บอกแม่ดีไม๊ คิดไม่ตกเลยย

คิดมาหลายวันแล้วไม่รู้จะบอกดีไม๊

คือว่าตอนนี้เราอายุ19แล้วคะ มีแฟนรุ่นเดียวกันเค้านิสัยดีนะ ให้เกรียติเรามาก เข้าใจเรามาตลอด แต่ตอนนี้เราจบม.6ทั้งคู่แต่แฟนจะไปเรียนกทม.ส่วนเรายังเรียนม.แถวบ้านต่อเพราะพ่อกะแม่ไม่ให้ไปไหน เราเป็นลูกคนเดียวพ่อแม่หวงมากกกกก ไปไหนเองแทบไม่ได้แม่ไม่ให้ไป เราคบกับแฟนมาเกือบ3ปีปิดแม่มาตลอดอะ ส่วนแฟนเราเค้าพาเราไปพบพ่อแม่เค้ามาแล้ว พ่อแม่เค้าก็ดีกะเรามากอะ เรา2คนคุยกันตั้งนานแล้วว่าจะบอกแม่เราว่าเราคบกัน แต่เราเองไม่กล้าบอกแม่กลัวแม่จะคิดมาก กลัวแม่ว่า กลัวแม่ไม่เข้าใจ จริงๆแล้วเราก๊คงไม่ได้เจอกับแฟนอีกนานเพราะเค้าต้องไปเรียนต่อเหมือนกับไม่จำเป็นต้องบอกแม่ก็ได้แต่เราไม่อยากปิดแม่อีกแล้วอะ เพราะเราเองก็จะเรียน ม.แล้ว อีกอย่างแฟนเราเค้ากลับบ้าน10วันแล้วเด๋วเค้าก็จะกลับไปเรียนเพราะม.ไกล้เปิด เค้าบอกว่าบอกแม่ไปเลยเพราะเค้าอยากไปคุยกับแม่เรา เค้าอยากให้แม่รู้ว่าเราคบกัน 


พี่ๆเพือ่นๆคนไหนมีประสบการณ์ หรือใครที่เป็นแม่แล้วคงจะเข้าใจแม่เราช่วยบอกเราหน่อยนะว่าเราจะบอกแม่ดีไม๊แล้วบอกยังไงดี



ขอบคุณทุกคนล่วงหน้านะ

Discussion (20)

น่าจะบอกแม่นะ
เราเป็นแม่
จะดีใจเมื่อลุกมีสุข
จะทุกขืใจมากกว่าลูก ถ้าลุกทุกข์ใจ
สุข หรือทุกข์  แม่ควรรุ้
เพราะ ท้ายที่สุด คนที่ช่วยเราตลอดคือแม่
มีแฟนแล้วนำพา กันและกัน ไปในทางที่ดี แม่น่าจะสุขใจนะ

แต่ แม่ก้แตกต่างกันนะ
ค่อยๆ บอกละกัน
บอกพ่อก็ได้

 

เราว่าเรื่องแบบนี้

ก็น่าจะบอกให้ที่บ้านรู้นะคะ...

แต่ก็ต้องดูว่า ที่บ้านแนวไหนยังไง

แล้วเวลาเราบอกก็ต้องใช้ชั้นเชิงมากน้อยแค่ไหน

อิอิ...

ผู้ใหญ่เค้าจะได้รู้ไว้ว่าคนนี้นะ

มาคบอยู่กับลูกของเค้าอะไรยังไง

จะดีกว่าทั้ง 2 ฝ่ายเลยเนอะ




อย่างข่าวที่ นศ. ถูกฆ่านั่นก็อีกเรื่องที่เป็นประเด็น

แล้วจะมาเสียใจมากๆเลยที่ไม่ได้บอกพ่อแม่ว่ามีแฟนอะไรยังไง...





เลยอยากให้บอกมากกว่าอ่าค่ะ

สู้ๆนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...^^ 

ตอน ม.ต้น เคยแอบมีแฟนนะ

เพราะพ่อกับแม่ จะห้ามเรื่องแบบนี้ สั่งเลยว่า ไม่ให้มีแฟน

แต่เราก็ดื้อ อ่ะ แอบมีแฟน แต่ก็คบกันได้ไม่นาน ก็เลิกกันไป

พอขึ้น ม.6 คราวนี้ก็มีแฟนอีก

ตอนแรกก็ไม่กล้าบอกแม่หรอก เพราะรู้ว่า แม่ไม่ให้

ก็ปิดอยู่ซักพัก แต่ความมาแตกตอนที่ แม่เห็นเราคุยโทรศัพท์บ่อย ๆ

แอบฟังบ้าง บังเอิญได้ยินบ้าง แม่ก็เลยรู้ว่ามีแฟน

ก็ถามเราว่า มีแฟนใช่รึปล่าว

เราก็.. เอ๋อเลย แต่ก็ไม่โกหกแม่ ก็บอกเนี่ย มีแฟน เอารูปให้แม่ดู

แม่ก็ไม่เห็นว่าอะไร คงเห็นว่า เราโตแล้วด้วยมั๊ง (ไม่แน่ใจว่าเห็นว่าเราโตรึปล่าว)

หลังจากนั้น เวลาทะเลาะกับแฟน หรือว่า มีปัญหากับแฟน

ก็จะปรึกษาพ่อ กะ แม่ตลอดเลย

แปลกดี ทั้ง ๆที่คิดว่า พ่อกับแม่น่าจะไม่ให้มีแฟน น่าจะโมโห

แต่เกินคาด พ่อ กับ แม่ นี่แหละ คอยให้คำแนะนำเรา

เป็นเพราะ พ่อกับแม่เราใจดีด้วยแหละ

ก่อนอื่น พี่ไม่รู้ว่าทัศนคติ ของคุณแม่ของหนู ในเรื่องนี้ เป็นแบบไหน แต่สำหรับพี่  พี่เป็นแม่ที่มีลูกสาว 2 คน คนโตกำลังวัยรุ่น  พี่เข้าใจดีว่า วัยรุ่นยุคนี้ ไม่เหมือนกับยุคที่พี่เป็นวัยรุ่นอีกแล้ว ถ้าลูกพี่มีแฟน(แม้ว่าพี่จะไม่ชอบหน้า ไอ้ผู้ชายคนนั้น) พี่ก็จำใจต้องยอมรับค่ะ ในขณะเดียวกัน พี่ก็จะต้องประคับประคองให้ลูกอยู่ในกรอบ คือ มีแฟนได้ แต่ลูกต้องรู้ว่า ตอนนี้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และมีหน้าที่อะไร และ รักตัวเองให้เป็น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ พี่คิดว่า ถ้าคุณแม่ของน้อง ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าท่านใจดำ อยากกีดกันน้องนะคะ แต่พี่เป็นแม่ พี่เข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นแม่ดี สิ่งที่ต้องการ คือเห็นลูกประสบความสำเร็จในการเรียน ในการใช้ชีวิต และที่หวังไว้สูงสุดคือ ได้พบกับคนที่ดี ที่สุดสำหรับลูกสาวของตัวเอง 
      ขออณุญาตตั้งทู้ใหม่ได้ไหมคะ เผื่อน้องๆคนอื่นมาอ่านแล้วจะได้ ข้อคิดไปด้วย
ลองหยั่งเชิงแม่ก่อนดิคะ ว่าแม่จะอนุญาตให้มีแฟนได้ตอนไหน เช่นถามเปรยๆ แกล้งเราเรื่องเพื่ื่อน
ถ้าแม่ไม่ว่าอะไรมาก ก็บอกเลยค่ะ อาจจะพาแฟนมาหาอีกทีนึงเพื่อยืนยัน แต่แฟนน้องต้องแบบว่าเข้มแข็งนิดนึงนะคะ อาจจะโดนสำรวจอะไรอย่างนี้
แต่ถ้าเป็นอีกกรณีนึงคือ แม่ว่าไม่ควรมีแฟนตอนมหาลัย อันนั้นก็นะ อย่าบอกเลย สักปีสามค่อยบอกก็ได้ แม่น่าจะใจอ่อนลง