<3

<3

Discussion (16)

ช่ายๆ ถ้าติดไฟสีส้มทั้งบ้านคงมีความสุขน่าดู สวยทุกที่ที่อยู่ในบ้าน 55

จิงๆๆค่ะชอบถ่ายรูปในห้องน้ำสวยๆๆเกินหน้าจิงเราเลย

กระจกห้องน้ำพารากอน ส่องแล้วหน้าเหียกมากๆ -*- หมดความมั่นใจ

แต่หลังๆทำใจละ ว่ามันคงเป็นเพราะแสงไฟที่นั่น ยังไงหน้าเราก็คงดูโอเคอยู่ 555

การที่เรามองเห็นวัตถุ เกิดจากการที่แสง ตกกระทบวัตถุนั้นๆ แล้วสะท้อนมาสู่ตาเราค่ะ  ดังนั้นวัตถุชิ้นเดียวกัน ถ้าใช้ไฟคนละประเภทส่อง จะทำให้เราเห็นสีต่างกันค่ะ
แสงไฟจากแหล่งกำเนิดไฟที่ต่างกันจะไม่เหมือนกันค่ะ  แสงที่เราเห้นว่าเป็นสีขาว (เหมือนแสงจากพระอาทิตย์) จะเกิดจาก แม่สีของแสงมารวมกันกลายเป็นสีขาว  แม่สีของแสงคือ red-green-blue ไม่ใช่ red-yellow-blue แบบระบายสีนะคะ 
แสงที่เพอเฟก คิอเเสงจากพระอาทิตย์ เพราะมีความยาวคลื่นของแต่ละสีในปริมาณสูง  (ครอบคลุมหมด)ในขณะที่แสงจากหลอดไฟแบบใส้ จะมีอุณหภูมิของสีต่ำ (~2700-3000K) จะสามารถทำให้เราเห็นวัตถุในสีโทนร้อนมากกว่า  >>เราเห็นว่าหน้าเรานวลเนียนนั่นเอง
สำหรับหลอดฟลูออเรสเซน เดี๋ยวนี้มีหลายระดับ (3000-4100-6500K) ยิ่งสูงขี้น จะทำให้เห็นสีโทนฟ้า-เขียว ชัดขี้น >>ความจริงปรากฏว่าเรามีรอยสิว รอยอื่นๆบนหน้าเรา เศร้าจิงๆ

ถ้าจะมา adapt ให้เข้ากับการแต่งหน้า อาจใช้ไฟทั้งสองประเภทควบคู่กันค่ะ   สำหรับตอนกลางวัน ถ้าห้องที่แต่งหน้าไม่มีหน้าต่างเลย แล้วใช้ไฟหลอดใส้ อย่างเดียว หากเราทาอายชาโดว์ฺโทนฟ้า ม่วง เขียว  สีที่ได้เวลาไปอย่ในออฟฟิศอาจเพี้ยนไปจากตอนแต่ง  อาจเปิดไฟฟลูออเรสเซนคู่ไปด้วย (ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ เพราะกลางวันมีแสงเเดดช่วยอยู่แล้วค่ะ)
แต่ถ้าจะไปงานกลางคืน หรือดินเนอร์ ที่รู้ว่าจะต้องไปเจอแสงส้มๆ  ตอนแต่งหน้าอาจเชคด้วยหลอดไฟใส้อีกทีค่ะ

แหะๆ ยาวจัง ไม่รู้ยิ่งทำให้งงกันมากขี้นรึป่าว..