เสียความรู้สึกกับร้าน P’mice ณ สยามมากค่ะ

                               เราเป็นคนที่ชอบดัดผมค่ะ ตั้งแต่เรารู้จักร้านต่างๆที่สยาม เราก็เลือกดัดผมกับพี่ไมซ์มาตลอด ด้วยรีวิวต่างๆ ที่มีแต่คนชมฝีมือพี่เค้า ซึ่งก็จริงค่ะ พี่เค้าดัดผมเก่งมาก สวย เลิศ แถมพี่เค้ายังน่ารัก พูดจาดี เป็นกันเอง แล้วก็ดูแลเอาใจใส่ลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ชอบมากค่ะ เป็นปลื้ม เลยตัดสินใจเป็นลูกค้าประจำอยู่เรื่อยๆ

และแล้วก็ถึงจุดเปลี่ยน ...
                               หลังจากดัดกับพี่เค้าล่าสุด เราก็ตัดสินใจไปต่อผมดัด(แต่แป็นผมดำนะคะ)ให้หนาขึ้น แล้วก็ไปทำสีเองค่ะ จนเร็วๆนี้ผมเก่าที่ดัดกับพี่เค้ามันคลายหมดแล้ว ประกอบกับเราอยากดัดใหม่ ทำสีใหม่ ว่าง่ายๆก็คือ โมดิฟายศรีษะใหม่ทั้งหมด เพื่อต้อนรับงานรับปริญญาที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเราก็หาข้อมูลอยู่นานมาก ว่าควรจะต่อก่อน หรือดัดก่อน หรือทำสีก่อน ส่วนใหญ่ก็บอกให้ไปดัดก่อนแล้วค่อยต่อ แต่ด้วยความไม่แน่ใจและความกลัวว่าจะเสียเงินมากเกินกำลัง เราก็เลยโทรปรึกษาพี่ที่ร้านต่อผม(ร้านประจำเราค่ะ) ร้านพี่โซ่ bozo ค่ะ(ขออนุญาตยกเครดิตให้ร้านพี่เค้าค่ะ พี่เค้าน่ารักมาก) พี่โซ่ก็บอกว่าไม่มีปัญหา ถ้าอยากต่อผมดำตรงไป เพื่อดัดใหม่และทำสีใหม่ทั้งหัว ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถดัดและทำสีได้ตามปกติค่ะ

                             และเพื่อความชัวร์ เราก็ไปถามร้านพี่ไมซ์ต่อว่า ถ้าเราไปต่อผมตรงดำมาแล้วมาทำสีกับดัดจะได้มั้ยคะ ตอนแรกเราจะใช้สีที่เรามี แต่พี่ที่ร้านบอกว่า ถ้าเราใช้สีของเราเอง เค้าไม่รับประกันว่าสีจะเท่ากันทั้งหัวมั้ยนะจ๊ะ แต่ถ้าใช้สีที่ร้าน เค้ารับประกันเรื่องสีแน่นอน ก่อนเราจะไปต่อผมเราก็ไปถามพี่ไมซ์อีกรอบเพื่อชัวร์รอบสอง พี่เค้าก็บอกว่า ได้ไม่มีปัญหา ก่อนเราจะเข้าร้านต่อผมเราก็โทรไปถามพี่เค้าอีกรอบ ซึ่งพี่เค้าก็รับปากว่า ไม่มีปัญหา ให้ไปต่อมาได้เลย

                              เมื่อเราต่อเสร็จก็ไปทำผมที่ร้านพี่เค้า พอเลือกสีเสร็จสรรพ พี่ที่ช่วยทำผม(ไม่ขอเอ่ยนาม)เค้าก็คุยๆว่า สีผมที่เราจะทำ ก็จะเหมือนสีเดิมเราตรงผมจริงแหละ ส่วนตรงผมต่ออาจจะไม่ได้สีชัดนะ จะอารมณ์ว่า สีผมจะมี”มิติ” แบบน้ำตาลเข้มอ่อน สับๆกันไป แต่สวยค่ะรับรอง และด้วยกระบวนการอะไรก็ไม่รู้ เค้าใช้เวลาโกรกผมให้เราไม่ถึงสิบห้านาที! (ตอนเราให้เพื่อนเราโกรกมันยังโบกไว้ตั้งเกือบชั่วโมง) แต่เราก็ไว้ใจไงค่ะ เพราะเราก็ทำกับพี่เค้ามานาน อีกอย่างเราก็คิดของเราเองว่าพี่เค้าก็เป็นมือโปรขนาดนี้ ก็คงมีวิธีการของเค้าเอง เราจึงไม่ถามไม่ก้าวก่าย ตอนนั้นพอทำเสร็จพี่เค้าก็ยังน่ารักมาก ลดราคาให้เรา พูดจากับเราดีเหมือนเดิม เรามุ่งกลับบ้านอย่างมีความสุข แต่ความรู้สึกของเรามันเริ่มพัง เมื่อเราส่องกระจกและพบว่า ผมที่ต่อ(ที่คุณพี่เค้าบอกว่าสีมันจะเป็น”มิติ”) มันคือสีดำสนิท!!! ซึ่งโคนผมเราทองจ้ามาก สีผมเราเหมือนหนูแกสบี้เลยค่ะ มันตัดกันอย่างไม่น่าให้อภัย เราก็โทรไปหาเค้าเลยค่ะ พี่เค้าบอกว่าขอปรึกษาพี่ที่ทำให้ก่อนนะแล้วจะโทรมาบอก ซึ่งพี่เค้าก็น่ารักค่ะ โทรกลับมาบอกเราว่า ให้เค้ามาแก้ได้เลย ไม่คิดเงินด้วย เราก็โอเค สบายใจหายห่วง

                                 พอเราไปถึงร้านพี่ไมซ์เพื่อให้เค้าแก้สีผมให้ พี่เค้ากลับมาบอกเราว่า มันผิดที่ผมต่อน้อง แล้วเค้าก็เรียกช่างคนอื่นมาดู เหมือนให้เค้ามาช่วยยืนยันว่า เป็นที่ผมต่อเราไม่ดีเอง พี่เค้าก็พูดว่า ผมต่อน้องย้อมดำมาแน่ๆ ไม่งั้นไม่เป็นอย่างนี้หรอก แล้วเนี่ย ไม่รู้ว่าผมจริงหรือเปล่า เราก็อึ้งๆ ไม่รับผิดชอบไม่พอ โบ้ยความผิดให้ร้านต่อผมอีก แต่เราก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ด้วยความที่ยังเกรงใจพี่เค้า เราก็ถามว่า เราควรทำยังไง พี่เค้าก็บอกว่า ต้องฟอกสีผมต่อใหม่หมด แล้วค่อยทำสีใหม่อีกที เราก้ถามว่าต้องเสียค่าใช่จ่ายมั้ย เค้าบอกว่า ก็เสียค่าฟอกผม เพราะนี่ไม่ใช่ความผิดพี่ ไม่ใช่ความผิดที่ที่ทำ มันผิดที่ผมต่อน้องเองตะหาก! แล้วเค้าก็ยังมาพูดว่า ถ้าพี่ที่ทำสีให้เราเค้ารู้ว่าเป็นผมดำ เค้าก็จะฟอกสีให้ก่อนอย่างน้อยสองครั้งแล้วจะโกรกให้

                                  ถึงตอนนี้เรางง อึ้ง ทึ่ง เสียว จี๊ดมากด้วย ก็เพราะตอนก่อนฉันไปต่อ ฉันก็โทรถามคุณแล้วถามคุณอีก คุณก็บอกไม่มีปัญหาอะไร รับรองความงาม ก่อนฉันจะตัดสินใจไปนั่งเก้าอี้ในร้านให้คุณต้มยำทำแกงผมฉัน ฉันก็แจงรายละเอียดไปหมดแล้ว คุณพี่ที่ทำสีให้ก็ทำหน้ารับทราบแล้ว ไม่เห็นจะบ่นอะไรนอกจากพึงจะสร้างความมีมิติ(ดำมืดแซมทอง)ให้ผมของฉัน ที่สำคัญคุณเป็นช่างทำผมนะคะ เห็นแล้วจะดูไม่ออกเลยหรือไงว่าผมฉันสีอะไร แล้วไหนมันเป็นความผิดของฉันได้ละคะ ทำทีก็หมดไปหลายพัน นี่ยังต้องมาเสียเงินอีกไม่รู้เท่าไหร่ เพราะความที่ผมฉันเป็นผมต่อ ทั้งๆที่คุณรับรองคุณภาพอย่างนั้นแล้วหรอคะ อีกอย่างเมื่อคุณรับประกันหลังการขาย คุณให้ฉันถ่อมาให้คุณแก้ผมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่คุณกลับมาคิดค่าใช้จ่ายในการฟอกสีผม ทั้งๆที่คุณควรทำให้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ?

                                 เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าผมต่อเราย้อมแมวมาหรือไม่ เราเลยโทรหาพี่โซ่เลยค่ะ ปรึกษาพี่เค้า ถามพี่เค้าตรงๆว่า ผิดที่ผมต่อหรือเปล่า แต่เรามั่นใจว่าผมพี่เค้าดีจริง เพราะเราเคยไปต่อผมดำสนิท แล้วมาทำสีเองที่บ้านตั้งสามสี่ครั้งไม่เคยจะมีปัญหา แต่พอมาเสียตังให้พี่ไมซ์ทำให้ ปัญหาตรึมค่ะ พี่โซ่เค้าดีมากๆๆๆค่ะ บอกว่าให้ไปหาเค้าที่ร้าน เค้าจะทำให้เอง ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย ก็แค่โกรกใหม่ ทิ้งให้นาน(ปกติ)หน่อย ไม่ต้องถึงขั้นฟอกสี ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงอีกไม่รู้ตั้งเท่าไร

                              เราจึงตัดสินใจเดินไปบอกพี่ไมซ์ว่า พี่ค่ะ ไม่ต้องแล้วค่ะ ร้านผมต่อเค้าจะทำให้ฟรีค่ะ สีหน้าพี่เค้าก็ไม่รู้ว่าเกลียดเราไปแล้วหรือยัง แต่เราก็เดินจากมาและคิดว่าจะไม่ไปเหยียบร้านพี่เค้าอีกแน่นอน

                               ที่พิมพ์ๆมาเราหมดอารมณ์อะไรต่างๆต่อพี่ไมซ์แล้วล่ะค่ะ เพราะมันก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็อยากจะมาระบายให้ฟัง เราอึดอัดค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้บอกพี่ไมซ์ไปว่า ร้านต่อผมเค้าพูดมายังไงบ้าง ทุกคนที่นั่งทำผมอยู่ในร้านตอนนั้นก็คงนึกด่าเราในใจว่า เรามาสร้่างปัญหาให้พี่เค้าแน่นอน ผมต่อไม่ดียังจะมาโวยวายอีก...ซึ่งมันไม่ใช่ไงคะ แต่เราก็ไม่มีโอกาสพูดอะไร อีกอย่างพูดไปก็เท่านั้นแหละค่ะ พี่เค้าก็คงไม่รู้สึกอยากรับผิดชอบอะไรกับผมเรามากไปกว่านี้หรอกค่ะ

                         ยอมรับนะคะว่าพี่เค้าน่ารักจริงค่ะ ฝีมือดีจริงค่ะ(อันนี้ชักไม่มั่นใจ) แต่การโบ้ยความรับผิดชอบแบบนี้ เราว่ามันไม่ใช่มืออาชีพนะคะ เพราะอย่างน้อยเค้ารับปากและให้คำมั่น ว่าเค้า”สามารถ”เนรมิตได้ตามความต้องการของเรา แต่เมื่อทำมาแล้วไม่ได้อย่างที่พูด(อันนี้ไม่เคืองเท่าไหร่) แถมมากลับคำกับเราแล้วเปิดประเด็นยิงใส่คนอื่นทันที เราเสียความรู้สึกกับคำพูดพี่ไมซ์มากค่ะ ยิ่งสีหน้าตอนเค้าเดินมาบอกว่า “มันไม่ใช่ความผิดพี่ มันไม่ใช่ความผิดพี่ที่ทำสีให้ แต่มันเป็นเพราะผมต่อของน้อง พี่ไม่ผิด” เราอึ้งมาก เหมือนพี่เค้าเป็นคนละคนกับตอนที่รับประกันความต้องการของเรา(ทั้งก่อนทำและหลังทำ)ยังไงอย่างงั้น อารมณ์วันที่โดนมันจี๊ดกว่านี้เยอะค่ะ แต่มาวันนี้มันหมดแรงไปมากแล้ว ก็เลยเขียนขาดๆหายๆไปบ้าง แต่ไม่มีการปรุงแต่งเสริมเติมแน่นอนค่ะ ห้าห้าห้า

                           อาจมีแฟนๆพี่ไมซ์ไม่พอใจ เราก็ขอโทษด้วยนะคะ แต่เมื่อเราเจออีกมุมหนึ่งของการบริการของเค้า มุมที่เรารับไม่ได้ เราก็ขอทิ้งทวนไว้ แล้วก็ขอลาขาดล่ะคะ 

 
ปล.ตอนนี้ผมเราก็ยังคงเป็นหนูแกสบี้อยู่ เพราะยังไม่มีเวลาไปหาพี่โซ่เลยค่ะ รับปริญญาครั้งนี้คงช้ำใจไปอีกนานค่ะT^T