คุ้กกี้ที่ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น ใครเคยทานมั่งคะ ของญี่ปุ่น????

อยากรุอ่ะค่ะ
ว่าทานเเร้วใหญ่ขึ้นจริงมั้ย

พอดีอยากหน้าอกใหญ่อ่ะค่ะ
เเหะๆ
ใครรุจักมั่งคะ
มันชื่อว่า Fcup cookie อ่ะค่ะ
กล่องสีชมพูๆ มีรูปผู้หญิงช่วงอกใส่เกาะอกสีชมพูอะ่จ้า

ใครทานเเล้วใหญ่ขึ้นหรือทานเเล้วเป็นยังไง บอกทีนะคะ อยากรุ้มากเลย
ใครทานเเล้วเเพ้ก็บอกด้วยน๊า
ขอบคุณมากค่ะ^^


ปล เราโพสรูปไม่เป็นอ่ะ

Discussion (19)

อย.เค้าสั่งห้ามแล้วไม่ใช่หรอค่ะ
เคยเห็น print ad ใน Cawaii ไม่นานก็ออกข่าวเลย
^^
หวาาา น่ากลัวจังเลยค่ะ
ขอบคุณคุณ zninth มากๆนะคะที่หาข้อมุลมาบอกกัน

ขอบคุนทุกคห.นะคะ ^^


หนูไม่ทานเเล้วววว 555+
ตอนแรกก็เห็นมีหลายเว็บขายนะคะ ก็ดูๆกับเพื่อนอยู่ ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ ก็อ่านคอมเม้นมาบ้าง ก็ไม่รู้นะคะว่าผลจะดีจริงรึป่าว แต่เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งจะออกข่าวนะคะ สำหรับ คุกกี้ เอฟคัฟ ว่าไม่ปลอดภัย พวกร้านขายเครื่องสำอางค์ส่วนใหญ่ก็เก็บกันหมดค่ะ ไม่เห็นอีกเลย มันมีส่วนผลของกวาวเครือ เห็นว่ามันมีสารก่อให้เกิดมะเร็งไม่ใช่หรอคะ



ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ สมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างเป็น
อย่างมาก คือ กวาวเครือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกวาวเครือขาว ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Papilionaceae
ที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Pueraria mirifica ตามตำรายาไทยส่วนรากของสมุนไพรชนิดนี้
ถูกนำมาใช้เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงผิวพรรณและทรวงอกให้เต่งตึง โดยมีขนาดรับประทานเพียง
วันละหนึ่งเม็ดพริกไทย อีกทั้งมีข้อห้ามมิให้ใช้ในคนหนุ่มสาว ในทางพฤกษเคมี หัวกวาวเครือ
ประกอบด้วยสารที่ทราบสูตรโครงสร้างทางเคมีแล้วไม่ต่ำกว่าสิบชนิดแต่ที่น่าสนใจก็คือสาร
หลายตัวที่พบอยู่ในกวาวเครือนั้นเป็นสารที่จัดอยู่ในกลุ่มของไฟโตเอสโตรเจน (phytoestrogen)
นั่นคือเป็นสารจากพืชที่มีฤทธิ์เช่นเดียวกับเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนส์ที่ควบคุมลักษณะทางเพศ
ตลอดจนการทำงานของระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง ในยาแผนปัจจุบันได้มีการนำเอาสารในกลุ่ม
เอสโตรเจนมาใช้เป็นส่วนประกอบของยาคุมกำเนิด และใช้เป็นฮอร์โมนส์ทดแทนในสตรีวัยหมด
ประจำเดือน ซึ่งการใช้ในลักษณะดังกล่าวมานี้จะปลอดภัยที่สุดก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจร่างกาย
จากแพทย์ก่อนใช้ ประกอบกับมีการเฝ้าระวังติดตามการใช้อย่างติดต่อสืบเนื่อง ตัวอย่างเช่น
สตรีที่ใช้ฮอร์โมนส์ทดแทนควรจะได้รับการตรวจหามะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก ก่อนเริ่ม
ใช้และในขณะที่ใช้ฮอร์โมนส์เป็นประจำทุกๆปี เพราะมีรายงานทางการแพทย์ว่าการได้รับเอส
โตรเจนติดต่อกันนานๆ มีส่วนทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิดสูงขึ้น

ต่อคำถามที่ว่าไฟโตเอสโตรเจนที่มีอยู่ในกวาวเครือมีความปลอดภัยในการใช้สูงกว่าเอสโตรเจน
ที่ใช้กันอยู่ในยาแผนปัจจุบันหรือไม่ เรายังไม่สามารถจะตอบได้ในขณะนี้ หากแต่จะขอท้าว
ความไปถึงความพยายามที่จะนำเอาสารจากธรรมชาติเช่น สารเซียราลีโนน (zearalenone)
ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจนที่ได้จากเชื้อรามาทดสอบเพื่อใช้เป็นยาคุมกำเนิด หรือใช้
เป็นฮอร์โมนส์ทดแทนแล้วพบว่า สารนี้มีฤทธิ์กระตุ้นการเจริญของเซลล์มะเร็งเต้านมบางชนิด
ของมนุษย์ และมีรายงานว่าสารนี้มีผลเพิ่มขนาดของต่อมน้ำนมและกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านม
ในหนูทดลอง รวมทั้งการที่มีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่าว่าสารเจนิสเตอิน (genistein) ซึ่งเป็น
ไฟโตเอสโตรเจนที่พบอยู่ในกวาวเครือ มีฤทธิ์ทำให้เกิดความผิดปกติของโครโมโซมและเร่งการ
เจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ในหลอดทดลอง เหล่านี้น่าจะเป็นสิ่งที่เตือนให้
สังวรณ์ว่า ตามหลักการทางพิษวิทยาที่กล่าวไว้ว่าสารใดมีฤทธิ์สารนั้นย่อมมีพิษได้นั้นเป็นจริง
เสมอไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่จะเป็นสารจากธรรมชาติ


เภสัชกรหญิง มยุรี ตันติสิระ
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(ตีพิมพ์ใน มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับประจำอังคารที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๒)

กินยาคุมก็กระชับขึ้นนะคะ เหมือนจะตู้มขึ้นด้วย
ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว
แต่ว่าใส่ยกทรงคัพเดิม(B)มันคับ
พอลองเปลี่ยนคัพ(C) แล้วใส่สบายกว่ามากก

เหมือนจะได้เห็นข่าวว่า จากทาง อย. ว่าผิดกฎหมายรึไงเนี่ยค่ะ