แชร์ประสบการณ์ ไข้หวัดใหญ่2009คะ

ออกตัวก่อนว่ายังไม่ได้เป็นนะคะ

แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนมีอาการเหมือนเป็นหวัดนี่แหละคะ ตัวร้อน เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก เราก็กลัวไม่กล้าไปหาหมอ
ซื้อยามากินไม่ค่อยบอกที่บ้าน  จนมันถึงอาทิตย์ ก็คือประมาณวันนี้คะ

เมื่อคืนนี้ตัวมันร้อนอีก แต่ก็คิดว่าไม่น่าเป็นเพราะ
คนที่เข้าข่าย จะต้องมีไข้38องศาขึ้นไป
ประกอบกับมีอาการดังนี้ร่วมคะ
>>ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปอดบวม เบื่่ออาหาร บางรายอาจท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จากนั้นเชื้อจะแพร่เข้าสู่กระแสโลหิต จึงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ

แต่เพื่อความแน่ใจเลยไปเรียกที่บ้านว่า"ไปกันเถอะ" อยากรู้เพราะเช้าก็อยากไปเรียนด้วยไม่อยากขาด (กลางคืนเลย)
แต่งตัวกันแล้วกะว่าจะไปรพ.กรุงเทพ แต่พี่ชายบอกว่ามันดึกแล้วเจาะเลือดไปก็ไม่รู้ผล อีกทั้งมีแต่หมอเวร

>>เราเลยรอถึงตอนเช้า
ที่บ้านก็ติดต่อคนรู้จักที่รพ.จุฬา ไปแต่เช้าเลยคุณลุงขับรถไปให้ระหว่างที่รู้ตัวก็เอาผ้าปิดจมูกไปด้วย
ไข้มันไม่มีแล้วคะวัดออกมาแค่35.กว่าเอง หมอวินิจฉัยออกมาว่าเป็นไซนัสอักเสบ ประกอบกับเราเป็นภูมิแพ้อยู่ด้วย
เราก็ค่อนข้างดีใจที่ไม่ได้เป็น

>>แต่อยากจะบอกว่าตอนนี้มันมีการแพร่ระบาดของไข้หวัด2009กันมาก คืออยากเอามาเล่าให้เป็นอุทาหรณ์ก็ไม่เชิง ว่าถ้าทำได้ให้ใส่ไปเลยคะหน้ากาก ไม่ต้องไปอายใครแล้วจริงๆนะ ห่วงตัวเราก่อนดีกว่า เราก็ว่าจะใส่แล้ว แม้มันจะเป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรง แต่ตัวยาที่ออกมาจากที่เราฟังข่าวฟังการอธิบายของหมอ มันเป็นเพียงตัวยับยั้งไวรัส ไม่ใช่ฆ่าไวรัสนะคะ ร่างกายของเราจะเป็นตัวทำหน้าที่ในการสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาคะ
>>แหละคุณหมอก็ปฏิเสธเรื่องการตายไม่ได้ว่าแม้จะได้รับยาแต่ถ้าร่างกายอ่อนแอและติดเชื้อทางปอดก็มีสิทธิ์เสียชีวิต
แต่อัตราการเสียชีวิตในไทยประมาณ0.03เปอร์เซนต์เท่านั้นคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่อยากให้วิตกกันเกิดกว่าเหตุ แต่ถ้าเข้าข่ายพวกนี้หาหมอก่อนก็จะดีคะ

1.มีไข้ขึ้นเกิน38องศาภายในวันหรือสองวัน ทานยาลดไข้ก็ยังไม่หาย มีอาการอื่นๆแทรกซ้อนตามข้างต้น
2.สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือหมั่นล้างมือก่อนรับประทานอาหาร ลดการดื่มหรือใช้ของร่วมกันนะคะ
3.เมื่อเป็นหวัดแม้จะเล็กน้อย (อันนี้เราอ่านเจอในประกาศรพจุฬานะคะ) สมควรใช้ผ้าปิดปาก ตอนแรกเราก็อาย
แต่คุณลุงบอกใส่เหอะ มันเป็นการแพร่เชื้อแก่ผู้อื่นและป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่ตัวเราด้วยคะ



เชื้อโรคจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และสามารถแพร่กระจายไปยังผู้อื่นด้วยการไอ หรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด รวมทั้งติดต่อกันทางลมหายใจ หากอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และสามารถติดต่อได้จากมือ หรือสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ ทั้งนี้เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ซึ่งสามารถแพ้เชื้อได้ ตั้งแต่ผู้ติดเชื้อยังไม่ปรากฎอาการ หรือหลังจากปรากฎอาการไข้แล้ว


ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการแชร์แก่เพื่อนๆชาวจีบันบ้างนะคะ  เพื่อสุขภาพที่ดีอยู่กับเรานานๆคะ
-ล่าสุดเพื่อนที่เรียนเกษตรศรีราชา ก็บอกว่าโดนสั่งปิดเพราะเจอเชื้อ
-รุ่นพี่ที่เป็นครูที่หอหวังก็บอกว่าผู้ปกครองโทรมาทุกวัน เด็กติดเชื้อคะ (เรายังงงเลยมาได้ไงหวะ) พี่เค้าบอกว่าติดในเด็กเล็กมาก ในเด็กมัธยมยังไม่เจอ ส่วนเด็กที่เป็นทางรพ ก็ส่งคนมาคุมให้อยู่ในห้องคะ

**กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาไม่ได้หวังให้เกิดความตื่นตกใจแต่อย่างใด หากแต่ต้องการแชร์และให้เพื่อนๆใส่ใจสุขภาพเท่านั้นคะ**
แนะนำอีกนิดถ้าจะไปหารพ รัฐดีกว่านะคะเค้าจะมีตัวอย่างเชื้ออะไรที่ดีกว่า รพเอกชน (ไม่ได้ลำเอียงเพราะปกติก็รักษาเอกชน) ว่ากันไปอย่างตรงไปตรงมาเสมอ

ขอบคุณคะ

Discussion (13)

เราเป็นมาแล้วค่ะ
เริ่มจากเพื่อนในห้องเป็นกัน 3 คน
รร ก็เลยสั่งให้ปิดแต่ไม่ทัน อิเราเป็นเสียแล้ว
เป็นคนเดียวไม่พอ ลาก พ่อ น้อง แม่ พี่เลี้ยง เป็นหมดค่ะ
ตอนนี้เหลือแม่คนเดียวที่เป็นจ้า

หวัดหมูก็เหมือนไข้หวัดใหญ่ทั่วไปค่ะ...นอกจากอาการของหวัดทั่วไปจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อร่วมด้วย
จริงๆ อันตรายน้อยกว่าหวัดใหญ่ที่ระบาดกันในปีที่ผ่านๆมาด้วยซ้ำ
แต่ที่เขาพยายามควบคุมการระบาดเพราะกลัวว่าเชื้อจะกลายพันธุ์ในช่วงเข้าฤดูหนาว ถ้ายังมีการระบาดอยู่

ที่อังกฤษเขาไม่ใช้หน้ากากกันค่ะ...แต่จะใช้ทิชชู่กับทุกอย่างๆ
ป้องกันการสัมผัสสารคัดหลั่งที่ติดอยู่ทั่วๆไป
ใครจะใช้ก็ไม่ว่ากัน

ไม่ว่าเจ็บป่วยอะไร ถ้ารักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะปลอดภัยค่ะ

อาจารย์หมอบอกมาเหอๆ

 

ดีใจด้วยที่ไม่ได้เป็น
ขอบคุณมากนะคะที่นำสาระดีๆ มาบอกกัน

จขกท. โชคดีแล้วนะคะที่ ไม่ได้เป็นหวัด2009 แถมเช้ามาไข้ยังลดอีกด้วย ^^

เราก็พึ่งหายไข้ค่ะ คุณหมอบอกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา + คออักเสบ
ตอนแรกก็กลัวว่าจะเป็นหวัด2009 เพราะว่าเพื่อนของเพื่อนที่มหาลัยหลายคนเป็นโรคนี้กัน
เค้าเล่าให้ฟังว่า เชื้อจะหยุดแพร่ในวันที่เจ็ด (ไม่ทราบนะคะว่าจริงหรือไม่จริง)
พอถามว่า แล้ววันนี้ที่เค้าพึ่งมาเรียนเนี่ยวันที่เท่าไหร่
เค้าก็บอกว่าวันที่เจ็ดพอดี -*-

อีกวันนึง เพื่อนเราเป็นไข้ เราก็ติดมาอีก
สรุปติดกันงอมแงมทั้งกลุ่ม T^T


เราไข้ขึ้นสูง 38 พอดี กินยาสองวันไม่หาย
ตอนเช้าดันต้องเข้าเรียนวิชาที่ขาดไม่ได้ ก็เลยต้องเข้าเรียนค่ะ
ตอนนี้พยายามป้องกันโดยที่เอาผ้าเช็ดหน้าปิดปาก + จมูกไว้ตลอดเวลา
กลัวเพื่อนติด + รังเกียจด้วย - -"
ผ่านไปสามชั่วโมงอันแสนทรมาน เพื่อนหันมาเจอหน้า เพื่อนตกใจ
รีบพากลับหอ แล้วเราก็รีบออกไปโรงพยาบาลเลย
สุดท้ายอยู่โรงพยาบาล ไทยนครินทร์ นอนโรงพยาบาลไปสี่ห้าวันค่ะ
นอกจากจะเกือบไม่ได้สอบย้อนหลังแล้ว ยังเสียตังด้วยอ่ะ -*-

ที่มหาลัยเราเป็นหวัดกันเยอะมากเลย
ประมาณว่า ใครไม่ ไอค่อกแค่ก ตกเทรนด์อย่างแรง

ตอนนี้ยังไออยู่นิดหน่อย จะหายดีแล้วล่ะค่ะ

เราว่าทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ การดูแลร่างกาย และภูมิคุ้มกันของตัวเองด้วย
บางคน อยู่เฉยๆ แต่ไม่เป็น เพราะภูมิคุ้มกันดี
บางคน ป้องกันสุดๆ แต่เป็นหนักกว่าเพื่อนอีก


ยังไงก็ขอให้ชาวจีบันดูแลสุขภาพด้วยนะคะ :)
(ขออภัยพิมพ์ยาวมากเลย ปกติก็เป็นคนพูดมากด้วยค่ะ = =')

ตอนนี้ก็ไม่สบายเหมือนกันคะเพิ่งกลับจากกรุงเทพก็เป็นเลย
แต่ดีน้ะที่เราไม่ท้องเสีย แต่ตอนนี้ยังไม่หายเลยอ่า