-- ถามคนที่รู้เรื่องกฎหมายหน่อยค่ะ --

ถ้าถึงขั้นต้องขึ้นศาล ก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันค่ะ เพราะต้องไปศาล มีการสืบพยาน  ใช้เวลาทั้งหมดจนจบเรื่องก็นานประมาณ 6 เดือนขึ้นไปแน่นอน (ในกรณีที่เค้าปฎิเสธ) 

ไม่ทราบว่าว่าเหตุการณ์เกิดในโรงเรียนรึป่าวคะ ทำไมม่ลองไปพบอาจารย์ดู แล้วให้อาจารย์เรียกคนที่น้องคิดว่าเค้าขโมยมาคุย    อาจจะดีกว่าที่น้องจะไปแจ้งตำรวจ หรือฟ้องคดีก็ได้นะ

การลักทรัพย์เป็นคดีอาญาค่ะ มีบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาคือจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท ที่ต้องทำคือไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้เสียหาย
ในชั้นนี้ตำรวจในฐานะเจ้าพนักงานสอบสวนจะสืบสวนสอบสวน รวบรวมสำนวน หากเห็นว่ามีมูลก็จะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ เมื่อพนักงานอัยการอ่านสำนวนแล้วเห็นว่ามีมูลก็ส่งส่งฟ้องค่ะ

ขั้นตอนที่ว่าจะขึ้นศาลหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าพนักงานอัยการจะส่งฟ้องหรือไม่ ถ้าส่งฟ้อง พนักงานอัยการ หรือที่เรียกว่าทนายแผ่นดินก็จะทำหน้าที่เป็นทนายโจทก์ ซึ่งก็คือแก้ต่างให้กับผู้เสียหายค่ะ

ดังนั้นในชั้นของศาล คุณไม่ต้องกลัวว่าไม่มีทนายค่ะ คดีอาญาต่างจากคดีแพ่งตรงที่ว่าอัยการเป็นทนายแก้ต่างให้ผู้เสียหาย คดีแพ่งคุณต้องแต่งทนายเข้าไปในคดีเอง

อีกทั้งการเรียกค่าเสียหายในคดีอาญาไม่มีค่ะ การเรียกค่าเสียหายเป็นส่วนของคดีแพ่ง บทลงโทษคือเมื่อศาลพิพากษาว่าผิด ศาลก็จะลงโทษได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เท่านั้นค่ะ

ขอแนะนำให้ไปแจ้งความและต้องการจะไม่ให้เรื่องใหญ่โตก็ทำบันทึกรับสภาพหนี้ก็คือให้ผู้กระทำผิดยอมรับผิดและตกลงว่าจะชดใช้ให้ผู้เสียหายตามแต่จะตกลงกันโดยไม่ดำเนินคดีแต่หากต้องการจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สอบสวนและดำเนินการต่อไปค่ะ

***ผู้กระทำผิดเป็นเด็กด้วยก็ต้องขี้นศาลเด็กค่ะ เมื่อเด็กทำผิดจะไม่ติดคุกแต่จะอยู่ที่สถานพินิจแทนค่ะ
 
ไม่รู้เจ้าของกระทู้จะงงไหมนะคะ เราผ่านเนติมาหลายปีแล้วไม่ได้ฝึกเขียนฝึกอธิบายมานานแล้วค่ะ ช่วยเท่าที่ช่วยได้นะคะ

ตามคห.ที่8 ก็ได้ค่ะ ให้ตำรวจลงบันทึกไว้ว่าเค้าเอาไปแล้วก็ยินยอมชดใช้

แต่ที่จขกท.อยากเอาเรื่องให้ถึงทึ่สุด ถึงขั้นติดคุกแต่ไม่อยากให้เรื่องถึงศาลเนี่ย...เป็นปไม่ได้นะคะ เพราะโทษจำคุก ต้องศาลเป็นผู้ตัดสินเท่านั้นค่ะ

เราแนะนำให้ทำหนังสือรับรองสภาพหนี้ เหมือนคห.6 ค่ะ (คนเดียวกันกับ คห.8 เลย) ตกลงกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยว่าเค้าจะชดใช้ให้เรายังไง