ไม่อยากเป็นหวัดใหญ่2009 แวะทู้นี้!!!!

สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Jeban ทุกคนนะคะ
วันนี้ขอนอกเรื่องนิดนึงแล้วกัน แต่อยากให้หลายๆคนได้ศึกษากันนะคะ
อย่าเพิ่งตื่นตูม แต่ก็ไม่อยากให้ละเลย ลองอ่านซักนิดเพื่อนสุขภาพและชีวิตของตัวคุณเองนะคะ

อันนี้เป็นฟอเวิดเมลล์ที่แฟนเราเขียนเอง
((แฟนเราทำงานอยู่สำนักจัดการความรู้ของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุขนะคะ))

เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่า เมลนี้ ไมไ่ด้มีคนกุเขียนขึ้นมาเล่นๆแน่นอน
ต่อไปนี้เป็นเนื้อหาข้อความนะคะ ใครไม่สะดวกอ่าน คลิกที่เวปด้านล่างของกระทู้ได้เลยค่ะ

หากใครได้รับ ฟอเวิดเมลล์ฉบับนี้ไปแล้ว รบกวนช่วยส่งต่อด้วยนะคะ!!!
ยิ่งส่งเยอะยิ่งดีค่ะ ก็จะได้เป็นการกระจายข่าว
ในวงที่กว้างมากขึ้น


www.kmddc.go.th
-----------------------------------------------
ช่วยกัน "หยุด" ไข้หวัดใหญ่ 2009 "คุณ" ก็ทำได้!!....

 
 
 
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
 
 
         อีเมลนี้ถูกส่งจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขนะครับ
 
         ตอนนี้ เราทุกคนรู้กันแล้วใช่ไหม ว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
 
สถานที่ที่เราต้องระวังคือสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเยอะๆ ซึ่งโรงเรียนและสถานศึกษาเองก็เป็นสถานที่ "เสี่ยง"
 
สำหรับการระบาดของโรคนี้นะครับ
 
 
         กรมควบคุมโรค มีคำแนะนำสำหรับการเตรียมตัวรับมือการระบาดของโรคนี้สำหรับโรงเรียนและสถานศึกษา
 
โดยสามารถดูได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของ สำนักจัดการความรู้  ที่ http://www.kmddc.go.th/headlineitem.aspx?itemid=3445 
 
พร้อมกันนี้ อีเมลนี้ได้แนบคำแนะนำสำหรับสถานศึกษาในเบื้องต้นมาด้วย (ไม่ได้แนบมาทั้งหมดเพราะว่าอาจมีการ Update เรื่อยๆครับ)
 
 
         อีเมลขยะมากมายที่ถูก FW ส่งต่อกันทั่วโลก มันไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าอีเมลฉบับนี้ ถูกส่งต่อถึงโรงเรียน
 
ของลูก, พี่, น้อง หรือว่าแฟนของคุณ มันจะช่วยให้พวกเขาปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้นะครับ
 
 
 
       ถ้าเมลนี้ส่งถึงผู้ปกครองของเด็กๆ รบกวนส่งต่อหรือแจ้งให้ทางโรงเรียนของลูกๆคุณทราบนะครับ
 
       ถ้าส่งถึงนักเรียน รบกวนน้องๆแจ้งให้ทางโรงเรียนของน้องๆทราบ
 
       ถ้าไม่รู้จะส่งให้โรงเรียนที่ไหน รบกวนส่งต่อไปให้เยอะที่สุดนะครับ เพื่อความปลอดภัยของน้องๆนักเรียนนักศึกษา
 
ที่จะเป็นกำลังสำคัญของพวกเราในอนาคต
 
 
คำแนะนำเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำหรับโรงเรียนและสถานศึกษา
 
หลักการทั่วไป
1.
วัตถุประสงค์ของการป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในครั้งนี้ไม่ใช่การป้องกันไม่ให้มีเด็กป่วยเกิดขึ้นใน โรงเรียนเลย (เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก)
 แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดใหญ่ขึ้นในโรงเรียน
 
 
2.
โรงเรียนควรจัดให้มีทีมงานรับผิดชอบประสานงานด้านไข้หวัดใหญ่ขึ้นในโรงเรียน (ในลักษณะที่เป็นทีมงาน ไม่ควรมอบหมายใครคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว)
 เช่น โรงเรียนอาจมอบหมายให้รองผู้อำนวยการฝ่ายปกครองหรือครูฝ่ายการพยาบาลเป็นผู้ประสานงานหลัก (พร้อมกับทีมงานอีกจำนวนหนึ่ง)
 ในการป้องกันควบคุมโรค โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ของพื้นที่ใกล้เคียง และแจ้งสถานการณ์ใน
โรงเรียนทันทีหากพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าดำเนินการควบคุมการระบาด
 
 
3.
เฝ้าระวัง: โรงเรียนควรจะมีการจัดระบบการติดตามการขาดเรียนของเด็กนักเรียน ควรมีการตรวจสอบสาเหตุการขาดเรียนของนักเรียนด้วย
หากพบขาดเรียนผิดปกติ (ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปในห้องเรียนเดียวกัน) และสงสัยว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อสอบสวนและควบคุมโรค
 
 
4.
ถ้าสามารถทำได้ โรงเรียนควรจัดห้องพยาบาลสำหรับการแยกสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ห้องพยาบาลควรมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
 
 
5.
โรงเรียนควรแนะนำให้นักเรียนที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตาม ตัว) พักรักษาตัวที่บ้านหรือหอพัก
หากมีอาการป่วยรุนแรง (หายใจเร็ว หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม อาการไม่ดีขึ้นหลังจากเริ่มมีอาการไข้ 3 วัน) ควรรีบไปพบแพทย์
 
 
6.
โรงเรียนควรมีการจัดระบบการคัดกรองนักเรียน หากพบนักเรียนที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตามตัว)
 ให้โรงเรียนแยกนักเรียน และติดต่อให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับไป ฟักฟื้นที่บ้าน
 
 
7.
หากสถานศึกษาสามารถให้นักเรียนที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ทุกคนหยุดเรียนได้ (ควรหยุดเรียนและ ดักอยู่กับบ้าน 7 วัน)
ก็จะป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ดี และไม่จำเป็นต้องปิดสถานศึกษา (การปิด โรงเรียนสามารถชะลอการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ได้
แต่ไม่สามารถยุติการระบาดได้ จะมีนักเรียนป่วย กลับมาใหม่หลังจากโรงเรียนเปิดกลับมาใหม่ โดยเฉพาะในชั้นเรียนอื่นที่ยังไม่มีการระบาด
หลังจาก โรงเรียนเปิดแล้วจะมีการระบาดใหญ่อีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้องของโรงเรียน)
 
 
8.
โรงเรียนควรมีคำแนะนำ (เอกสาร โปสเตอร์ อีเมลล์) ให้กับนักเรียน เกี่ยวกับการปฎิบัติตัวเพื่อป้องกัน การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
 รวมถึงการให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวกับเด็กป่วย
 
 
9.
เตรียมเอกสารแนะนำผู้ปกครอง เพื่อทำความใจกับผู้ปกครอง และขอความร่วมมือให้เด็กป่วยหยุดเรียน
 
 
10.
แนะนำ และสนับสนุนให้นักเรียนล้างมือบ่อยๆ โดยการจัดให้มีอ่างล้างมือ น้ำและสบู่ อย่างเพียงพอ
 
 
11.
ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ สิ่งของ เครื่องใช้ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก เช่น โต๊ะเรียน ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ราวบันได คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
โดยการใช้น้ำน้ำละลายผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาด ให้บ่อยที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ สำหรับเมาส์ แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์
และอุปกรณ์การเรียนอื่นๆ ที่นักเรียนต้องใช้ในแต่ละ ชั่วโมงเรียนควรทำความสะอาดทุกครั้งที่มีการผลัดเปลี่ยนชั้นเรียน
 
 
12.
ควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องได้ทั่วถึง
 
 
13.
สถานศึกษาที่ยังไม่พบการระบาดควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องมีการนำนักเรียนจำนวนมากมารวมตัวกัน (เช่น การซ้อมเชียร์ การแข่งกีฬา เป็นต้น)
 หรือการเดินทางออกนอกพื้นที่เป็นหมู่คณะ ส่วนสถานศึกษาที่มีการระบาดแล้วควรงดกิจกรรมดังกล่าวโดยเด็ดขาด
 
14.
โรงเรียนควรเตรียมมาตรการชดเชยทั้งด้านการเรียน การสอน เวลาในการเรียน และการปฏิบัติงานของทั้งนักเรียน
 ครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่จำเป็นต้องหยุดพักการเรียนหรือปฏิบัติงานเนื่องจากการป่วย
 
 
15.
ในปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 ได้ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
ไม่สามารป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 ได้ ซึ่งคาดว่าประเทศไทยน่าจะมีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
 ชนิดเอ เอ็ช1 เอ็น1 อย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายปี พ.ศ. 2552
 
 
 
 ข้อมูลอื่นๆยังมีอีกเยอะ เข้าไปดูได้ที่
 
www.kmddc.go.th/headlineitem.aspx?itemid=3445

สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณพื้นที่จากเวปจีบัน
และเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนนะคะ

Discussion (2)

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆและแน่นๆเลยคะ
แต่เราว่ารัฐบาลไทยบริหารงานในเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขล่าช้าและแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ได้แก้ที่สาเหตุ งุงิงุงิ นานาจิตตัง เดี๋ยวเป็นประเด็นการเมือง

รักษาสุขอนามัยเรากันดีกว่าคะ

ตอนนี้เราก็ใช้พกเจลล้างมือ กับล้างมือถูสบู่บ่อยๆ
ถ้าต้องไปข้างนอกขึ้นรถเมล์ ก็พยายามไม่จับราว หรือถ้าต้องสัมผัส
เวลาเจอที่ล้างมือก็จะล้างอีก หรือไม่เจอก็ไม่เอามือไปสัมผัสจมูกกับปากคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆนะคะ  เพื่อนกำลังชวนไปดูหนัง นี่ก็ยังกล้าๆกลัวๆอยู่เลยอ่ะค่ะ