พัฒนาการของเจ้าหญิง Disney ก่อน Snow White 2025 จะเจอกระแสต่อต้าน
candy102เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า Snow White ยุคโมเดิร์นส่อแววพังเพราะการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวจากต้นฉบับให้ woke เกินไปจนขัดใจแฟนๆ ทำให้มีผู้เปิดประเด็นพัฒนาการของเจ้าหญิงในประวัติศาสตร์ Disney เมื่อกาลเวลาหมุนเปลี่ยน ตัวละครเจ้าหญิงยอดนิยมต่างก็ได้รับการดีไซน์ให้ก้าวเดินออกจากค่านิยมเก่าหลายสิบปีก่อน ปรับเปลี่ยนมานำเสนอความกล้าแกร่งและพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม ส่งผลให้หนังหลายเรื่องประสบความสำเร็จอย่างสูง สวนทางกับสถานการณ์ปัจจุบันของ Snow White 2025 ที่ทำรายได้กระเตื้องขึ้นอย่างเชื่องช้าท่ามกลางกระแสต่อต้านในโลกออนไลน์ นำมาสู่การตั้งคำถามว่า จริงแท้แค่ไหนที่ Disney มุ่งเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การตลาดจนละเลยความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายผู้ชม? และหากไม่เร่งเปลี่ยนทิศทางก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่รอดพ้นจากแรงกระแทกจากสังคม?
นางเอกที่รับบทเจ้าหญิง Disney เคยคอมเมนท์ถึงบทบาทเจ้าหญิงที่เข้มแข็งไม่รอคอยความช่วยเหลือจากเจ้าชายมาก่อนที่จะเกิดดราม่า Snow White
ชาวเน็ทบางคนแชร์วีดีโอเปิดประเด็นในโลกออนไลน์ว่า นางเอก Disney คนอื่นๆก็เคยแสดงความคิดเห็นสนับสนุนเจ้าหญิงที่เก่งกล้าจนไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากเจ้าชายอยู่ฝ่ายเดียวมาแล้ว แต่พวกเธอไม่ถูกรุมถล่มเหมือนกับนางเอก Snow White และยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจจะสื่อถึงความสองมาตรฐาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะความไม่พอใจที่นางเอกลูกครึ่งละติน่าและเฉดมีสีผิวน้ำตาลได้รับเลือกให้รับบท Snow White ทั้งที่เธอดูแตกต่างจากคำบรรยายรูปโฉมในต้นฉบับว่า มีผิวพรรณขาวดุจหิมะ ริมฝีปากแดงสดดุจกุหลาบ ผมดำสนิทดุจไม้มะเกลือ เมื่อเธอหยิบยกเรื่องพลังหญิงและการเปลี่ยนแปลง Snow White ให้ห่างออกจากเวอร์ชั่น 1937 มาโพรโมทหนัง กลุ่มคนที่ไม่พอใจ casting ครั้งนี้อยู่แล้วก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว แฟนของ Rachel จึงได้ออกมา call out สังคมออนไลน์ว่า เลือกปฏิบัติเพราะมีอคติกับสีผิวและความเป็นละติน่าของเธอ แต่ก็ถูกโต้กลับว่า การแสดงความเห็นของเธอเป็นการกระทำที่ผิดที่ผิดเวลา เปรียบดังพลังทำลายล้างให้หนังล่มจม
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา character เจ้าหญิงให้เข้ากับยุคสมัยมิใช่เรื่องแปลกแหวกแนวแต่อย่างใด แฟนๆมากมายต่างเปิดใจชื่นชมเจ้าหญิง Disney รุ่นใหม่ที่ก้าวออกจากกรอบค่านิยมดั้งเดิม (แม้แต่ Snow White ฉบับตีความใหม่จากค่ายหนังอื่นๆก็นำเสนอตัวตนที่อาจหาญลุกขึ้นมาท้าชนกับความอยุติธรรมเช่นกัน) เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ได้ยึดติดกับ romance ของหนุ่มสาววัยทีนที่พบรักและแต่งงานกันอย่างรวดเร็วซึ่งเป็น norm เมื่อหลายสิบปีก่อน พวกเค้ารู้สึกเชื่อมโยงกับเรื่องราวของเจ้าหญิงที่พยายามค้นหาตัวเองและไขว่คว้าเป้าหมายให้สำเร็จโดยไม่ต้องรอให้คนนำโอกาสมาเสิร์ฟ และไม่จำเป็นต้องโฟกัสกับการครองคู่อย่างแสนสุขตรงตำราเทพนิยาย
ปรากฏชัดเจนว่า นางเอก Disney ในยุคหลังจะเห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเจ้าหญิงให้พึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น แล้วพวกเธอพูดถึงประเด็นนี้กันเช่นใดบ้างนะ?
Lily James บรรยายตัวตน Cinderella ไว้ว่า
"เราต้องการจะสร้างตัวตนของเธอให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ลดด้านที่เป็นผู้ถูกกระทำลงไป ฉันมองว่าความแตกต่างสำคัญคือเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้าชาย เธอไม่ได้เฝ้ารอเจ้าชายให้มาช่วยชีวิต เธอเข้มแข็งมากค่ะ เธอพร้อมต่อสู้ด้วยความกล้าหาญและมีจิตใจเมตตา มันจึงกลายเป็นพลังพิเศษของเธอ คุณจะได้เห็นคนสองคนได้พบกันแล้วค่อยๆตกหลุมรัก และพวกเค้าต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่ะ"
Emma Watson ผู้เคยปฏิเสธบท Cinderella และยินดีตอบรับบทนางเอก Beauty And The Beast เพราะเชื่อว่า นี่เป็นตัวละครที่สะท้อนตัวตนของเธอได้ดีกว่า เธอพูดถึงตัวตนของ Belle
"เรื่องที่น่าสนใจที่สุดเมื่อได้ชม Belle เป็นครั้งแรกก็คือ ถ้าเปรียบเทียบกับนางเอก Disney คนอื่นๆ เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเฝ้ารอความช่วยเหลือ มันไม่มีการช่วยเหลือเกิดขึ้นสักนิดเลยค่ะ เธออยากจะเดินทางท่องโลกกว้าง เธอไร้ความสนใจที่จะแต่งงานกับผู้ชายที่พยายามจะช่วยเธอ ฉันจำได้ถึงตอนที่ได้ชมหนังครั้งแรกและสัมผัสถึงความแตกต่างทันที และนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันปลาบปลื้มผลงานเรื่องนี้มาก"
Naomi Scott อธิบายถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับบท Jasmine เพื่อแฟนๆยุคใหม่เข้าถึงได้
"ใช่แล้วค่ะ มันมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป มันเป็นการขับเคลื่อนสู่ความก้าวหน้า ฉันจะต้องสวมบทบาทที่สร้างมาจากนางเอกการ์ตูนเมื่อ 27 ปีที่แล้ว และฉันยังจดจำได้ว่า ได้รับการสร้างเสริมพลังใจเมื่อได้ชมเจ้าหญิง Jasmine ฉันจึงอยากจะรักษาเจตจำนงนั้นไว้ แต่ฉันก็มองว่า เราจะต้องประยุกต์ตัวตนของเธอให้มีความคิดลึกซึ้ง มีความสามารถหลากหลาย ให้เธอบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจและมีความท้าทายมากขึ้น การตั้งเป้าหมายของเธอในการเป็นผู้นำนั้นมีความสำคัญต่อบรรดาเด็กสาวอายุน้อย พวกเค้าจะได้เห็นผู้หญิงที่มุ่งมั่นตั้งใจจะนำเสนอความเป็นตัวของตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ฉันอย่างจะทำให้สำเร็จค่ะ ฉันว่าการเปลี่ยนแปลงพล็อทมีความสำคัญต่อพัฒนาการตัวละครให้มุ่งไปข้างหน้าและทำให้เธอเผยความปรารถนาอย่างแรงกล้ายิ่งกว่าเดิม"
การแสดงทัศนคติของนางเอกสาวที่รับบทเจ้าหญิงใน live action ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของ Disney เหล่านี้ทำให้ชาวเน็ทถกเถียงในโลกออนไลน์ว่า หากเปรียบเทียบกับบทสัมภาษณ์ของ Rachel Zegler ซึ่งบรรยายตัวตนเจ้าหญิง Snow White ยุคใหม่ที่ไม่ได้ใฝ่ฝันถึงการตกหลุมรัก แต่ปรารถนาจะเป็นผู้นำโดยที่ไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากเจ้าชาย บริบทดังกล่าวดูไม่แตกต่างจากคำพูดของนางเอกเจ้าหญิง Disney คนอื่นๆ แต่เหตุใด มีเพียง Rachel เท่านั้นต้องเผชิญกับกระแสต่อต้านอย่างหนักหน่วง?
ชาวเน็ทที่ไม่ปลื้ม Rachel ฟาดฟันว่า ทัศนคติของเธอต่างหากคือตัวเจ้าปัญหา ไม่เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนบทบาท Snow White ให้เป็นผู้นำสุด strong ดราม่าปะทุรุนแรงกว่าเดิมเมื่อเธอเผยท่าทีรังเกียจต้นฉบับปี 1937 ที่ตราตรึงในใจแฟนๆมากมาย แตกต่างจากนักแสดงบทเจ้าหญิงคนอื่นๆ ที่กล่าวถึงผลงานต้นฉบับอย่างให้เกียรติและแสดงความซาบซึ้งใจที่ได้รับเลือกให้สวมบทเจ้าหญิงที่ผู้คนหลงรัก ไม่ได้เย้ยหยันถึงพล็อทเดิมที่อาจจะไม่ทันยุคสมัยปัจจุบัน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มว่า การแสดงความเห็นเชิงการเมืองที่เป็นประเด็นเปราะบางในสังคมที่มีปัญหาการแบ่งแยก ก็ยิ่งทำให้ Rachel มีภาพพจน์แย่ลงไปในสายตาของหลายคน โดยเฉพาะเมื่อมีการปลุกปั่นกระแสต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม จากจุดเริ่มต้นความขัดแย้งด้วยประเด็น casting นางเอกไม่ตรงใจแฟนๆ มันก็ลุกลามกลายเป็นการเปิดศึกความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มว่า การแสดงความเห็นเชิงการเมืองที่เป็นประเด็นเปราะบางในสังคมที่มีปัญหาการแบ่งแยก ก็ยิ่งทำให้ Rachel มีภาพพจน์แย่ลงไปในสายตาของหลายคน โดยเฉพาะเมื่อมีการปลุกปั่นกระแสต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม จากจุดเริ่มต้นความขัดแย้งด้วยประเด็น casting นางเอกไม่ตรงใจแฟนๆ มันก็ลุกลามกลายเป็นการเปิดศึกความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
ที่ผ่านมา เจ้าหญิง Disney ในอดีตเคยถูกวิจารณ์ว่ามีด้านที่ไม่เหมาะสม
วันเวลาที่หมุนเปลี่ยนทำให้บรรทัดฐานสังคมแตกต่างไปจากเดิม ผู้คนหันมาตั้งคำถามว่า เทพนิยายที่ฟังดูงดงามตรึงตราใจนั้นมีความเหมาะสมเพียงใดที่จะนำมาเป็นแบบอย่างให้กับเด็กๆ?
- บรรดาเจ้าหญิงเป็นเพียงสาวน้อยวัยทีนอ่อนต่อโลก และเส้นทางชีวิตของพวกเธอมักมุ่งไปยังการพบรักกับชายหนุ่มที่เพิ่งจะพบหน้ากันแล้วแต่งงานใช้ชีวิตอย่างหวานชื่น แต่หากเป็นโลกปัจจุบัน มันอาจจะถือเป็นการพรากผู้เยาว์ตามกฎหมายหลายประเทศ (Walt Disney เผยว่า เลือกนักร้องสาว Adriana Caselotti วัย 18 ปีมาพากย์เสียงเจ้าหญิง Snow White เพราะเธอมีเสียงใสราวกับเด็กสาว 14 ขวบ)
- ความยินยอม (consent) เป็นประเด็นหลักที่สร้างข้อถกเถียงมานาน เพราะใน animation โด่งดังบางเรื่องของ Disney จุมพิตแรกเกิดขึ้นในขณะฝ่ายหญิงไร้สติ ซึ่งในความเป็นจริง เจ้าชายที่สัมผัสร่างกายของเจ้าหญิงโดยที่ไม่ได้ให้ความยินยอมพร้อมใจอาจจะถูกตั้งข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ
- ภาพลักษณ์ของเจ้าหญิงในอดีตติดอยู่ในกรอบอุดมคติดั้งเดิม พวกเธอมีความใสซื่อบริสุทธิ์ อ่อนหวานนุ่มนวล อ่อนแอ มักต้องตกอยู่ในสภาวะผู้ถูกกระทำ เมื่อประสบภยันตรายจึงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องรอคอยรับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มผู้เก่งกล้าและตกหลุมรักเขาอย่างรวดเร็วเสมอไป
ประเด็นเหล่านี้นำไปสู่ข้อโต้แย้งภาพลักษณ์ตัวละครเจ้าหญิงที่ทำให้ผู้คนมากมายหลงรัก เพราะในขณะที่พวกเธอถูกยกย่องให้เป็นตัวแทนความดีงามไร้มลทิน แต่มีผู้มองเห็นภาพสะท้อนแนวคิดกดขี่ทางเพศที่ฝังรากลึกในสังคม หนำซ้ำยังถูกกล่าวหาหนักว่า เป็นการฉาบภาพสวยงามกลบเกลื่อนการล่วงละเมิดทางเพศ หากคำนึงถึงสวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้เยาว์ก็ควรจะปรับปรุงการเล่าเรื่องราวให้เข้าสมัยยิ่งขึ้น
นางเอกสาวชาวอังกฤษ Keira Knightley เป็นอีกคนที่เชื่อว่าตัวละครเจ้าหญิงในหนังบางเรื่องไม่เหมาะสำหรับลูกสาวของเธอ เธอได้ยกตัวอย่างหนัง Disney ที่ห้ามลูกดูไว้ดังนี้
"Cinderella เฝ้ารอให้ผู้ชายร่ำรวยมากอบกู้ชีวิตเธอ อย่าหาทำค่ะ ลุกมาช่วยเหลือตัวเองสิคะ"
"The Little Mermaid ที่จริงมันทำ"ให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจนะ เพราะฉันชอบหนังเรื่องนี้มาก เพลงประกอบก็แสนจะไพเราะ แต่ห้ามสละเสียงของตัวเองเพื่อผู้ชายเชียวนะ เฮลโหลว!"
Keira ยืนยันว่าไม่ได้แบนหนังการ์ตูนค่ายนี้จนหมด Dory เป็นตัวละครโปรดของลูกสาวเธอ Frozen และ Moana ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่คอมเมนท์ที่เธอพาดพิงสองเจ้าหญิง Disney ได้แบ่งความคิดเห็นจากโลกออนไลน์เป็นฝักฝ่าย เพราะแม้ชาวเน็ทหลายคนจะเห็นด้วยกับเหตุผลของเธอ แต่ยังมีอีกมากที่รู้สึกขัดเคืองใจที่เธอวิจารณ์เจ้าหญิงคนโปรดในแง่ลบ
ไม่กี่ปีต่อมา Keira เปลี่ยนใจยอมเปิด animation ดังกล่าวให้ลูกชม เนื่องจากสถานการณ์โรค COVID ระบาดที่จะต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านตลอดเวลาจึงไม่สามารถยึดมั่นอุดมการณ์เดิมได้ แต่ลูกสาวของเธอก็เปิดประเด็นสิทธิสตรีด้วยคำถามว่า เหตุใดเจ้าหญิงจึงต้องเป็นฝ่ายรอความช่วยเหลือจากใครบางคนเสมอ? เธอจึงอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า เรื่องราวลงเอยเช่นนั้นเพราะมันเป็นผลงานที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่เนิ่นนานมาแล้ว
"Cinderella เฝ้ารอให้ผู้ชายร่ำรวยมากอบกู้ชีวิตเธอ อย่าหาทำค่ะ ลุกมาช่วยเหลือตัวเองสิคะ"
"The Little Mermaid ที่จริงมันทำ"ให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจนะ เพราะฉันชอบหนังเรื่องนี้มาก เพลงประกอบก็แสนจะไพเราะ แต่ห้ามสละเสียงของตัวเองเพื่อผู้ชายเชียวนะ เฮลโหลว!"
Keira ยืนยันว่าไม่ได้แบนหนังการ์ตูนค่ายนี้จนหมด Dory เป็นตัวละครโปรดของลูกสาวเธอ Frozen และ Moana ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน แต่คอมเมนท์ที่เธอพาดพิงสองเจ้าหญิง Disney ได้แบ่งความคิดเห็นจากโลกออนไลน์เป็นฝักฝ่าย เพราะแม้ชาวเน็ทหลายคนจะเห็นด้วยกับเหตุผลของเธอ แต่ยังมีอีกมากที่รู้สึกขัดเคืองใจที่เธอวิจารณ์เจ้าหญิงคนโปรดในแง่ลบ
ไม่กี่ปีต่อมา Keira เปลี่ยนใจยอมเปิด animation ดังกล่าวให้ลูกชม เนื่องจากสถานการณ์โรค COVID ระบาดที่จะต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านตลอดเวลาจึงไม่สามารถยึดมั่นอุดมการณ์เดิมได้ แต่ลูกสาวของเธอก็เปิดประเด็นสิทธิสตรีด้วยคำถามว่า เหตุใดเจ้าหญิงจึงต้องเป็นฝ่ายรอความช่วยเหลือจากใครบางคนเสมอ? เธอจึงอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า เรื่องราวลงเอยเช่นนั้นเพราะมันเป็นผลงานที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่เนิ่นนานมาแล้ว
การปรับเจ้าหญิงให้ดูอิงกับความเป็นจริงและเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
Frozen หนึ่งในประวัติศาสตร์ความสำเร็จของ Disney ที่สามารถพิสูจน์พัฒนาการของเจ้าหญิงยุคใหม่ว่า เรื่องราวชวนฝันแบบ fairytale นั้นไม่ได้เข้ากับยุคสมัยเสมอไป แฟนๆต่างชื่นชม Disney ที่ฉีกกรอบด้วยพล็อทประชดประชันตัวเองที่เคยสร้างตัวละครเจ้าหญิงโลกสวยไม่ประสีประสาจนโด่งดังมาหลายคน เมื่อเจ้าหญิง Anna ได้พบเจ้าชายหล่อเหลาและขับร้องเพลงไพเราะคู่กันก็ทำให้เชื่อมั่นทันทีว่า นี่คือรักแท้! และยังทำเรื่องน่าเหลือเชื่อด้วยการตกลงรับคำขอแต่งงานของเขาทั้งๆที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่ทันข้ามวัน หนำซ้ำเธอยังดื้อรั้นไม่ฟังคำห้ามปรามจากพี่สาว แม้แต่เพื่อนร่วมทางผจญภัยก็ยังย้ำเตือนถึงความไม่คิดหน้าคิดหลังตัดสินใจแต่งงานกับคนที่เธอแทบจะไม่รู้จัก สุดท้ายเธอก็เกือบแพ้ภัยให้กับวายร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากหนุ่มแสนดี หรือจะเป็น Elsa ที่โดดเด่นทรงพลังจนกลายเป็นขวัญใจแฟนวัยเยาว์ เล่นเอา costume แบบเธอขายดิบขายดีอยู่นาน ความสุดยอดของ Elsa ถึงขนาดทำให้เด็กชายปลาบปลื้มเธอเช่นเดียวกัน ซึ่งตัวละครทั้งสองมีความแตกต่างจากเจ้าหญิง Disney เมื่อหลายสิบปีก่อนอย่างลิบลับ แม้พวกเธอจะเป็นเจ้าหญิง แต่ก็มีข้อบกพร่อง เคยเลือกเดินผิดทาง แต่ค่อยๆเรียนรู้พัฒนาตัวเองจนสามารถพลิกสถานการณ์ร้ายแรงให้คืนสู่ความสงบสุขได้
ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจจะสวนทางกับความรู้สึกของแฟนๆจนกลายเป็นกระแสต่อต้าน
Disney ยังผลิตผลงานที่เชิดชูเจ้าหญิงยุคโมเดิร์นออกมากอบโกยความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แต่การสร้าง live action ที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งการันตีกำไรมโหฬารนั้นมาพร้อมกับความท้าทายสูงเช่นกัน ไม่เพียงแต่ต้องพยายามเติมเต็มความฝันของแฟนๆที่ปรารถนาจะชมเวอร์ชั่นมีชีวิตที่ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบ ก็ยังต้องนำเสนอการตีความอย่างสร้างสรรค์และประยุกต์เรื่องราวให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ตราบใดที่ Disney ยังควบคุมคุณภาพของหนังให้ไม่ตกไปจากมาตรฐาน การปรับเปลี่ยนตัวละครเจ้าหญิงให้มีลักษณะโดดเด่นด้วยความกล้าหาญ ฉลาดเฉลียว มีความเป็นผู้นำพึ่งพาได้ ความแตกต่างเหล่านี้จะไม่รบกวนจิตใจแฟนๆแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ Disney สร้างความฮือฮาด้วยการคัดเลือกนักแสดงนำหนัง live action ด้วยวิธี colour-blind casting (ไม่จำกัดสีผิวและเชื้อชาติ ไม่จำเป็นต้องตรงกับภาพต้นฉบับในความทรงจำของผู้คน) สะท้อนถึงการปฏิรูปอุตสาหกรรมหนังด้วยความคิดหัวก้าวหน้า เชิดชูความหลากหลายและเป็นหนึ่งอันเดียวกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ ราวกับจะประกาศว่า 'ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าหญิงได้' ซึ่งกลุ่มคนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ได้ชี้ว่า ควรจะเปิดใจยอมรับเรื่องความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสังคมต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่หยุดนิ่งหรือถอยไปสู่ความล้าหลัง ผู้คนจึงควรโฟกัสกับความสามารถของเจ้าหญิง Disney โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับภาพเดิมที่คุ้นเคย
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า สาธารณชนจะเห็นดีเห็นงามกับ colour-blind casting กันอย่างพร้อมหน้า มันกลับกลายเป็นประเด็นที่ผู้คนถกกันอย่างดุเดือด แฟนหนังจำนวนมากมายต่างเรียกร้องว่า พวกเค้าไม่มีปัญหาหากจะปรับเปลี่ยนตัวตนภายในของเจ้าหญิงใน live action ให้กล้าหาญพึ่งพาตัวเองมากกว่า animation ต้นฉบับ หรือถึงจะดำเนินเรื่องราวแตกต่างออกไปบ้างก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแต่มอบบทนำให้กับนางเอกที่มีรูปโฉมคล้ายคลึงกับภาพเจ้าหญิง Disney ในความทรงจำ แต่เมื่อบทนี้ตกไปอยู่กับนางเอกที่มีเชื้อชาติและลักษณะภายนอกแตกต่างจากความคาดหวังของพวกเค้าอย่างสิ้นเชิง มันก็ไม่ต่างจากการทำลายความฝันแฟนๆให้พังป่นปี้ และทำนายได้เลยว่า จะเกิดกระแสต่อต้านจนหนังไม่ประสบความสำเร็จ
Discussion (2)