เพราะอะไรเซเลบที่ลดน้ำหนักจนผอมเพรียวลงจึงถูกโจมตีในโลกออนไลน์?

สำหรับผู้คนมากมาย ไขมันส่วนเกินคือสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ต้องทุ่มเทฟาดฟันเพื่อกำจัดมันออกไปให้ได้ หลายคนลงความเห็นตรงกันว่า ความอ้วนที่อยู่ห่างไกลจาก beauty standard ได้บั่นทอนความมั่นใจในตัวเองของพวกเค้าลงไป และที่สำคัญ ก็ยังต้องพบกับความวิตกกังวลกับความเสี่ยงกับความเจ็บป่วยร้ายแรงต่างๆ ที่มาพร้อมกับภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน แต่การลดน้ำหนักให้เข้าเกณฑ์สุขภาพดีนั้นไม่ใช่สิ่งที่แค่มุ่งมั่นทำตามทฤษฎีแล้วจะประสบความสำเร็จกันไปหมดทุกคน ยังมีปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่เป็นอุปสรรคที่ยากจะก้าวข้ามไปได้ แม้แต่เซเลบผู้มั่งคั่งบางคนที่สามารถเข้าถึงสารพัดตัวช่วยเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินก็ยังยอมรับว่า พวกเค้าต้องวนลูปกับสารพัดวิธีไดเอทแต่ก็ยังไม่เข้าใกล้เส้นทางความยั่งยืน และต้องเผชิญกับถ้อยคำหยามหยันจากสื่อและโลกออนไลน์ทุกครั้งที่น้ำหนักพุ่งกลับมาจากอาการ yoyo effect

แต่มันก็คล้ายกับตลกร้าย เพราะเซเลบที่ยอมรับเรื่องการใช้กลุ่มตัวยา Semaglutide หรือฮอร์โมน GLP-1 เพื่อเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักควบคุมไปกับการดูแลเรื่องสารอาหารและออกกำลังกาย หรือแม้แต่คนที่มีข่าวลือว่าใช้ยาฉีดนี้กลับต้องถูกพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาว่า พวกเค้าแสดงออกถึงความคลั่งผอมตามค่านิยมความงาม เมินเฉยที่จะใช้อิทธิพลความโด่งดังในการสนับสนุนแนวคิด body positivity เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนยอมรับรูปร่างที่แตกต่างหลากหลาย แม้กระทั่งคนดังที่เปิดเผยถึง healthy lifestyle จากวินัยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารที่เคร่งครัด ก็ยังถูกเหน็บแนมว่า ตอนที่มีเนื้อหนังอวบอิ่มดูดีกว่าเป็นไหนๆ แม้ที่ผ่านมานั้น ชาวเน็ทจะเคย bully เรื่องรูปร่างไม่ผอมของพวกเค้าเหล่านี้มาโดยตลอด

ตกลงแล้วจะเอายังไงกันแน่?

ไม่เพียงแต่ All about that bass  จะเป็นเพลงอันดับ 1 ที่สร้างชื่อให้กับ Meghan Trainor ในฐานะนักร้องสาวเสียงคุณภาพ แต่เธอยังได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามถึงการนำเสนอแนวคิด body postivity ด้วยเนื้อเพลงที่ประกาศว่า "ฉันไม่ใช่สาวไซส์ 2 แต่ฉันก็โยกย้ายส่ายได้" และ "ฉันจะนำเทรนด์บั้นท้ายใหญ่กลับมา" ช่วย empower สาวๆที่หมดขาดความมั่นใจเพราะไม่ได้มีรูปร่างผอมบางและทำให้มันถูกยกให้เป็นเพลง enthem ของสาวอวบ

แต่เมื่อ Meghan ดูแตกต่างไปจากตอนที่แจ้งเกิดเป็นดาวรุ่งวงการ pop ก็ทำให้ชาวเน็ทหลายคนแสดงความไม่พอใจว่า เธอหลงลืมจุดยืนของตัวเองในอดีตไปเสียแล้ว

รูปร่างที่ผอมลงผิดหูผิดตาของ Meghan ทำให้เกิดข่าวลือสะพัดว่า เธอเป็นหนึ่งในคนดังที่เข้าร่วมเทรนด์ลดน้ำหนักด้วย Ozempic (ยา Semaglutide ยี่ห้อดัง) และเมื่อไม่นานมานี้ เธอก็ได้ออกมาอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตว่า พยายามก้าวสู่เวอร์ชั่นที่สุขภาพดีและแข็งแกร่งที่สุดเพื่อลูกๆของเธอ เธอได้รับความช่วยเหลือจากนักโภชนาการและเทรนเนอร์ไปพร้อมกับใช้ยา Mounjaro (ยา tirzepatide ที่ใช้สำหรับโรคเบฺาหวานประเภท 2 และลดน้ำหนัก-รักษาน้ำหนักให้คงที่ที่ได้รับความนิยมอีกยี่ห้อ) หลังจากคลอดลูกคนที่ 2  

แต่แม้เธอจะยืนยันว่า ดีใจที่เลือกใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์มาช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากมันช่วยทำให้เธอรู้สึกยอดเยี่ยม แต่ก็ท้อใจอยู่บ้างที่เห็นคอมเมนท์ที่ให้ความสนใจที่รูปร่างของเธออย่างเดียวผุดขึ้นมามากมาย โดยคนเหล่านั้นไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องผลงานดนตรีหรือความมุ่งมั่นที่ทำให้เธอก้าวมาเป็นศิลปินในทุกวันนี้ และเห็นได้ชัดว่า ท่ามกลางคอมเมนท์ในแง่บวกที่ชื่นชมยินดีที่เธอสามารถลดน้ำหนักได้ตามความคาดหวังและดูสวยปิ๊ง ก็มีพลังงานด้านลบปะปนเข้ามาไม่น้อย บางคนกล่าวหาเธอว่า สร้างภาพศิลปินสาวที่เชิดชูรูปร่างที่แตกต่างหลากหลายเพื่อต่อสู้กับแนวคิด body image ที่กดดันให้ผู้หญิงคลั่งไคล้ความผอม แต่เธอกลับใช้ปากกาลดน้ำหนักยี่ห้อดังจนผอมฮวบ ซึ่งทำให้คนเหล่านั้นมองว่า เธอขาดความจริงใจในการรณรงค์เรื่อง body positivity

การแสดงครั้งล่าสุดของ Meghan ได้จุดประเด็นถกเถียงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเธอเผยลุคใหม่ที่ทำให้ชาวเน็ทลงความเห็นว่า มองเผินๆแล้วดูคล้ายกับ Paris Hilton  การขึ้นต้นเพลง All about that bass ที่เคยบอกว่า
, “It’s pretty clear, I ain’t no size two,” ได้ถูกเปลี่ยนเป็น “It’s pretty clear, I got some new boobs.” ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่เธอได้ประกาศให้แฟนๆได้รับรู้เรื่องการศัลยกรรมเสริมอกยกกระชับเพื่อความเต่งตึง หลังจากที่จิตตกกับอกหย่อนคล้อยมานาน เนื้อเพลงที่เปลี่ยนไปเป็นคนละแนวนั้นทำให้ความเห็นใน social media เป็นสองทาง 

บางคอมเมนท์ที่แดกดัน Meghan ได้รับการกดถูกใจเป็นแสนๆครั้ง

"ฉันคิดถึงตอนที่เธอมีเนื้อมีหนังอวบๆ ตอนนี้เธอก็แปลงร่างให้ผอมจนดูเหมือนคนอื่นๆใน Hollywood ที่ดูเกลื่อนเหมือนกันไปหมด"

"เธอเคยยืนหยัดเพื่อเหล่าสาวอวบที่ดูตรงข้ามกับรูปลักษณ์ของเธอในตอนนี้"

"Meghan คนเดิมหายไปไหนแล้ว? เธอคนนั้นสร้างชื่อเสียงในวงการดนตรีจากการสร้างเสริมกำลังใจให้กับสาวอวบแม้ว่าพวกเธอจะดูไม่ตรงกับค่านิยม"

"ยาลดน้ำหนักได้พรากเนื้อหนังที่บั้นท้ายของเธอไปหมด ไม่มี bass* เหลือแล้ว"

"เธอไม่มี bass เลยสักนิด เห็นแต่ความผอม ขอกดเลิกติดตาม”

"รูปร่างใหญ่จะถูกยกย่องว่าดูสวยงาม จนกระทั่งที่คุณร่ำรวยพอที่จะลดน้ำหนักจนผอมลง นี่คือสัจธรรมของวงการบันเทิง"

บางคนยังชี้ว่า Meghan เขียนเพลง All about that bass ยืนยันว่า เธอจะไม่ขอเป็นสาวผอมบางที่เสริมซิลิโคนจนดูเหมือนตุ๊กตา Barbie แต่ลุคใหม่ของเธอกลับดูตรงกันกับทุกอย่างที่เธอเคยต่อต้าน

"เธอยังคู่ควรจะร้องเพลงนี้อยู่เหรอ?"

 *Bass ในเพลงดังของMeghan เป็นการเปรียบเทียบกับก้นของสาวอวบ

คนกลุ่มหนึ่งอาจจะรู้สึกหงุดหงิดใจที่เห็นศิลปินสาวโชว์หุ่นใหม่ที่ผอมลงในการแสดงเพลง empower สาวอวบ แต่ยังมีชาวเน็ทที่ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่เรื่องเสียหายแม้แต่น้อย

"ถูกแล้วที่เธอเปลี่ยนเนื้อเพลงนิดหน่อย ตอนนี้เธอน่าจะใส่เสื้อผ้าไซส์ 2 ถ้ายังร้องตามเดิมก็ย้อนแย้งสิ"

" All about that bass ถูกปล่อยออกมาตั้งสิบปีก่อนแล้ว รูปร่างผู้หญิงที่เปลี่ยนไปในระยะเวลาขนาดนี้เป็นเรื่องต้องห้ามสินะ"

"ผู้คนตามจิกกัดเธอช่วงที่มีรูปร่างใหญ่ แต่ตอนนี้พอเธอผอมลงก็มาแพร่ความเกลียดชังใส่กันอีก นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า พวกเราไม่มีวันจะเอื้อมถึงความคาดหวังของสังคมได้เลย เพราะฉะนั้นก็จงเป็นในรูปแบบที่คุณต้องการเถอะ"

"Meghan ไม่จำเป็นจะต้องคงสภาวะน้ำหนักเกินไว้เพียงเพราะมันจะปลอบใจให้พวกคุณรู้สึกดีกับตัวเอง"

"คุณแม่ลูกสองที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจนดูแตกต่างไปจากเมื่อสิบปีที่แล้วนั่นมันผิดตรงไหน?"

"ไม่ว่าจะผอมหรืออวบ ถ้าเธอมีความสุขมันก็พอแล้วนี่นา ทำไมจะต้องมาบั่นทอนจิตใจผู้หญิงด้วยกัน?"

"เธอเลือกเส้นทางสุขภาพดีเพื่อตัวเองและลูกๆ มันเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมจะตาย หรือว่าอยากจะให้เธอป่วยสารพัดโรคจนอยู่กับลูกๆไม่ได้ล่ะ?"

สมาชิกบ้าน Kardasian-Jenner มักต้องพบกับคำครหาว่า ใช้วิธีศัลยกรรมเพื่อสร้าง beauty standard ที่ดูเหนือจริง แม้ว่าพี่น้องจะมี body type ที่แตกต่างกัน แต่พวกเธอจะมีบั้นท้ายใหญ่เด้งและเอวคอดกิ่วราวกับนาฬิกาทราย ทำให้ชาวเน็ทจำนวนมากปักใจเชื่อว่า พวกเธอเลือกตัวช่วยคือ BBL หรือการดูดไขมันจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเพื่อนำมาฉีดกลับเข้าไปในก้นจนมีขนาดบึ้มเป็น signature ของครอบครัว ซึ่ง Khloe ก็ไม่พ้นจะถูกเม้ามอยเรื่อง BBL เช่นเดียวกัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชาวเน็ทมักวิจารณ์ว่า เธอจะต้องต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะมักจะถูกจับไปเปรียบเทียบกับพี่น้อง หนักถึงขั้นที่ถูกเรียกว่า เป็นยายอ้วนแห่งครอบครัว Kardashian

แต่ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา Khloe ได้มุ่งมั่นกับการออกกำลังจนชาวเน็ทยอมรับถึงเส้นทางการปั้นหุ่นสู่ความลีน แต่ถึงกระนั้น น้ำหนักตัวที่ลดลงไปจากการคุมอาหารและการสร้างกล้ามเนื้อใน gym จนเหลือราวๆ 55 กิโลกรัม จากน้ำหนักหลังคลอดลูกคนแรกที่พุ่งไปที่ 92 กิโลกรัม ทำให้ชาวเน็ทฟันธงว่า เธอเลือกใช้ Ozempic ไม่ก็การศัลยกรรมเพื่อความผอมทันใจ ซึ่งเธอได้ออกมาโต้ตอบข้อกล่าวหานี้หลายครั้ง

"ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ผู้คนเอาแต่บอกว่า เธอจะต้องศัลยกรรมแน่ๆเพราะดูผอมลง ซึ่งฉันยืนยันนะว่า ฉันก้าวสู่เส้นทางปั้นหุ่นมาเป็นสิบปีแล้ว ก็วิจารณ์กันไปเรื่อย หรือถ้าใครอยากจะใช้วิธีศัลยกรรมหรือร่วมเข้ากระแส Ozempic ฉันบอกเลยนะว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตราบใดที่พวกเค้ารู้สึกดีกับตัวตนที่เป็น ฉันจะไปกำหนดกะเกณฑ์คนอื่นได้ยังไง"

Khloe ให้ความเห็นว่า ถ้าย้อนไปยังสมัยที่เธอยังตัวใหญ่กว่านี้แล้วมี Ozempic เป็นตัวช่วย เธอก็คงจะใช้มันเหมือนกัน เพราะเคยลองมาทุกเทรนด์ลดน้ำหนัก ยกเว้นเพียงวิธีเดียวที่ได้ผลจริงๆคือการเปลี่ยนแปลง lifestyle และตอนนี้เธอก็ค้นพบหนทางแห่งความยั่งยืนแล้ว

หลังจากที่โลกออนไลน์ฮือฮากับลุคใหม่ที่ผอมเพรียวของ Khloe แม้ว่า หลายคนจะชื่นชมยินดีที่เธอเลือกรักษาสุขภาพด้วยการดูแลสารอาหารและตารางการออกกำลังกายที่เข้มข้นจนสามารถเอื้อมถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ก็หลายคนที่แสดงความผิดหวังว่า ส่วนเว้าส่วนโค้งเต็มไม้เต็มมือของเธอหายไป และเธอดูผอมจนไม่เหมือน Khloe คนเดิมที่พวกเค้าปลาบปลื้ม รวมถึงข้อกล่าวหาว่า เธอใช้ความรวยเป็นทางลัดสู่หุ่นนางแบบ เพียงแค่ฉีด Ozempic ก็เนรมิตรูปร่างเพรียวบางได้ง่ายๆ และเมินเฉยที่จะให้เครดิตการออกกำลังที่เจ้าตัวมักจะแชร์ภาพกล้ามเนื้อระหว่างอยู่ใน gym

Khloe ได้ระบายความอึดอัดใจที่ถูกจับผิดเรื่องรูปร่างว่า

"หลังจากที่น้ำหนักของฉันเริ่มลดลง ฉันก็ถูกจิกกัดเหมือนกัน ฉันถูกโจมตีเรื่องความอ้วนมาตลอดตอนที่ยังตัวใหญ่กว่านี้ แต่พอผอมลงมาบ้าง ผู้คนก็หาว่า กล้าดียังไงถึงลดจนผอมขนาดนี้ มันทำให้เราหมดความมั่นใจเพราะเอาแต่วิ่งตามคาดคาดหวังของสังคม ฉันก็ได้นึกว่า นี่พวกคุณน่ะสับสนกันไปใหญ่แล้ว ในที่สุดแล้ว คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจไปได้หมดหรอก ฉันจึงต้องเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง"

การลดน้ำหนักคือสิ่งที่สื่อถึงการไม่สนับสนุน body positivity จริงหรือ? คุณคิดกันเช่นไร มาแชร์กับเราได้เลยค่ะ