Spoil (Review) : Paul & Joe Workshop [28Nov2007]
renne9สวัสดีค่ะทุกคน~ วันนี้มาเขียนอะไรยาวๆ ครั้งแรก ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วยนะคะ
เนื่องด้วยเมื่อวันก่อนไป Workshop ของ Paul&Joe มาค่ะ เลยเอามา Spoil กันให้ฟัง (สำหรับคนที่ไม่ได้ไป) พร้อมกับขอบคุณที่จัดงานขึ้นมาด้วยค่ะ (เนื่องด้วยลืมเอากล้องไปงาน .. พลาด .. เลยนำรูปประกอบมาจาก เว็บของ Paul & Joe นะคะ) ที่จะมาเล่าให้ฟัง ก็เป็นขั้นตอน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ได้ฟังมาค่ะ อาจจะไม่ครบทุกส่วนนะคะ บางอย่างอาจจะรู้กันทั่วไปอยู่แล้ว แต่ขอรวมมาเท่าที่จำได้หมดเลยแล้วกันค่ะ :)
งานจัดที่ Center Point Wireless เวลาบ่ายสองโมง เราเพิ่งปั่นงานกองโตเสร็จหลังจากลุยมาห้าวัน เลยขอลางานมาเลยทีเดียว
เนื่องด้วยเมื่อวันก่อนไป Workshop ของ Paul&Joe มาค่ะ เลยเอามา Spoil กันให้ฟัง (สำหรับคนที่ไม่ได้ไป) พร้อมกับขอบคุณที่จัดงานขึ้นมาด้วยค่ะ (เนื่องด้วยลืมเอากล้องไปงาน .. พลาด .. เลยนำรูปประกอบมาจาก เว็บของ Paul & Joe นะคะ) ที่จะมาเล่าให้ฟัง ก็เป็นขั้นตอน เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ได้ฟังมาค่ะ อาจจะไม่ครบทุกส่วนนะคะ บางอย่างอาจจะรู้กันทั่วไปอยู่แล้ว แต่ขอรวมมาเท่าที่จำได้หมดเลยแล้วกันค่ะ :)
งานจัดที่ Center Point Wireless เวลาบ่ายสองโมง เราเพิ่งปั่นงานกองโตเสร็จหลังจากลุยมาห้าวัน เลยขอลางานมาเลยทีเดียว
ในงานนี้แนะนำ Collection ใหม่ของ Paul & Joe สำหรับ Chirstmas Collection นี้ด้วย สีสวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ
เริ่มแรก เขาก็แนะนำเรื่องการล้างหน้า โดยใช้ Cleansing Milk ของ Paul&Joe ตามด้วย Toner และ Moisturizer ค่ะ (เราชอบของเค้ามากๆ เลยค่ะ คือ ปกติเราหน้าแห้งพอควร แต่ทาไปแล้วรู้สึกชุ่มชื่นมากเลย) อ๊ะ แล้วก็ปิดท้ายด้วย Moisture Mist อารมณ์ประมาณน้ำแร่ Evian ที่ฉีดหน้าค่ะ แต่หอมมากเลย
*Point* อย่าตกหล่นในซอกหลืบต่างๆ ที่แห้งจริงๆ เช่น ซอกจมูก ขอบปาก บางคนทาแบบเอามือป้ายๆ โปะๆ ครีมก็ไม่เข้าถึงส่วนที่ควรได้รับการดูแลจริงๆ จ้ะ
หลังจากนั้น คุณ Craig ก็เข้ามาสอนและสาธิตเกี่ยวกับ Base Make Up โดยขั้นตอนก็คือ Primer -> Foundation -> Concealer -> Powder
*Point* ลง Foundation ก่อน Concealer เพื่อให้รองพื้นมันช่วยปกปิดให้ก่อนส่วนหนึ่ง แล้วที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของ Concealer
*Point* การเลือกสีรองพื้น ให้ทดสอบบริเวณกรามเพื่อให้สีของหน้า Match กับสีที่คอ ไม่เด่นลอย หรือดำคล้ำกว่าคอ
*Point* ลงรองพื้นสีอ่อนกว่าปกติที่บริเวณหน้าผาก โหนกแก้มเพื่อให้เปล่งประกาย
อย่าลืมกันแดด!
แล้วก็มาที่ Eye Make Up ให้ลง Eye Concealer ก่อนเพื่อกลบแพนด้าและช่วยทำให้ สีอายแชโดว์ติดทนมากขึ้น แล้วก็แนะนำดินสอเขียนคิ้วของ P&J ที่มีสองสีในแท่งเดียว (คุณ Craig บอกมาว่า ที่เขามาทำที่ P&J เพราะดินสอเขียนคิ้วนี่แหละ เพราะมันเป็นสุดยอด ของสุดยอด) โดยให้ลงสีอ่อน แรเงาเบาๆ ให้ได้รูปคิ้ว แล้วใช้สีเข้มขีดเป็นเส้นๆ เพื่อให้ดูเป็นขนคิ้ว คิ้วที่ได้ออกมาจะเนียนมาก (เราว่ามันเวิร์คจริงๆ นะ ยิ่งคนไร้คิ้วอย่างเราด้วย) แล้วก็ลงสีตาต่อ
*Point* เวลาลง Eye Shadow หรือ เขียนคิ้ว ให้ยกแขนขึ้นแล้วลากขึ้น ปัดขึ้น เพื่อเปิดตา ไม่ใช่ลากๆ ลงมา เพราะจะทำให้ดูตกๆ เหี่ยวๆ
*Point* ปัด Eye Shadow แบบวนๆ เป็นวงกลมเล็กๆ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติเพราะระบบ หมุนเวียนของเรามันก็เป็น Circular เหมือนกัน และ .. ปัดวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง ไม่ใช่ว่าข้างนึงวนออก ข้างนึงวนเข้า จะไม่สมดุลกัน
*Point* เวลาลง Eye Shadow หรือ เขียนคิ้ว ให้ยกแขนขึ้นแล้วลากขึ้น ปัดขึ้น เพื่อเปิดตา ไม่ใช่ลากๆ ลงมา เพราะจะทำให้ดูตกๆ เหี่ยวๆ
*Point* ปัด Eye Shadow แบบวนๆ เป็นวงกลมเล็กๆ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติเพราะระบบ หมุนเวียนของเรามันก็เป็น Circular เหมือนกัน และ .. ปัดวนไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้าง ไม่ใช่ว่าข้างนึงวนออก ข้างนึงวนเข้า จะไม่สมดุลกัน
เมื่อลงสีเสร็จแล้ว ก็มาถึง Liner และ Lash เขาใช้ Eye Shadow ผสมน้ำเขียน Liner ออกมาสีสวยเลย ส่วนขนตา เขามีทริกให้ใช้มาสคาร่ากับแปรงแบนๆ (หรือแปรงลิป) แต้มสีลงไปบริเวณโคนขนตา (ไม่ใช่ผิวหนัง) เพื่อให้ดูว่ามีขนตาแบบธรรมชาติๆ (ส่วนนี้เราไม่แน่ใจว่าต่างจาก Inner มั้ย เพราะทำ Inner ไม่เป็นจ้า T^T แต่ เมื่อเช้าลองเขียนตามที่เขาบอกดูแล้ว Work ค่ะ - - b)
*Point* ปัดมาสคาร่าจากส่วนบนของขนตาก่อน เพราะจะช่วยปัดเศษ Eye Shadow ออกมาด้วย (อันนี้เราพยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ขนตาอย่างสั้น กลัวโดนเปลือกตา ต้องพยายามต่อไป) .. ตามปกติ คุณ Craig ปัดให้นางแบบ 3 รอบเลย
แล้วก็มาลงสีแก้ม สีของ Paul&Joe มีสองสีในตลับเดียว ใช้โดยการวนแปรงเป็นวงกลม อยากได้โทนมีฝั่งไหนมากกว่าก็วนไปทางฝั่งนั้น
*Point* เช่นเดียวกับ Eyeshadow เวลาปัดควรจะปัดขึ้นจ้า
*Point* ปัดมาสคาร่าจากส่วนบนของขนตาก่อน เพราะจะช่วยปัดเศษ Eye Shadow ออกมาด้วย (อันนี้เราพยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จ ขนตาอย่างสั้น กลัวโดนเปลือกตา ต้องพยายามต่อไป) .. ตามปกติ คุณ Craig ปัดให้นางแบบ 3 รอบเลย
แล้วก็มาลงสีแก้ม สีของ Paul&Joe มีสองสีในตลับเดียว ใช้โดยการวนแปรงเป็นวงกลม อยากได้โทนมีฝั่งไหนมากกว่าก็วนไปทางฝั่งนั้น
*Point* เช่นเดียวกับ Eyeshadow เวลาปัดควรจะปัดขึ้นจ้า
มาถึงปาก น่าจะเนื่องด้วยเวลาใกล้จะหมดแล้ว เลยไม่ได้ลงรายละเอียดมาก แต่ คุณ Craig บอกว่า ลิปสีแดงทำให้ผู้หญิงดูงาม สง่าขึ้นมากมาย แต่หลายๆ คน ไม่ค่อยทาลิปเพราะคิดว่าแก่ (คาดว่า คงไม่ใช่หลายๆ คนใน Jeban แน่นอน) แต่ลิปสติคเนี่ย ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แล้วก็เทรนด์กำลังจะมาด้วย Full Lip Color .. เราเอง ชอบลิปสีแดงเป็นทุนเดิม (แต่ไม่เคยกล้าทาออกนอกบ้าน เพราะทาทีไรแล้วกระดำกระด่าง สีไม่ค่อยเสมอกัน ยังคงอ่อนด้อยนัก อีกทั้ง แต่งตัวไม่เข้ากับลิปสีแดงแบบสุดฤทธิ์) เลยไปขอให้เขาช่วยเจิมลิปสีแดงมาประทับบนปากเราซักที .. คนในห้องทักว่า สวยขึ้น แล้วก็ดูบุคลิคเปลี่ยนไปเลยค่ะ ปลื้ม~
*Point* ใช้ Lip Liner!! Lip Liner (ดินสอเขียนขอบปาก) ช่วยแก้ไขรูปทรงของปากให้สมดุล ทำให้ปากดูมีรูปทรงสวยงาม แก้ไขรูปปากได้เลย (เราไม่เคยใช้เลย เพราะคิดว่าจะทำให้ดูแก่) เผลอๆ สำคัญกว่าสิปสติคอีก เพราะ Lip Liner ใช้แทนลิปสติคได้ด้วย
*Point* ถ้าลิปสติคมักจะเปื้อนฟัน ให้เอานิ้วแยงเข้าไปในปาก (คล้ายๆ เวลากินจุ๊ปปาจุ๊ป) แล้วดึงออกมา จะทำให้ลิปส่วนเกินติดออกมาด้วย .. แต่ของเรามันไปติดที่เขี้ยวอ่ะสิ - -;
ต้องขอชมทางทีมงานนะคะ ที่จัดงานออกมาได้เป็นกันเองดี อาจจะมีติดขัดบ้าง เพราะคาดว่าน่าจะเป็นรอบแรก แต่เราไปแล้วชอบค่ะ :)
ส่วนเรื่องตินี่ ปกติเราไม่ค่อยติใคร (เอ่อ ไม่ค่อยได้มองข้อเสียนั่นเอง .. จริงๆ แล้วเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดีนะ เวลาทำงานจะประเมินไม่ค่อยถูก แล้วก็ให้คำแนะนำไม่ค่อยได้) แต่ได้คุยกับผู้ร่วมงานท่านหนึ่ง แล้วเขาให้ความเห็นว่า
- น่าจะมีพนักงานมาดูแลประจำโต๊ะเลย เพราะเขาตามไม่ค่อยทัน (เผอิญโต๊ะเราอยู่ใกล้พนักงาน เลยมีพนักงานมาดูแลเป็นอย่างดี คาดว่าที่ไม่ได้ไปยืนแทรกประจำโต๊ะ เพราะอาจจะดูไม่ดีเวลาที่มีคนพูดอยู่ข้างหน้าแล้วยืนโด่ๆ กันกลางห้อง สำหรับโต๊ะกลางๆ)
- แล้วก็พนักงานไม่ได้แต่งหน้าแบบเนียนกิ๊งเท่าไหร่ (แต่เราชอบแบบนี้นะ ดูเป็นคนหมู่เราดี เป็นพวกถ้าเจอคนสวยๆ แล้วจะประหม่าหน่ะค่ะ)
*Point* ใช้ Lip Liner!! Lip Liner (ดินสอเขียนขอบปาก) ช่วยแก้ไขรูปทรงของปากให้สมดุล ทำให้ปากดูมีรูปทรงสวยงาม แก้ไขรูปปากได้เลย (เราไม่เคยใช้เลย เพราะคิดว่าจะทำให้ดูแก่) เผลอๆ สำคัญกว่าสิปสติคอีก เพราะ Lip Liner ใช้แทนลิปสติคได้ด้วย
*Point* ถ้าลิปสติคมักจะเปื้อนฟัน ให้เอานิ้วแยงเข้าไปในปาก (คล้ายๆ เวลากินจุ๊ปปาจุ๊ป) แล้วดึงออกมา จะทำให้ลิปส่วนเกินติดออกมาด้วย .. แต่ของเรามันไปติดที่เขี้ยวอ่ะสิ - -;
ต้องขอชมทางทีมงานนะคะ ที่จัดงานออกมาได้เป็นกันเองดี อาจจะมีติดขัดบ้าง เพราะคาดว่าน่าจะเป็นรอบแรก แต่เราไปแล้วชอบค่ะ :)
ส่วนเรื่องตินี่ ปกติเราไม่ค่อยติใคร (เอ่อ ไม่ค่อยได้มองข้อเสียนั่นเอง .. จริงๆ แล้วเป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดีนะ เวลาทำงานจะประเมินไม่ค่อยถูก แล้วก็ให้คำแนะนำไม่ค่อยได้) แต่ได้คุยกับผู้ร่วมงานท่านหนึ่ง แล้วเขาให้ความเห็นว่า
- น่าจะมีพนักงานมาดูแลประจำโต๊ะเลย เพราะเขาตามไม่ค่อยทัน (เผอิญโต๊ะเราอยู่ใกล้พนักงาน เลยมีพนักงานมาดูแลเป็นอย่างดี คาดว่าที่ไม่ได้ไปยืนแทรกประจำโต๊ะ เพราะอาจจะดูไม่ดีเวลาที่มีคนพูดอยู่ข้างหน้าแล้วยืนโด่ๆ กันกลางห้อง สำหรับโต๊ะกลางๆ)
- แล้วก็พนักงานไม่ได้แต่งหน้าแบบเนียนกิ๊งเท่าไหร่ (แต่เราชอบแบบนี้นะ ดูเป็นคนหมู่เราดี เป็นพวกถ้าเจอคนสวยๆ แล้วจะประหม่าหน่ะค่ะ)
สุดท้ายนี้ ต้องขอบคุณเว็บ Jeban ที่มีข่าวดีๆ มาบอกพวกเราตลอดเลย
และ ขอบคุณ Paul & Joe ที่จัด Workshop นี้ขึ้นมาค่ะ
น่าเสียดาย วันนั้นท้ากับเพื่อนไว้ว่าจะไม่สอยอะไรติดมือกลับมา .. แต่ดูท่าทางแล้ว ได้ไปสอยลิปมาแน่ๆ เลย วันนั้นกลับบ้านไปล้างออก ปากนุ๊ม นุ่มหล่ะ > <~ Red Lip!!
น่าเสียดาย วันนั้นท้ากับเพื่อนไว้ว่าจะไม่สอยอะไรติดมือกลับมา .. แต่ดูท่าทางแล้ว ได้ไปสอยลิปมาแน่ๆ เลย วันนั้นกลับบ้านไปล้างออก ปากนุ๊ม นุ่มหล่ะ > <~ Red Lip!!
Discussion (9)
ขอบคุณค่าที่มารีวิวให้อ่าน เราจะได้เตรียมตัวไว้สำหรับพรุ่งนี้ค่า
ของเรารอบเย็นจ้ะ แต่คงไปนั่งฟังเฉยๆ เพราะวันนี้แพ้สกินแคร์ หน้าแย่มากๆเลย T^T
ทริคเยอะแยะเลยค่ะ ดีจังเลย
แพคเกจเค้าสวยดีนะคะ น่าสะสม
ขอบคุนมากค่า
แพคเกจเค้าสวยดีนะคะ น่าสะสม
ขอบคุนมากค่า
ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้ไปประกอบการแต่งหน้าเยอะขึ้นด้วย ดีจัง
ที่เราไป เขาให้ไปเลือกที่นั่งเองหน่ะค่ะ
ขอบคุณที่เอามาเล่าให้ฟังนะคะ มีข้อมูลที่ดีมากๆ
collectionใหม่งามอะ