ไปลองมา..กับ**Facial Treatment Course**

อายุเริ่มมากขึ้น...บ้างเค้าก็ว่าครีมบำรุงทาๆไปมันซึมบำรุงไม่พอ..แล้วไม่นานมานี้เราได้คุยกับเพื่อนคนนึง
เค้าว่า  อาของเค้า(อาผู้ชาย)เป็นหมอผิวหนัง..รักษาบำรุงดี..และหน้าเด็กมากกกกกกก...เพื่อนเราบอกว่า
อาเค้าอายุ 42 แล้วแต่หน้าเด็กมาก..ทีแรกเราก็คิดอยู่แล้วว่า..อืม..หน้าเด็ก.เพราะคนสมัยนี้หน้าเด็กกันเยอะ
แต่พอไปที่คลีนิค(อยากบำรุงหนังหน้าน่ะ)..ชื่อ Medic Aesthetics...ไปเจออาของเพื่อนที่เป็นทั้งหมอและ
เจ้าของร้าน...คุณคะ..เราอึ้งมากๆๆๆถึงมากที่สุด..คุณพระคุณเจ้า...42....ถ้าเค้าบอกเราว่า28-29 เรายังเชื่ออ่ะ
หน้าดึงแบบผิวสุขภาพดี..แต่ก็ไม่ได้เนียนกริบนะคะ..แต่ถือว่าผิวดีมากเลยล่ะสำหรับถ้าจะบอกว่าอายุ..42....

เราก็เลยให้หมอเช็คสภาพและวิเคราะห์หนังหน้าที่เราเอาไปบากบั่นชิวิตมา...
เรา....ชอบนอนเช้า(หลังเที่ยงคืนก็คือเช้าวันใหม่)
กินเหล้า...แต่กินอาหารเสริมและบำรุงควบคู่....หมอวินิจฉัยมาให้ดังนี้...

1.  ถ้าบากบั่นมาอย่างนี้จริง..ตอนนี้ถือว่าสภาพผิวยังจัดว่าดีอยู่....
2.  ไม่มีริ้วรอย...จุดด่างดำน้อยมาก
3.  มาเสียตรงมรามีรูขุมขนหริเวณแก้มเล็กน้อย..และน้องสิวอักเสบอีก 5 เม็ด..กี๊ซซซซซซ!!!

หมอเค้าว่าหน้าเราไม่ต้องทำอะไรมาก...แต่ถ้าเรื่องรูขุมขน..มี 2 วิธีที่จะช่วยได้..แต่..เจ็บและแพง

1. DermaRoller
2. Laser

แต่เราบอกหมอว่าเรื่องรูบนหน้าเราไม่ซีเรียส..เราอยากได้หน้าเนียนๆดึ๋งๆเหมือนหมอ...
หมอเค้าเลยแนะนำแค่การอัดวิตามินเข้าผิว..ด้วยเครื่อง...อะไรจำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะ...เพราะมันจะสามารถ
นำพาวิตามินเข้าสู่ผิวได้มากถึงอย่างต่ำก็ 90 เปอร์เซ็นต์นะ....
แล้วคอร์สที่เราเลือกก็เป้นคอร์สบำรุงเน้นเป็นแต่ละจุดและแต่ละปัญหาบนหน้าเลย...อย่างเช่น

1. อัดวิตามินรวม+ซีเข้าฟื้นฟูหน้า
2. อัดยาบรรเทาการเกิดสิวเข้าบริเวณที่สิวมักขึ้น
3. ลงวิตามินตรงส่วนที่มีแนวโน้มเกิดจุดด่างดำ
4. ลงโบท็อกซ์ลงบริเวณโซนที่อาจเกิดริ้วรอย เช่น หน้าผากและรอบดวงตา

เราก็ตกลงซื้อเป็นคอร์สไป เพราะถูกกว่าราคาต่อครั้ง 20% แถมลดอีก 10% ในเดือนนี้
ดิชั้นเลยจกมาลองซัก 1 โปรโมชั่นค่ะ..

พอถึงเวลาเค้าก็ให้ขึ้นเตียงเพื่อทำการบำรุงหนังหน้า...ขั้นตอนเค้าก็มีดังนี้ค่ะ

1. ล้างเครื่องสำอาง..ฮือๆๆๆๆ..อย่ามามองหนังหน้านู๋นานนะ..เค้าเขินนนน
2. ลงตัวเจลเย็นไลโพโซมเพื่อเป็นตัวนำพาวิตามินลงผิวดีขึ้น
3. หลังจากที่เค้าลงเจลเย็นแล้ว..เค้าก็จะมีเครื่องของเค้าค่ะ..มาวนๆๆๆรอบผิวหน้าเรา..
ความรู้สึกของเครื่องอันนี้..เค้าบอกว่ามันจะเป็นคุณสมบัติคล้ายการฉีดสารเข้าไปค่ะ..
โดยที่เค้าจะเติมสารวิตามินเข้าปลายเครื่อง...พอเครื่องโดนผิวเรา..เราจะรู้สึกจี๊ดๆบนผิวนิดๆ
เหมือนมีอะไรดูดๆผิวเป็นแห่งๆ...บรึ๋ยยย...จั๊กกะเดียม สยองๆดีค่ะ
4. หลังจากอัดวิตามินบนผิวเรียบร้อย..เค้าก็จะผสมมาร์ส เพื่อมามาร์สหน้าและคอให้เราค่ะ
สีมาร์สออกสีเขียวเย็นๆอ่อนๆ เหลวนิดๆ..มาร์สไว้ประมาณ 15-20 นาทีค่ะ

หลังจากนั้นก็แกะมาร์สออก..เช็ดทำความสะอาดผิวและลงครีมบำรุง..เป็นอันจบพิธีในวันนี้ค่ะ
เค้าบอกว่าถ้าวันนี้ยังไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวว่ายังไม่เด้งเท่าไหร่....ผิวกำลัง
ค่อยๆปรับสภาพค่ะ..จะเห็นชัดเมื่อวันที่ 2-3 ให้หลัง..และวิตามินจะอยู่รักษาและปรนนิบัติผิว
ประมาณ2-3อาทิตย์ค่ะ....เราก็ฟังๆ แล้วก็กลับบ้านไป....ส่องกระจกยังไม่เห็นความแตกต่างกับหนังหน้าจริงๆ
....ทีแรกเราก็..เง้อ...ท้อนิดๆค่ะ..ว่ามันจะเกิดกับหนังหน้าเราไหม..กลัวเสียเงินเปล่าค่ะ....
แต่พอเรานอนแล้วตื่นเช้าขึ้นมา..ลองส่องกระจกดู...อุว้าววว...มันดีกว่าเมื่อวานค่ะ...ดีขึ้นมา..กุจิ๊ดนึง..
หน้าตึงขึ้น...รอยบ๊างบางตรงตาตึงขึ้น....หน้าใสขึ้นหน่อย...แต่ยังไม่เท่าไหร่
จนมาเช้ารุ่งขึ้นอึกวัน...ทาแป้งแล้วหน้าเนียนมากกกกกกก..จนสามียังทักเลยค่ะว่าวันนี้หน้าเด้ง...
ไปทำผมก็มีคนมาทักนึกว่าอยู่มหาลัยปี 2 ...กี๊ซซซซซซ....แต่ก็ลืมถามเค้าเนอะว่านึกว่าปี2 ของ ป.ตรี
หรือป.เอก คะ?..กร๊ากกกกกกกก...

แต่สรุปโดยรวมแล้ว..เราก็พอใจนะสำหรับการทำครั้งแรก..เหลืออีก 4 ครั้งที่จะไปทำ...เค้าบอกว่าหน้าจะเนียน
บริ้งค์ๆๆๆขึ้นอีกในครั้งที่ 2 .....แทบรอที่จะลองไม่ไหวละค่ะ.....

แล้วพวกเพื่อนๆคนไหนเคยมีประสบการณ์ไปคอร์สบำรุงผิวบ้างไหมคะ?..มาเล่าๆแบ่งประสบการณ์สวยให้ฟังหน่อย
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าทำคอร์สแล้ว..มันดีและคุ้มกว่าเอาเงินไปลงกับเครื่องสำอางที่ราคาแพงอย่างเดียวไหม??
ถ้าเข้าคอร์สแล้วดี..ต่อไปนี้เราจะได้ตัดทุนเรื่องบ้าระห่ำซื้อครีมมาประทิน..และโปะงบไปแทนที่กับคอร์สบำรุง...
มาบอกเล่ากันหน่อยนะคะ..ขอบคุณค่ะ

ปอล๊อปอลอ.......ขอบคุณอีกทีที่อ่านมาจนจบค่ะ...แห่ะๆ..พิมพ์ยาวจนคนอ่านเหนื่อยเนอะ