5 ลิปสติกยุคcovid + มองทฤษฎี Lipstick effect +ระบบเศรษฐกิจผู้หญิงผ่านเลนส์กะเทย

สวัสดีค่ะสาวๆ และเพื่อนๆ ผู้ติดตามชาวจีบันทุกท่าน

ห่างหายกันไปนานนะคะ วันนี้พบกับคริส อีกแล้วค่ะ นำสาระความรู้ คู่ความงามมาฝากทุกๆคนกัน

วันนี้คริสจะขออนุญาตรีวิว ของใช้ส่วนตัว ที่ยังไม่ได้บอกใครบ่อยๆ และเชื่อว่าในยุคโควิดเริ่มยอดขายตกลงๆ นั่นคือ

"ลิปสติก" (lipstick) ซึ่งเป็นไอเท็มพื้นฐานที่สาวๆสายแต่งหน้า คุ้นเคยนั่นเองค่ะ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะ ^^

เนื้อหายาวมากๆ นะคะ แนะนำคนมีเวลาอ่านจริงๆ ใช้เวลาอ่านเหมือนนั่งอ่านนิยาย ราวๆ 30 นาทีค่ะ รูปเยอะ ข้อมูลจัดหนักมากๆ เตรียมใส่แว่นกรองแสงคอมพ์ก่อนรับชมได้เลยค่า

เริ่มกันที่แบรนด์แรกเลยนะคะ จากซ้ายไปขวา แบรนด์ที่มีจำหน่ายในไทย และ ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยค่ะ

1. Noy Lip Matte สี นวล
เนื้อ:แมทแห้ง เกลี่ย:ง่ายมาก
โทนสี :เหลืองซีดเหมือนผีดิบ
ราคา : 200
พิกัด: Shopee
กลิ่น: ออกเคมี
หน้าที่ : รองพื้นปาก + แทนคอนซีลเลอร์
ซื้อทำไม? สามารถใช้ผสมกับสีอื่นได้ หรือใช้สร้างมิติทั้งหน้าได้

ติดหลุดออกแรงมากๆ ถ้าซีเรียสหน้าเลอะแมสก์ ไม่แนะนำค่ะแต่แนะนำสายแต่งหน้าจัดหรือคนที่ชอบเล่นสี เพราะสามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งหน้าค่ะ ผสมกับสีอื่นๆได้
rating : 8/10
ซื้อต่ออีกไหม : ซื้อค่ะ พกจ สวย ลายกนกแบบ so Thai

4. Rimmel Stay Matte Liquid lip colour โทนส้ม นู้ดติ่งเหลือง
แบรนด์ท้องถิ่น (local) ของ The UK (สหราชอาณาจักร) ค่ะ
เนื้อ : แมทแห้ง แห้งไวมากๆ
กลิ่น: น้ำหอมสังเคราะห์ จะขนมก็ไม่ใช่ จะผลไม้ก็ไม่เชิง
พิกัด : Watsons Malaysia *ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย* (ใครสนใจลองหาร้านหิ้วรับพรีได้ค่ะ ใน facebook มี)
ราคา : RM  22.40 - 24.90 
พกจ. : เฉยๆ ธรรมดา แต่ก็ดู sleek นะ
ซื้ออีกไหม : แน่นอนค่ะ

5. Wardah Colorfit Last all day lip paint โทน แดง-น้ำตาล
*แบรนด์ขายดีอันดับ 1 หมวดสินค้าผู้หญิง (No.1 Kosmetik Pilihan Wanita Indonesia) ของดีแดน อิเหนา ประเทศ อินโดนีเซียค่ะ*
สีเบอร์ 04 Brown Derlast
เนื้อ :แมทแห้ง 
กลิ่น:เหม็น ไม่หอม เคมีจัดๆ
ราคา : 39.-
พิกัด : Shopee ร้าน dragun beauty official.th หรือ search คำสำคัญ (keyword) คำว่า 'wardah lip ' กดตัวกรองหรือ filter ราคา ประมาณ 0-50 บาท ยังไงก็เจอแน่นอนค่ะ มีอยู่ร้านเดียวที่ส่งในไทย ไม่ได้ค่าคอมหรือเปอร์เซ็นต์การประสัมพันธ์จากทางร้าน
ซื้ออีกไหม : ชัวร์ 100%
พกจ. : ทันสมัย แอบ minimal
rating : 8/10 เหม็นสี ปากหนึบ แต่ราคาถูกม๊ากกกกกกกกกกก
*ความพิเศษคือ มีเครื่องหมายฮาลาล :halal ค่ะ คนอิสลามทาปากได้*

 อ่ะยังไม่จบแค่นี้นะ ต่อไปนี้ จะเป็นการหลอกขายความรู้ค่ะ 555

ตีแผ่ภาคทฤษฎี ซึ่งมีเนื้อหาค่อนข้างยาว โดยผู้สนใจศึกษาชาวJeban นักช็อปสามารถลุยอ่านได้ค่ะ มีประโยชน์แน่นอน 100% (ใช้เวลาอ่านไม่เกิน 3 นาที)

ปรากฏการณ์ลิปสติก หรือ ทฤษฎี Lipstick effect

Lauder ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท เครื่องสำอาง Estee ได้ให้คำนิยามว่า หมายถึง ทฤษฎีที่เมื่อเกิดภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ (economic crisis) ผู้คน มีแนวโน้มที่จะซื้อหรือบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย น้อยลง แทนที่คนจะตัดสินใจซื้อชิ้นใหญ่ของแพงๆ ผู้คนที่กำลังเผชิญกับวิกฤตนี้มักจะเอาเงินไปลงทุนกับสินค้าชิ้นเล็กกระจ้อยร่อยอย่าง ลิปสติก ซึ่งสามารถซื้อขายกันได้โดยง่าย (The Business Professor, 2021)

โดยหลักการนี้ นักเศรษฐศาสตร์มองว่า นี่คือ ภาพแทนของ income effect หรือ ผลกระทบจากรายได้ (Hayes ; Boyle; Jackson, 2021) ผู้บริโภคจะยังคง "ไม่หยุด" ซื้อ สิ่งที่ไม่ทำให้ "กระเป๋าสตางค์" หรือ "เงิน" ในบัญชีของเขาสั่นสะเทือนอย่างเช่น 'ลิปสติก' หากผู้บริโภคยังคงเชื่อมั่นว่า แม้เศรษฐกิจผันผวน ตัวพวกเขาเอาที่จะยังคงซื้อของที่ไม่จำเป็นอยู่ได้ เพื่อทำให้ตนเองรู้สึก ดีขึ้น ในวันที่ผู้คนต่างต้องเผชิญกับ bad day

 มองทฤษฎีลิปสติกผ่านมุมกะเทยคนหนึ่ง: (อ่านไม่เกิน 5 นาที)

ส่วนตัว เชื่อ ทฤษฏีนี้ และมองว่า หลักการที่สื่อกระแสหลักของ Forbes (mainstream media) ของสหรัฐ โดย Danzinger (2022) พยายามนำเสนอ ในแง่มุมของยอดขายของบริษัท เอสเต้ (เครือ Estee group) ที่มีการเติบโต สวนกระแสขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ร้อยละ 48 ซึ่งประเด็นนี้ ก็อาจจะประยุกต์ใช้กับบริบทของสังคมไทยได้ เพราะสังคมไทยเอง ก็มีแบรนด์ Estee ที่เข้าไปลงทุน และยังคงดำเนินกิจการอยู่ (ยังไม่เห็นเจ๊งหรือย้ายฐานการผลิต) คนไทยยังมีแนวโน้มที่จะเชื่อมั่นในแบรนด์ต่างประเทศมากกว่าของในประเทศ อีกทั้งสังคมไทย มีความเป็นพหุวัฒนธรรม (multicultural) มีแนวโน้มค่อนข้างเปิดกว้างทางการแสดงออก (representation) และแคร์เรื่องมาตรฐานความงาม (beauty standard) ดังจะเห็นได้ชัดในชีวิตจริงว่า ตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทย ถือเป็นตลาดทะเลแดงเดือด  (red ocean) ซึ่งมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรง สังเกตได้จากร้านค้า ธุรกิจเครื่องสำอาง start up ทั้งในโลกจริง (offline) และโลกเสมือน (online) ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด

ซึ่งการที่ผู้สนใจการ 'ตามกระแส' หรือตาม 'เทรนด์' ความงาม มีแนวโน้มที่จะซื้อลิปสติกไว้ในครอบครองมากกว่า 1 แท่ง นั่นแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจครัวเรือนของคุณ อาจจะยังคงโอเคอยู่ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร และยังสามารถซื้อของใช้ที่ ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพได้ นอกจากนั้นแล้ว การซื้อลิปสติกยังแสดงออกถึงการสร้างความมั่นใจในการชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับกาารหาคู่ครองหรือเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ทางวิธีวิทยาของชาติพันธุ์ (Everyday Life Sociology) เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึง การแสดงสัญญะ (sign) ความเชื่อ (myth) อัตลักษณ์ส่วนบุคคล (personal identity) รวมถึงแนวคิด ระบบปิตาธิปไตย (Patriarchy) หากมองผ่านมุมของจิตวิเคราะห์ (psychoanalysis) ที่กำหนดให้เพศหญิง (female) มีหน้าที่เป็นผู้ให้กำเนิดชีวิต เป็นผู้ดำรงเผ่าพันธุ์ เพื่อเพศชาย (male) ดังนั้น การลงทุนเพื่อความสวย เพื่อสร้างคุณค่า(value) และแรงดึงดูด (attraction) ถือเป็นความสบายใจ ที่ทำให้ผู้หญิง หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ที่สนใจเรื่องความสวยความงาม เพื่อมองหาชีวิตที่ดีกว่าเดิม ยอมจ่ายเงิน

เป็นอย่างไร คะทุกคน คุณผู้อ่านมองเห็น หรือคิดเห็นกับทฤษฎีแนวคิดนี้กันอย่างไรบ้างคะ โดยคริส ขออนุญาตเชิญชวน ปชช.ทุกท่านตั้งคำถามและที่ชวนทุกคนที่อ่านต่อยอดองค์ความรู้ต่อก็คือ

1. คุณเชื่อทฤษฏี lipstick effect นี้หรือไม่ 
2. ทำไมภาวะเศรษฐกิจถดถอย (economic recession) ถึงทำให้คนรู้สึกอยากซื้อเครื่องสำอางมากขึ้น (Birch, 2022) 
3. 3.ยุค covid 19 สินค้าอย่างลิปสติก ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง? ทฤษฎี lipstick effect ยังคงใช้ได้กับยุค new normal (ใส่หน้ากาก ไม่เห็นปาก) อยู่อีกหรือไม่ (longtungirl,2020)

คำถามนี้คุณไม่จำเป็นต้องตอบทั้งหมดค่ะไม่ใช่ข้อสอบ เป็นการชี้ชวนให้คิดตามเฉยๆค่ะ ถ้าสะดวก ลองแชร์ข้อมูลกันได้นะคะ

คริสอยากเห็นทรรศนะใหม่ๆของผู้อ่านเหมือนกันค่ะ

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะพบวิกฤตหรือเผชิญปัญหา การกดสั่ง ลิปสติก แท่งนึง มาใช้ สวยๆ แล้ว "ยิ้ม" :) :D สร้างความหลากหลาย วาดฝันใส่กระจก ให้กับตนเอง ก็ทำให้ชีวิตที่แสนลำบากของเรา ทุเลาลง จากการที่เรารักษาแผล (heal) ตัวเอง

ขอบคุณที่สนใจและอ่านจนจบค่ะ ขอให้ทุกคน ยิ้ม :D และภูมิใจกับริมฝี'ปาก'  :ซึ่งเป็นที่อันน้อยนิด ที่แสนจากเล็กพริกขี้หนู แสดงออกถึงพลัง (power) ในบางอย่าง ที่ซ่อนเร้นอยู่ ของคุณเอง วันนี้ไปแล้ว สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณ แหล่งที่มาของข้อมูล :

• Anon, 2020. รู้จัก lipstick effect ความฟุ่มเฟือยที่ยังอยู่ได้ แม้ในช่วงวิกฤติ. ลงทุนเกิร์ล - ลงทุนเกิร์ล ลงทุนในความรู้. Available at: https://www.longtungirl.com/156 [Accessed August 25, 2022]. 
• Danziger, P.N., 2022. With recession threatening, the lipstick effect kicks in and Lipstick Sales Rise. Forbes. Available at: https://www.forbes.com/sites/pamdanziger/2022/06/01/with-inflation-rising-the-lipstick-effect-kicks-in-and-lipstick-sales-rise/?sh=4caca2431276 [Accessed August 25, 2022]. 
• Hayes, A., 2022. Lipstick effect definition. Investopedia. Available at: https://www.investopedia.com/terms/l/lipstick-effect.asp [Accessed August 25, 2022].