ขอคำแนะนำด้วยค่ะ นิติ มธ Vs เภสัช จุฬา

เลือกทำสิ่งที่รักค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นอะไร ถ้าเราชอบสิ่งนั้น เรามักจะทำได้ดีและมีหนทางไปเสมอ
ถามใจตัวเองดีๆค่ะว่าชอบอะไรแล้วก็เดินหน้าลุยเลย เสียเวลาปีสองปีนี่เล็กน้อยมากค่ะ พี่ใช้เวลานานมากกว่าจะค้นหาตัวเองเจอ(หกปีนะ) กว่าจะเจอว่าชอบอะไรจริงๆ งานที่ทำตอนนี้หนักและเหนื่อย แต่พี่มีความสุขมากค่ะ

ถ้าน้องทำอะไรแล้วมีความสุขต่อไปที่บ้านต้องเข้าใจแน่นอนค่ะ ใจเย็นๆ ใช้เวลาพิสูจน์นะคะ ขอให้โชคดีค่ะ

งานดี เงินดี แค่ไหน ถ้าใจไม่รักก็จบจ๊ะ

ถามตัวเองดีๆ (แต่เท่าที่เห็น ท่าจะเอนไปทางเภสัชแต่ที่บ้านไม่เห็นด้วยใช่ไม๊ล่ะ)

ชีวิตอีกไกล ตัดสินใจดีๆนะจ๊ะ

พี่จบหมอมา 2 ปีแล้ว ทำงาน รพ.ชุมชนทางชายแดนใต้

มีเพื่อนในคณะ2-3 คน ซิ่วจากนิติมธ. มันบอกว่า เรียนแล้วจับสาระอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้หมายความว่า เรียนแล้วไม่มีสาระ แต่หมายถึง ตัวมันนั่นแหละ ที่ไม่สามารถ conclude เนื้อหาสาระได้ มันคิดว่าคงไม่เหมาะกะมันจริงๆ ก็เลยซิ่วมาเรียนหมอ  เรียนได้ดีซะด้วย

สำหรับเภสัช ถ้าไม่เลือกงาน ทำงานในรพ.รัฐ เห็นจะมั่นคงสุด รายได้พอประมาณ ไม่มากไม่น้อย แต่ถ้าไม่ชอบ ดีเทลยารายได้งาม แต่เหนื่อยเหมือนกันเดินทางบ่อย (แต่ก็เที่ยวบ่อย ^^) แต่เค้าเลือกคนเหมือนกันนะจ๊ะ งานอื่นก็เยอะ รง. บริษัท คสอ เป็นนักวิจัย เปิดร้าน (แต่ต้องมีทุน) เยอะแยะมากมาย แต่เพื่อนพี่บางคน หางานไม่ได้ ต้องไปขายยาตามร้านบูทส์อะ ไม่ได้นั่งเลยตลอดการทำงาน (ที่บูทส์ไม่มีเก้าอี้ เคยสังเกตกันบ้างป่าว)

เอาไว้ประกอบการพิจารณาแล้วกัน เพราะทุกอาชีพมีการแข่งขันค่ะ ผู้จ้างย่อมอยากได้ "หัวกะทิ" แต่เภสัช (สายสุขภาพอื่นๆด้วย) มีอัตราแข่งขันน้อยกว่า (หมายถึงตอนทำงานนะ สอบเข้าไม่เกียว) ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ต้องดิ้นรน "เลื่อนขั้น" 

อ้อ ลองเก็บไปคิดอีกนิด ถ้าน้องไม่ยึดติดกะสถาบัน คะแนนติดเภสัชจุฬา พี่ว่า ถ้าอยากเรียนหมอ สถาบันต่างจังหวัดบางที่ ติดสบายๆเลยนะ (หมายถึงถ้าคิดสั้นอยากเรียนขึ้นมา ^-^)

สุดท้าย แม่พี่ชอบบอกว่า "ไปที่ชอบๆ ตั้งแต่ยังเป็นๆเถิด ให้บอกตอนตายก็สายเสียแล้ว "

จงเลือกสิ่งที่รักค่ะ

เรียนเภสัชอยู่ค่ะ ปี3 แล้วว

ไม่เสียใจที่เลือกเรียนคณะนี้ และขอยืนยันว่าไม่ตกงาน


ชัดเจน จบบ

พี่ก็เรียนเภสัชอยู่ค่ะ ปีสุดท้ายแล้ว แต่ตอนม.6พี่ต่างกับน้องนะคะ ตอนเอ็นยังไม่รู้เลยว่าอยากเรียนอะไรแต่แม่พี่บอกว่าเป็นลูกผู้หญิงยังไงก็อยาก ให้เรียนสายวิทย์เพราะหางานง่ายกว่า(อันนี้แล้วแต่ความเชื่อของผู้ใหญ่บางท่าน นะคะ)ไม่อยากให้ลำบากและพี่ของพี่ก็เป็นหมออยู่แล้ว พี่ก็เชื่อค่ะ เลือกเรียน เภสัช นี่ก็ผ่านมาเกือบ 5 ปีแล้ว พี่ไม่เสียใจเลยที่ได้เรียนเภสัช เพราะพี่รู้ตัวแล้ว ว่าเหมาะกับอะไร ชอบอะไร กว่าจะรู้ตัสก้อใช้เวลาเหมือนกันนะคะ ประมาณ 3ปี ได้ มานั่งนึกย้อนไปว่าถ้าเราไม่เชื่อแม่ในวันนั้น ชีวิตคงคิดหนักน่าดู หรือถ้าเรา ไม่ชอบเภสัชแต่เรียนอยู่ปี 3 แล้ว คงกลับไปนับหนึ่งยากแล้วล่ะค่ะ ส่วนเรื่องนิติ ไม่ขอออกความเห็นนะคะ เพราะไม่ค่อยรู้ข้อมูลเกี่ยวกับด้านนี้ แต่มี ลูกพี่ลูกน้องจบนิติ ม.ธ. เรียนเก่งมากๆ (แต่แอบมีผมขาวงอกแล้ว - * - ) เค้าก็ดูมีความสุขกับชีวิตนะคะ เพราะเค้าชอบและรู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร สุดท้ายนี้ พี่อยากให้น้องลองคิดดูว่าเราชอบและเราเหมาะกับอะไรนะคะ เพราะ สายที่น้องเลือกมันดีทั้งคู่ ตอนนี้อยู่ที่น้องเองแล้วว่า น้องชอบอะไร ทำในสิ่งที่ เราชอบ ผลงานที่ออกมาก็จะดี แล้วพี่ก็เชื่อว่าในวันนึง ครอบครัวของน้องต้อง เข้าใจจ้า

นิติ มธ รหัส 49 จ้ะ
จะขึ้นปี 4 น่ะเอง


เอาง่ายๆเลยละกัน
เพิ่งเรียนผ่านมาปีเดียวใช่มั๊ย?

เรียนกม.ไปแค่ 2 ตัวใช่มั๊ย?


ถามตัวเองให้ได้ว่าชอบจริงๆรึป่าว
เพราะไม่งั้นนะน้องจ๋า
ปี 2-3 มันคือนรกชัดๆ
นรกขุมอเวจีด้วย
มันหนักหนาสาหัส และทรมานเอามากๆอ่ะ


ถ้าไม่คลิกกับนิติก็เปลี่ยนสายเถอะ
เปลี่ยนตอนนี้ยังทัน
เพราะอย่างที่พี่ๆบอกกันน่ะแหละ
การแข่งขันสูงมากกกก
ถ้าไม่ได้คะแนนระดับ 80 up นะน้อง
จะหาที่ฝึกงานยังยากเลย


ถามใจตัวเองดีๆละกันน้า

สุดท้ายก็ขอให้โชคดีจ้ะ


ปล.เราก็อธิบายไปดิ่ว่ามันไม่ชอบไรงี้  ที่บ้านเค้าไม่ได้มาเรียนกับเราด้วยซะหน่อย