เที่ยวโอเอซิสกลางทะเลทราย โอมานค่ะ
oliapple42เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาโรงเรียนที่สามีสอนอยู่กลางทะเลทรายประเทศการ์ต้าปิดเทอมเล็กค่ะ พวกเราเลยหาทริปเล็กๆรอบๆ Middle east แถบตะวันออกกลางกันดู และพอดีสามีมีแอร์ไมล์ หรือระยะทางสะสมกับสายการบินนึงของแถบนี้พอเช็คดู ตายห่าโดนตัดไปตั้งเยอะ เยอะจนสามารถบินไป กลับ กรุงเทพได้เลยนะนั่น ไม่เป็นไรเพราะยังเหลืออยู่เลยจัดการหาดูซิว่าไปที่ไหนได้บ้าง แล้วก็มาลงตัวที่ประเทศโอมาน ค่าตั๋วไป กลับ สามคน พ่อ แม่ ลูก รวมแล้ว หนึ่งพันแปดร้อยบาโอ้วแม่เจ้า ถูกเหมือนได้บินฟรีจะช้าอยู่ใย จองโรงแรม เช่ารถกันเลยดีกว่า แล้วก็ได้ฤกษ์บิน ตอนตีสามวันที่ สี่ เมษายน อย่างนี้แหละตั๋วฟรีได้ไฟล์ซะดึกเชียว ไม่เป็นไร
พวกเราขับรถไปจอดที่สนามบินเพราะคิดแล้วขับไปเสียค่าจอดกะแท็กซี่นี่ราคาพอๆกัน ไปต่อเครื่องที่ดูไบสองชั่วโมง ถ้าบินตรงนี่ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้ว เดินดูอะไรต่อมิอะไรในดิวตี้ฟรี สามีเดินหนีทันที ชริ รู้ทันนะยะ กลัวจ่ายชิมิล่ะ แต่ก็ไม่ได้ไรมาเพราะบ้าสั่งทางเวบไปซะเพียบแล้ว เลยแค่เดิน ดมๆดูๆ จนได้เวลาบิน ไปถึงโอมานประมาณสองโมงเช้า ไปติดต่อรถที่เช่าผ่านเนตไว้ แล้วขับสุ่มตามป้ายไปหาโรงแรม โรงแรมนี้อยู่ในมัสกัสเมืองหลวงของประเทศนี้ ประเทศนี้เล็กนิดเดียวค่ะแต่สวยงามมากในแถบฝั่งทะเลทรายเพราะมีหน้า มอนซูน หรือฤดูฝนที่ตกค่อนข้างเยอะทีเดียว ป่ะ ไปดูรูปกันดีกว่า
นี่คือสภาพบ้านเมือง รถไม่ติด ขับรถมีระเบียบวินัย ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ผ่าน
เมืองที่เราจะไปกันวันรุ่งขึ้นชื่อว่าเมือง นิซวะ ขับรถออกไปประมาณ หนึ่งร้อยยี่สิบหกกิโล ระหว่างทางที่ไปก็มีแต่ภูเขาหินและทะเลทราย ต้นไม้ที่ขึ้นได้ตามสภาพภูมิอากาศแบบนี้ก็คือ ปาล์ม
ไปถึงป้อมปราการที่ใช้เป็นที่ตั้งรับศัตรูสมัยก่อน ชื่อ นิซวะ พอร์ท
รูปถ่ายจากด้านบน
นี่ก็จากด้านบน
นี่ด้านล่างขายของที่ระลึกจ้า ขออภัยถ้าหน้าจะบานไปหน่อย ไม่ว่ากันนะ หุหุ
หนุ่มน้อยโอมานยิ้มหวานได้ใจ พี่มีสามีแล้วจ้ะ อิอิ
นี่เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ขากลับขับหลงเข้าไป เอ้าเจอสถานที่ท่องเที่ยวเฉย ดันใส่รูปไว้ด้านบนรูปก่อนหน้าซะนี่ ตามไปดูต่อค่ะ
บรรยากาศด้านบนและรอบๆ
ข้างทางที่รายล้อมด้วยภูเขาหิน
ลูกชายอเล็กซ์ สิบห้าเดือน สงสัยไปซะทุกอย่าง ขาลุยนะเนี่ยเห็นตัวแค่นี้ หน้าตานี่ได้แม่เห็นชัดๆ ว่ะฮ่ะฮ่ะ
กลับมาเดินเล่นสวนสาธารณะข้างโรงแรม ขอเม้าท์โรงแรมจองห้องใหญ่ไว้ไปถึงเจือกให้คนอื่นไปเฉยเหลือแต่ห้องเล็กจิ๋วนึง เอาวะ
เอาไงเอากันโรงแรมข้างๆก็เต็มหมดเลย
บรรยากาศอาทิตย์ตกดินกันหน่อยเป็นไง
หนุ่มๆโอมานเดินเล่น ชิลเอ๊าท์
กลางคืนไปเดิน ซุค หรือตลาดไนท์บ้านเราอารมณ์นั้นเลย ได้เทียนหอม กล่องใส่เครื่องประดับ หมวกโอมานให้ลูกชาย ไม่ได้ถ่ายรูปอ่ะ ขี้เกียจ น้ำหอม บางกลิ่นนี่ไฮโซเลยอ่ะแอบกลิ่นเดียวกับดิวตี้ฟรี ดูไบไม่รู้ชื่อไรจำไม่ได้ ขวดเล็กๆนี่สองร้อยบาทใช้ไปเหอะสามปี
แท่นแท๊น และนี่ก้คือพระเอกของเรื่อง โอเอซิสกลางทะเลทราย ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีซ่อนอยู่ในหลืบเขาหินพวกนี้ ตอนแรกขับไป
ตามแผนที่แต่ เอ๊ะทำไมไม่ถึงซักทีขับมา ร้อยกว่าโลแล้วเนี่ย สามีบอกว่า เหอะน่าอีกหน่อย ไหนๆก็มาแล้ว นึกในใจ หลงไม่เอานะ
เฮ้ย แกนี่ขาหลงด้วยเนี่ย
พอมาถึงเท่านั้นแหละโอ้โหหหหหหหหหห อะไรจะสวยงามปานนี้ แม่เจ้า ดูกันเอาเองเลยดีกว่า ไม่มีคำบรรยายอ่ะ สวย
นี่คือระหว่างทางขับไปแวะถ่ายรูปไป ข้ามเขาไปหลายลูกเหมือนกันแต่คุ้มแฮะ
พักทานเข้ากันในรถชมวิวไปด้วย หารุ้ไม่ว่าข้างหลังคือป่าช้า อะจึ๋ย คือชาวมุสลิมเค้าจะฝังศพกันหลังเสียชีวิตให้เสร็จภายในวันเดียวเลยน่ะค่ะ ชายทะเลอีกต่างหาก
แล้วงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา เราไปกันแค่สี่คืน สามวันค่ะ กลับมาขึ้นเครื่องและไปต่อเครื่องที่ดูไบอีกสองชั่วโมงไม่เลวเลยทีเดียวกับทริปที่ถูกสุดๆ จ่ายค่าเช่ารถไปหกพันบาทรวมค่าขับเกินหนึ่งพันห้าร้อยบาทขับเกินที่เค้ากำหนดมาอีก ค่าโรงแรมหกพันบาท ค่ากินไม่นับเพราะยังไงอยู่บ้านเราก็กินอยู่แล้ว ชิมิ ค่าเครื่องไปกลับอย่างที่บอก สามคนพ่อแม่ลูก หนึ่งพันแปดร้อยบาท โฮะๆ ไม่ถึงหมื่นห้า สะใจๆ
ปิดท้ายกันด้วยลูกชายสุดเลิฟที่ไปถึงไหนถึงกัน เพราะพ่อกับแม่ขาเที่ยวสุดๆทริปหน้ากลับไทย ไปบาหลี ต่อด้วย บาห์เรน หลังกลับมาจากไทย คริสต์มาส ไปต่อกันที่ตุรกี และเปรูจ้า แล้วจะเก็บภาพสวยๆมาฝากกันนะคะสาวๆ แต่ตอนนี้ขอเวลาไปทำงานต่อ
เดี๋ยวไม่มีตังเที่ยว อิอิ ที่นี่ทำงานวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดีค่ะ หยุด ศุกร์ เสาร์คร้าบ ขอบคุณที่เข้ามาชมจ้า
Discussion (42)