ว่าด้วยเรื่องน้ำๆ มันแอบมีผลกับผิวของคนเราด้วยนะ
Amohisaiเหตุเกิดเนื่องมาจากประสบการณ์โดยตรงค่า.... ไม่แน่ใจว่ากับคนอื่นจะมีผลด้วยหรือเปล่านะคะ
คือว่า เคยไปเข้าค่ายที่ต้นน้ำพะโต๊ะ จังหวัดชุมพรน่ะค่ะ เข้าข่ายเป็นเวลา สาม วัน สอง คืน
แต่เนื่องด้วยว่า ตัวข้าเจ้านั้น เป็นคนจัดการประสานงานด้านสถานที่ จึงมาพักก่อนเป็น สี่วัน สามคืนเจ้าค่ะ
แล้วมันก็เกิดขึ้นค่ะ จากการที่เข้าข่าย กลับไปบ้านนั้น บรรดาเพื่อนๆญาติๆ ผู้คนที่รู้จักที่พบเห็น
มาทักข้าเจ้าเป็นเสียงเดียวกันว่า ไปทำอะไรมา หน้าใสมากๆๆๆๆๆ
จริงๆนะคะ ไม่ได้ยกยอตัวเอง หน้าใสกิ๊งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ผิวนุ่มๆ ลื่นๆ เสมือนผิวเด็กมาเองเลยทีเดียว(แต่หลังจากออกจากค่ายมาได้ สองสามวัน ก็กลับเป็นเยี่ยงเดิม เศร้า...)
ตอนนั้นแปลกใจมากกกกกก เพราะว่า ตอนเข้าข่ายนั้น ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายอะไรกับผิวตัวเองเลย
อย่างมากสุดก็แค่ อาบน้ำ ล้างหน้า ทายากันยุง(ก็มันเป็นป่านี่คะ ยุ่งค่อนข้างเยอะ) แถมไม่ค่อยได้นอนอีก
เพราะต้องเตรียมแผนงานการจัดกิจกรรมกับเพื่อนๆจนตีสามตีสี่ ตื่นมาตีหก เพื่อปลุกผู้เข้าข่ายคนอื่นๆมาออกกำลังกายตอนเช้า
แล้วหน้ามันใสขึ้นได้ยังไงเนี้ย????
แต่แล้วข้าเจ้าก็ได้ค้นพบข้อแตกต่างในเรื่องหนึ่งของการเข้าข่ายในครั้งนี้ นั่นคือ....
เรื่องน้ำเจ้าค่ะ น้ำที่ใช้อาบกันที่ค่ายนั้น เป็นน้ำบิสุทธิ์มากๆๆค่ะ
เพราะเป็นน้ำที่เอามาจากต้นน้ำโดยตรงค่ะ(สามารถเอามากินได้นะเออ แต่เอามาอาบ อาจจะเพราะน้ำเหลือเฟือมั้ง?)
น้ำที่ใช้นั้นค่อนข้างเป็นน้ำทีเป็นกลาง หรือด่างหว่า? จำไม่ได้ แต่จากการที่อาบน้ำนั้นล้างสบู่ไม่ค่อยออกเลยค่ะ
ต้องล้างหลายรอบมากกกก เพราะงั้นจากข้อสรุป(ที่ไม่เป็นทางการ) ข้าเจ้าคิดว่า น้ำนี่มีผลต่อสภาพผิวคนเราจริงๆค่ะ
ว่าไปแล้วก็อยากกลับไปหน้าใสได้เหมือนตอนนั้นจังเลยค่ะ แต่จะให้ลงทุนเข้าป่าไปก็คงไม่ใช่เรื่อง เหอะๆ
Discussion (0)