คิดยังไงเมื่อมีคนปลอบเราว่า "อย่าคิดมาก"

เนื่องจากเราตอนนี้มีกระแสว่าอยากให้มีการรณรงค์ให้เลิกพูดคำว่าอย่าคิดมาก ในวันนี้เราขอมาแชร์ในกรณีของคนที่มีปัญหาและคนรับฟังปัญหา

ถ้าย้อนกลับไปสมัยที่เรายังไม่พยายามเข้าใจคนอื่น เวลาที่เรามีปัญหาแล้วเราเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนตอบกลับแค่ว่า "อย่าคิดมาก" เราก็รู้สึกว่าเพื่อนไม่เข้าใจเรา เล่าไปซะความยาวดั่งละครไทย ตอบกลับมาแค่นี้หรอ

แต่เมื่อความคิดเราโตขึ้น ทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่เรา เราต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นบ้าง การที่เรายังมีเพื่อนที่คอยรับฟังปัญหาเราทั้งที่ปัญหานั้นไม่ได้เกี่ยวกับเค้าเลย เราก็รู้สึกขอบคุณแล้ว ถ้าเพื่อนพูดว่า "อย่าคิดมาก" นั่นหมายความว่าเค้ายังรับฟังคุณอยู่ แต่มันอาจเป็นปัญหาที่เค้าก็ไม่รู้จะแนะนำยังไง แต่จะคาดหวังให้เค้าเข้าใจทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้

มามองมุมมองของคนที่รับฟังบ้าง การที่เราพูด "อย่าคิดมาก" มันหมายถึงว่าเรายังแคร์เพื่อน ไม่อยากให้เค้าคิดมากจริงๆ แต่บางเรื่องเราก็ไม่รู้จะแนะนำยังไง และสิ่งที่เราจะไม่แสดงความเห็นเลยคือเรื่องแฟน แต่เรารับฟังด้วย empathy เสมอ I'm always here whenever you need a shoulder to cry on"

สิ่งที่เราเขียนมาทั้งหมด เราแค่อยากจะสื่อว่า เวลามีปัญหา คนที่รู้ดีที่สุดว่าจะแก้ยังไงคือตัวเรา ถึงคนแนะนำมายังไง ตัวเราก็จะรู้ดีว่าทำได้หรือทำไม่ได้ ฉะนั้นอย่าเอาปัญหาไปโยนใส่คนอื่นแล้วบอกว่าเทอต้องเข้าใจฉันนะ คุณรู้หรือไม่ว่าคนที่รับฟังคุณเค้ามีปัญหาของเค้าด้วยรึเปล่า บางทีปัญหาเค้าหนักกว่าแต่แค่เค้าไม่พูดออกมา

ใจเค้า ใจเรา อย่าคาดหวังกับคนอื่นมาก การที่มีคนรับฟังคุณ คุณควรจะขอบคุณเค้าด้วยซ้ำ อย่างน้อยเค้าก็ทำให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก

**อันนี้เราขอไม่พาดพิงถึงคนที่เป็นโรคซึมเศร้านะคะ**

แล้วชาวจีบันมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงคะ เราไม่ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อสร้างความขัดแย้งใดๆ เราแค่อยากรู้เผื่อมีอีกมุมมองที่เรามองไม่เห็นหรือคิดไม่ถึง 

Discussion (16)

ตั้นเห็นด้วยกับพี่เตยค่ะ การที่มีใครคนนึงรอฟังและสนใจเรื่องที่เราพูดแค่นี้ก็รู้สึกดีมากๆแล้วค่าาา 😊
ส่วนตัวมองว่า คำนี้ "อย่าคิดมาก" มันคือการ being ignorance เป็นการผลักไสภาระปัญหาคืนให้ผู้พูด ผู้ฟังที่ได้ยินแบบนี้ ควรจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นเอาเอง เนื่องจากประสบการณ์การอยู่กับสังคมผู้หญิงมามาก ส่วนมากคำพวกนี้จะมาจาก"เพื่อน " ร้อยละ 90 ก็ได้ยินคำนี้บ่อยจากปากพวกเขา แล้วตัวเราก็เคยพูดคำนี้เอง บางทีเราก็ไม่ได้มีเจตนาจะเพิกเฉยเขา แต่ก็ไม่รู้จะปลอบอะไรจริงๆค่ะ เพราะทำได้แค่รับฟังเขา แล้วก็รู้สึก toxic ไปกับเขา (ซึ่งควร detox ควรหนีเพื่อน คนที่พ่นพิษมากๆ) เพื่อน (คำนาม) = ผู้รักใคร่ชอบพอกัน, ผู้คุ้นเคยกันดี. นอกจากนี้คือ คนที่ยอมรับฟังปัญหา ละให้กำลังใจเพื่อน ดึงเพื่อนเท่าที่ช่วยได้ อะไรช่วยไม่ได้ก็ปล่อยให้เขาแก้เอาเอง สุดท้ายทุกคนก็ควรที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่แบบ being empathy and  live oneself vigorously กับโครงสร้างของสังคมไทยที่ซับซ้อนแบบนี้ก็พอ  ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวค่ะ ^_^
หลากเลยเลยขอฟังด้วยคนนะคะ
จริงค่ะ เห็นด้วยมากๆ บางทีคนที่ฟังเราเค้าอาจมีเรื่องทุกข์ใจกว่าเราด้วยซ้ำจริงๆค่ะ
แค่เค้าพยามจะพูดปลอบใจให้เรารู้สึกดีขึ้นหนูก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ ส่วนที่ว่าเราจะดีขึ้นหรือคิดมากต่อไป อันนั้นเป็นเรื่องของตัวเราจะจัดการกับตัวเองยังไงค่ะ