Fayme : Light & Lock Water Gel Sunscreen SPF 50+ PA++++
Wanviset2113ในช่วงที่อากาศแตะ 40 องศาและค่า UV Index วิ่งสุดบาร์ตลอดทุกวันแบบนี้ นอกจากจะเอาตัวเองไปอยู่ในที่ร่มแล้ว Sunscreen คือ BFF ที่ขาดไม่ได้จริงๆ แต่อย่างที่บอกตอนนี้สภาพอากาศร้อนและอบอ้าวจนบางครั้งสกินแคร์ต่างๆ ก็สามารถไหลมากองรวมกันที่คางได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที เราเลยหยิบกันแดดกันใจอย่าง Faymé Light & Lock Water Gel Sunscreen SPF 50+ PA++++ ที่แอบลองมาซักพักมาป้ายยาให้ชมกันฮะ...
The Claim
โดยทางแบรนด์เคลมว่า Faymé Light & Lock Water Gel Sunscreen SPF 50+ PA++++ เป็นซันสกรีนสูตรไฮบริดที่ใช้ UV Filter ทั้งแบบ Physical และ Chemical ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวี UVA, UVB และ Blue Light แบบครบองค์แถมยังผ่านการทดสอบการระคายเคืองต่อผิวโดยแพทย์ผิวหนัง (ภายใต้มาตรฐาน DRC ประเทศญี่ปุ่น) ว่าเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดสิวและไม่อุดตันผิว แถมยังมาในปริมาณ 60ml เรียกว่าใช้กันไปยาวๆ เลยฮะ
ซึ่งที่มาของความอ่อนโยนที่ทางแบรนด์เคลมได้นั้นมาจากการไม่ใส่สารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Alcohol, Paraben, Fragrance, Color และ Mineral Oil ลงไปในสูตรจึงช่วยลดปัจจัยที่อาจเกิดการระคายเคืองไปได้เยอะทีเดียวหละ
Packaging & Texture
ตัว Packaging (บรรจุภัณฑ์) ทางแบรนด์เลือกใช้เป็นแบบ Airless Pump ที่ถ้าใครติดตามเราจะรู้ว่านี่เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เราชอบที่สุดเพราะช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์จากปัจจัยภายนอกและลดการปนเปื้อนได้ค่อนข้างดี
Texture (เนื้อสัมผัส) ในรูปแบบ Gel-Based ที่บางเบาและซึมไวติดอันดับต้นๆ ของกันแดดที่เราเคยใช้มาและพอเซตตัวแล้วกลับมอบความชุ่มชื้นบนผิวได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เรารู้สึกทับจิตทับใจกับการจัดเต็มของส่วนผสมที่ร้อยเรียงและส่งเสริมกันและกันอย่างกลมกล่อม จนเราต้องขอแบ่งพาร์ทออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เป็น UV Filter และส่วน Active Ingredients ที่เป็นสารบำรุงอื่นๆ
Ingredients
นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เรารู้สึกทับจิตทับใจกับการจัดเต็มของส่วนผสมที่ร้อยเรียงและส่งเสริมกันและกันอย่างกลมกล่อม จนเราต้องขอแบ่งพาร์ทออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่เป็น UV Filter และส่วน Active Ingredients ที่เป็นสารบำรุงอื่นๆ
ทางแบรนด์ใช้สารกันแดดแบบ Encapsulated UV Filters ที่กักเก็บสารกันแดดด้วยเทคโนโลยีห่อหุ้มระดับนาโนช่วยคงประสิทธิภาพสารกันแดด ทำให้ปกป้องได้คงที่และยาวนานขึ้น แถมยังใส่มามากถึง 7 ชนิดทั้งในรูปแบบ Physical และ Chemical ครอบคลุมทั้งการปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB และ Blue Light แถมยังผ่านการทดสอบประสิทธิภาพของกันแดดแบบ in-vitro รวมถึงผ่านการเทสต์เรื่องการคงตัวของกันแดดมาเรียบร้อย
ในแง่ของสารบำรุงอื่นๆ ก็เด็ดไม่แพ้กันไม่ว่าจะเป็นวิตามินครอบจักรวาลอย่าง 5% Niacinamide ที่นอกจากจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระแล้วยังเป็น Brightening Agent ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปรับสมดุลน้ำมันบนผิวและช่วยลดการเกิดสิวยิ่งทำงานร่วมกับ Chamaecyparis Obtusa Leaf Extract แล้วยิ่งเพิ่มความสามารถในการยับยั้งเชื้อสิว P.acnes และช่วยลดการอักเสบได้อีก
แถมยังมี Dipotassium Glycyrrhizate + Portulaca Oleracea Extract ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการระคายเคือง ลดการอักเสบบนผิวพร้อมเสริมทัพด้วย Glycine Soja Phytoplacenta ที่ยับยั้งการทำลายคอลลาเจน กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในผิวและปิดท้ายด้วย Protection-P* ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Dust Protection ที่ช่วยผลักฝุ่นควันไม่ให้เกาะบนผิวช่วยลดผลกระทบจากมลภาวะ PM 2.5 สุดฮิตในปัจจุบันได้อย่างลงตัว
แถมยังมี Dipotassium Glycyrrhizate + Portulaca Oleracea Extract ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการระคายเคือง ลดการอักเสบบนผิวพร้อมเสริมทัพด้วย Glycine Soja Phytoplacenta ที่ยับยั้งการทำลายคอลลาเจน กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในผิวและปิดท้ายด้วย Protection-P* ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Dust Protection ที่ช่วยผลักฝุ่นควันไม่ให้เกาะบนผิวช่วยลดผลกระทบจากมลภาวะ PM 2.5 สุดฮิตในปัจจุบันได้อย่างลงตัว
Let's Apply & Result
จากที่เราลองใช้มาซักพักสิ่งแรกที่เราประทับใจที่สุดคงต้องยกให้ความบางเบาของกันแดดที่ทำออกมาได้ดีแบบตะโกน ทั้งบางเบา ซึมไว เกลี่ยก็ง่ายทาแล้วซึมเข้าผิวเลยทันที แถมยังไม่ทิ้งคราบขาวหรือไม่เกิดขุยระหว่างวัน ทำให้เราสามารถทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้วทั่วใบหน้าหรือหยิบมาเติมระหว่างวันได้สบายๆ
เรามีเก็บภาพทดสอบ Wear Test หลังทา Faymé Light & Lock Water Gel Sunscreen SPF 50+ PA++++ ประมาณ 8 ชั่วโมงที่ใช้ชีวิตตามปกติส่วนมากจะอยู่ในที่ร่มเป็นหลัก จะมีออกไปข้างนอกโดนแดด ความร้อน โดนลมบ้างประมาณวันละ 1 ชั่วโมง เท่าที่เรามองด้วยสายตาและสังเกตุจากผิวตัวเองแอบรู้สึกว้าวอยู่ไม่น้อยเรื่องความชุ่มชื้นที่ได้จากความบางเบาของกันแดด แน่นอนแหละว่าต้องมีความมันเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดาแต่สำหรับเราแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เอาจริงๆ แอบรู้สึกว่าผิวหลังผ่านไป 8 ชม. ดูสุขภาพดีกว่าด้วยซ้ำแหละ
โดยรวมเรามองว่า Faymé Light & Lock Water Gel Sunscreen เป็นกันแดดที่ครบเครื่องทั้งเรื่องการปกป้องผิวจาก UVA, UVB, Blue Light และ Pollution ในเนื้อสัมผัสที่แสนจะบางเบา เหมาะกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้เป็นที่สุด แถมยังได้สารบำรุงที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดผลกระทบจากรังสียูวี ช่วยลดการระคายเคืองและลดการเกิดสิวที่ค่อนข้างคาดหวังผลได้เลยทีเดียว
Discussion (13)