[REVIEW] Pool Villa เขาหลักแบบส่วนตัว ติดทะเล สุดโรแมนติก การันตีถ่ายรูปปังทุกมุม ราคาเริ่มต้นหลักพัน

สวัสดีค่า

กลับมาพบกับออนอีกแล้ว
ช่วงนี้ก็จะทำคอนเท้นท์แนวท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์บ่อยๆหน่อย ซึ่ง Review นี้
ก็คือ Review ของการกลับไปเขาหลักอีกรอบของออนค่ะ 

หลังจากติดใจสุดๆจากทริป LA VELA KHAOLAK ครั้งก่อน รอบนี้ออนเลย
มาพักที่ Casa de La Flora อีกหนึ่งโรงแรมในเครือของเค้า โดยที่นี่เป็น 
Design Hotel ที่มีการออกแบบได้สวย และเป็นเอกลักษณ์มากๆ ด้วยโทนสีเขียว
น้ำทะเล ตัดกับพื้นที่และต้นไม้สีเขียวสวยๆ รวมถึงยังตอบโจทย์สำหรับคนที่
อยากมาพักผ่อนแบบเน้นความเป็นส่วนตัว สงบ ไม่ต้องเจอใคร บอกเลยว่าถูกใจ
คู่รัก หรือคนที่แพลยอยากมาฮันนีมูนกันแน่นอน

🌷 Casa de Laflora ตั้งอยู่ที่หาดบางเนียง จังหวัดพังงา โดยจะตั้งอยู่ติดๆกับ LA VELA KHAOLAK และ La Flora Khaolak เลย ซึ่งการเดินทางก็สะดวกสบายและง่ายมากๆ เพราะเราสามารถบินลงที่สนามบินภูเก็ต และนั่งรถจากสนามบินมาถึงโรงแรม โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้นค่ะ

👙 ความเก๋ของที่นี่คือ "ทุกห้องเป็น Pool Villa” 👙ไม่ว่าจะพักห้อง Type ไหน ก็สบายใจ มั่นใจได้ว่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัวในห้องแน่นอน โดยห้องที่ออนพักรอบนี้คือ "Beachfront Suite Pool Villa” นั่นเองค่ะ
🌈 Beachfront Suite Pool Villa เริ่ดยังไง?

- เป็นห้อง Type ที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าพักเป็นคู่ เพราะเป็น Type ที่ใหญ่ที่สุด ครบครันที่สุด และติดทะเล แบบตื่นมาเจอวิวทะเลสวยๆเลย (แต่ถ้ามาเป็นครอบครัว จะมีห้อง Type สำหรับ 4 คนคือ Beachfront Grand Pool Villa)

- พื้นที่ใช้สอยในห้องอยู่ที่ 67 ตรม. ถือว่าค่อนข้างกว้าง และแบ่งเป็นสัดส่วนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่มีประตูกั้นระหว่างห้องนอน รวมถึงบริเวณห้องน้ำ ที่มีทั้ง Bathtub ขนาดใหญ่ และโซนแยกสำหรับ Rain Shower กับห้องโถสุขภัณฑ์

- ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องต้มน้ำร้อน มินิบาร์ ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ 2 เครื่อง รวมถึง Amenity ต่างๆ ซึ่งออนชอบมากๆ เพราะที่นี่เค้าใช้ Amenity ของ THANNแบรนด์โปรดของออนเลย

- วิวจากห้องนี้คือสุดมากกก..ใกล้ทะเลกว่านี้ ก็ต้องลงไปอยู่ในทะเลแล้ว เพราะตื่นมาปุ้บ เปิดม่านปั้บ ก็เห็นวิวทะเลสีฟ้าครามสวยๆ พร้อมกับหาดจำลองของทางโรงแรมที่สงบมากๆ ทำให้เวลาออกมานั่งเล่น ชมวิวใน Villa แล้วรู้สึกเป็นส่วนตัวสุดๆ

- ภายใน Pool Villa จะมีสระว่ายน้ำพร้อมระบบ Jacuzzi รวมถึงที่นั่ง Sunbed สีเขียวสดใสที่เป็นสี Signature ของทางโรงแรม ให้นั่งเล่นพักผ่อนได้สบายๆ

- ที่สำคัญที่นี่ทุกมุมคือ Instagrammable Spots! กล้าพูดเลยว่าที่นี่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย แค่ใน Pool Villa ก็ได้รูปเกิน 500 รูปแล้วแน่นอน ไม่ว่าจะถ่ายตรงสระว่ายน้ำ ที่นั่ง Sunbed หน้าห้องนอน หรือจะออกไปเดินถ่ายในพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม หรือแม้แต่บริเวณริมทะเลก็สวยแบบสวยมากกกจริงๆ และเน้นย้ำเลยว่าเป็นส่วนตัว ไม่ติดคน ไม่เจอคน ไม่ต้องมานั่งใช้ App ลบคนออกให้เหนื่อยแน่นอน
✨ ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด เมื่อมา Casa de Laflora มีอะไรบ้าง?

- In Room Afternoon Tea Set สำหรับสั่งมาทานในห้อง จริงๆจะสั่งทานที่ห้องอาหาร La Aranya หรือทานบริเวณ Main Swimming Pool ก็ได้ แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบใช้ชีวิตอยู่ในห้อง และพักห้องสวย วิวดีขนาดนี้ ก็ต้องสั่ง Afternoon Tea Set มาทานในห้องค่ะ จะบอกว่าเซ็ตนึงค่อนข้างใหญ่เลย จัดเต็มทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน นั่งทานในห้องสบายๆพร้อมดูทีวี หรือจะเอามาทานบริเวณสระส่วนตัวในห้องก็ได้อีกฟีลนึงไปเลย

- Floating Breakfast หรือ “อาหารเช้าลอยน้ำ” ซึ่งจริงๆที่นี่เค้าเป็น Buffet A La Carte ที่เราสามารถสั่งได้แน่นๆ เต็มๆ พร้อมเมนูที่น่าทานมากๆ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะมาทานที่ห้องอาหาร La Aranya หรือเสิร์ฟแบบ Floating Breakfast ไว้ทำคอนเท้นท์เก๋ๆในห้องแบบฉบับคนไม่อยากออกจากห้องก็เริ่ด เมนูที่ออนชอบมากๆยกให้ Tom Yum Egg Benedict, Waffles และ Croissant เลยค่ะ ดีมากกกกก น้ำผลไม้ที่นี่ก็คั้นกันสดๆ ฉ่ำๆ ฟินๆจริงๆ

- Private Romantic Dinner ที่ทางโรงแรมจะจัดซุ้มดินเนอร์สุดโรแมนติกให้ริมทะเล พร้อมเสิร์ฟอาหารเป็น Seafood Course ต่างๆ ออนเห็นรูปจากหลายๆเพจที่ถ่ายช่วงพระอาทิตย์ตกคือสวยมากกกก เรียกว่าเซฟ reference ไว้เลย แต่วันที่ออนไป หลังจากที่ทางโรงแรมเซ็ตซุ้มเสร็จ ฝนก็ตกพอดี แต่ด้วยความบริการระดับ 5 ดาว ทางโรงแรมก็เนรมิต Private Romantic Dinner เข้ามาให้ออนทานในห้องเลยค่ะ ยกโต๊ะ ยกเทียน ยกอุปกรณ์ตกแต่งเข้ามา ถ้ายกซุ้มมาได้ก็คงยกแล้ว จุดนี้ประทับใจทางโรงแรมมากๆจริงๆ ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวนั่งทานในห้องง่ายๆแทน เพราะเข้าใจว่าฝนฟ้าตกเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ทางโรงแรมไม่ย่อท้อมากๆ จัดให้สวยแบบสวยเลย ได้นั่งมองพระอาทิตย์ตก ได้กิน Seafood อร่อยๆ ทั้ง Lobster กุ้งลายเสือ ปู หอยเชลล์ ปลาหมึก รวมถึง Caesar Salad และมันอบ ฟินมากๆ ออนกับคุณแฟนกินเกลี้ยงแบบไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ เกลี้ยงแบบหมดทุกสิ่ง ประทับใจในการบริการ และความอร่อยจริงๆ เน้นย้ำเลย

- Pinto Lunch Set อาหารใต้ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบปิ่นโตที่เราสามารถสั่ง Room Service มาทานในห้องได้ตลอด หรือจะไปทานที่ห้องอาหาร La Aranya ห้องอาการกลางของโรงแรมก็ได้ ด้วยความที่คุณแฟนออนชอบกินอาหารไทย ตอน Check-in มาถึง คุณแฟนหิว ก็เลยสั่ง Pinto Set มาลองดู สรุปติดใจมากๆ วันรุ่งขึ้นช่วงกลางวัน ก็เลยไปนั่งทานที่ La Aranya ต่อ คุณแฟนคอนเฟิร์มว่ารสชาติดี ถึงเครื่อง และอร่อยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกุ้งเสียบ หมูฮ้อง แกงปู ที่มีความเป็นรสอาหารใต้แบบจริงๆ

- Spa La Casa คนขี้เมื่อย ชอบนวดอย่างออน ก็ไม่มีทางพลาดที่จะไม่ทำสปาแน่นอนค่ะ ที่นี่เค้ามีบริการสปาหลากหลายโปรแกรมมากๆ ไม่ว่าจะนวดไทย นวดน้ำมัน นวดหน้า นวดเท้า ขัดตัวอะไรต่างๆ ซึ่งรอบนี้ออนลอง Aromatherapy Massage หรือนวดน้ำมัน บอกเลยว่าฝีมือ Therapist คือสุดม๊ากกก นวดแบบมันส์สุดๆ ถึงเส้น ถึงโคนเลย ได้ใจในการรีดเส้นมากๆ แนะนำให้จองนะคะ เพราะเห็นเงียบๆ แต่แขกจองเพียบนะคะ ทางออนเกือบไม่ได้คิวนวดแล้ว ส่วนคุณแฟนก็แฮ๊ปปี้เหมือนกัน เพราะระหว่างที่ออนไปนวด คุณแฟนก็ไป Fitness Center ของโรงแรม ไปออกกำลังกายตามสไตล์ Gym Addict จบที่แฮ๊ปปี้ทั้งคู่
ดังนั้นการมาทริปเขาหลักครั้งนี้สำหรับออนคือแฮ๊ปปี้มากกกก 
เป็นทริปที่มาแล้วรู้สึกสงบ เป็นส่วนตัว และได้พักผ่อนจริงๆ ที่สำคัญได้ถ่ายรูปสวยๆ ได้ทานอาหารอร่อยๆ ที่ออนติดใจตั้งแต่มาเขาหลักรอบก่อน แถมยังได้รับบริการดีๆจากพี่ๆทีมงาน Casa de Laflora ทุกคน จบทริปด้วยความสุข ความประทับใจ และได้ชาร์จพลังให้ตัวเองแบบเต็มๆจริงๆ

กล้าพูดเลยว่ากลับมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็อยากจะกลับไปซ้ำอีกแล้ว จากใจคนที่ไม่
ค่อยชอบไปซ้ำที่เดิม ที่ออนเลิฟโรงแรมในเครือของที่นี่มากๆ 


วันนี้ขอจบการ Review ไปเท่านี้ก่อนนะคะ
พบกันทริปหน้าค่า

สวัสดีค่ะ

Discussion (16)

น่าไปมากเลยค่า
รร.สวยมากเลยค่ะ
น่าเที่ยวมากเลยค่ะ