทำได้ดีเลยค่าา ”

 

ตัวนี้ขาดไม่ได้เลยช่วงที่สิวบุก หน้ามันเยิ้ม  คือเจ้า 

Salicylic acid นั่นเองค่า


สารสกัด Salicylic acid คือกรด Beta Hydroxy Acid (BHA) อ่อนๆ ซึมลึกไปใต้ชั้นผิว ช่วยผลักสิ่งที่อุดตันรูขุมขนหรือสิวออก ฆ่าทุกแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิวไวขึ้น ทำให้จุดด่างดำต่างๆ ลดเร็ว กระชับรูขุมขนบำรุงลึก  และช่วยนำสารบำรุงอื่นๆ ให้ซึมลงผิวได้ดี  ทำให้ผิวใสและดูเรียบเนียนขึ้น

La Roche Posay Effaclar Serum 

VS

Fundamental SALICYLIC ACID (BHA) 2%

VS

Revox B77 JUST SALICYLIC ACID 2%


“La Roche Posay Effaclar Serum" ตัวนี้ กลิ่นเหมือนยา ๆ แต้มสิวอะไรประมาณนั้น ถ้าทาตอนผิวแห้งอาจจะมีความยิบ ๆ เล็กน้อย พวกสิวเม็ดเล็ก ๆ  สิวผด หลุดออกมาดีมาก หัวสิวแห้งไวจริง แต่ราคาแอบแรงไปหน่อยน้า”


“Fundamental SALICYLIC ACID (BHA) 2%" เนื้อค่อนข้างเหลวเหมือนน้ำเปล่าเลย แทบจะไม่มีกลิ่น แต่ฟิลตอนทาดีนะ ซึมไว ผลัดผิวดี รูขุมขนสะอาด ใช้แล้วสิวไม่ค่อยขึ้น หน้าไม่ค่อยมันดีมากกขอเสริมนิดนึงว่า คนที่ใช้ Salicylic acid มันจะผลัดเซลล์ผิว แนะนำให้ใช้คู่กับกันแดดด้วยน้า เดี๋ยวหน้าจะลอก ผิวพังนะ”


“Revox B77 JUST SALICYLIC ACID 2%" อันนี้เป็นตัวตายตัวแทนของทุกตัว ถูกและดีมีอยู่จริง ราคาเป็นมิตร คุณภาพคือดือ สิวตายเรียบตามระเบียบจ้า ใช้แล้วไม่ยิบ ๆ สารสกัดเค้าคลีน ๆ หน่อย เป็น Salicylic Acid ที่มาจากแหล่งธรรมชาติ พวกเปลือกต้นวิลโลว์ น้ำมันระกำสกัด อะไรแบบนี้ก็เลยค่อนข้างอ่อนโยนดียง้าาา  เริ่ด”

มาต่อที่ตัวนี้เลย Alpha Arbutin


เป็นสารสังเคราะห์ ที่ช่วยปรับให้ผิวขาวใส สม่ำเสมอ ลบเลือนจุดด่างดำ รอยแผลเป็น และความหมองคล้ำ โดยเข้าไปลดการสร้างเม็ดสีเมลานินในเซลล์ผิว มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง  

The Ordinary Alpha Arbutin 2%

Vs

Gravich Alpha Arbutin whitening Serum

Vs

It's Skin Power 10 Formula WH Effector


“The Ordinary" เนื้อข้นที่สุด แล้วก็ราคาสูงสุดแล้วบรรดา 3 ตัวที่ใช้อยู่เลย แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะหน้าเลย ตัวนี้ช่วยเรื่องหน้าไบร์ท กระจ่างใส ผิวฉ่ำวาว รอยดำ รอยแดงจางลง ใช้ไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าผิวหน้าเรียบเนียนดีขึ้น ”


“Gravich" เกลี่ยง่ายอย่างกับน้ำตบ ส่วนตัวรู้สึกว่ากลิ่นแรงไปหน่อย แต่ถ้าคนไม่คิดมากก็ใช้ได้ ตัวนี้ใช้แล้วไม่แพ้นะ  เนื้อซึมไว สบายผิว เหมาะๆกับวันที่รีบ ๆ ทา อยากให้ซึมไวทันใจ ตัวนี้เลย ผลลัพธ์โอเคสมราคาจ้า ”


“It's Skin" ตัวนี้ก็ถูกและดีอีกแล้วจ้า มีกลิ่นน้ำหอมอ่อน กลิ่นดี รู้สึกเป็นกลิ่นที่ไม่อันตราย 555 ทาเยอะไปจะซึมยาก ซึมช้าหน้ายังเหนอะอยู่ ใช้ปริมาณพอเหมาะ สักครึ่งดรอปเปอร์ก็พอแล้ว ใช้ทั้งเช้า และก่อนนอน ก็รู้สึกผิวผ่อง ไม่หมองคล้ำง่าย คือดียยย ”

Prebiotic กำลังมาแรงอย่างมากสำหรับสายสกินแคร์ในตอนนี้


       ซึ่งเมื่อผิวของเราขาดสมดุล จะเกิดอาการผิวแห้ง แพ้ง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดผิวอักเสบ Prebiotic จะช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสมดุลและแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ผิวสามารถทนต่อสภาวะสิ่งแวดล้อมที่ทำร้ายผิวได้ดีขึ้น เพราะ Prebiotic ช่วยให้ผิวมีสมดุลค่า pH ที่ดีที่จะช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียไม่ดีบนผิวของเราได้นั่นเอง

HER HYNESS PREBIO COMPLETE ANTI-ACNE SERUM

VS

FYNE Skin Barrier Probiotic Serum in Cream


“HER HYNESS PREBIO" รุ่นนี้ซื้อมาเพราะอยากรู้อยากลอง ช่วงที่ผิวอ่อนแอ ใช้อะไรก็แสบหน้า แต่มันมีสิวบุกแล้วใช้ยาแต้มสิวไม่ไหว ก็จะโบกตัวนี้ช่วยได้เยอะเลยนะ เป็นแบบสายคลีนใช้ได้ ผิวแพ้ง่ายใช้ดีเริ่ดชอบค่า ”


“FYNE Skin Barrier" กลิ่นหอม เฟรช ๆ ดี ซึมไว ทาไปปุ้ปผิวดูชุ่มชื้นอิ่มน้ำ  ตัวนี้เค้ามี Pre Biotic ช่วยเสริมให้ผิวแข็งแรง ดูมีสุขภาพดี ชอบผิวตัวเองตอนทาตัวนี้มาก  รู้สึกได้ว่ามันเข้าไปช่วยกอบกู้ผิวโทรม ๆ ของเราได้จริง ตัวนี้แนะนำเลย ราคาแรงหน่อย แต่สมเหตุสมผลค่า เอ้าสวย ๆ น้า ว่าไม่ได้

และนี่ก็เป็นเซรั่มทั้งหมดที่มิ้งใช้แล้วชอบ #หมดแล้วจะต้องซื้อซ้ำ อีกแน่ๆ เพราะว่าราคากับผลลัพธ์มันโดนใจจริงๆ

1.FYNE Skin Barrier Probiotic Serum in Cream

2.Revox "JUST HYALURONIC ACID 5% HYDRATING FLUID" 

3.Revox "JUST CAFFEINE 5%  EYE CONTOUR SERUM"

4.It's Skin Power 10 Formula WH Effector

5.The Ordinary Niacinamide 10% +Zinc 1%

6.Revox "JUST SALICYLIC ACID 2% PEELING SOLUTION

สำหรับใครที่เคยลองใช้สกินแคร์มาหลากหลายอย่างแล้วยังไม่ตอบโจทย์ลองเลือกซื้อสกินแคร์ตามสภาพผิวตัวเองดูนะคะ มีปัญหาแบบไหนเลือกเน้นบำรุงแบบนั้น แต่ก็อย่าลืมอ่านวิธีการใช้ให้ละเอียด เพราะสกินแคร์บางอย่างก็ใช้ด้วยกันได้ บางอย่างก็ใช้ด้วยกันไม่ได้น้าา

Discussion (22)

์Niacinamide สรุป อันไหนดีกว่ากันคะ Ordinary หรือ Revox  เพราะเห็นให้คะแนนrevox 9/10 Ordinary 7/10 แต่ตอนซื้้อซ้่ำซื้อ Ordinary
ใช้ดีทุกตัวเลยค่า ปังมากๆ
น่าสนใจหลายตัวเลยค่า
น่าลองหลายตัวเลยค่า
ล้มละลายแน่เลย555555