วัด นรก รอบ 2<<แก้ตัว
goppy10เนื่องจาก กระทู้ หนึงพูดเรื่องนี้ ถ้าใครเข้าไปอ่านก็คงรู้
เรื่องนี้มันมีมาสักพักแล้ว
เเต่โบราณเค้าบอกว่าอยากเพิ่งฟังความฝ่ายเดียว^^
เพราะ เราไปเจอข้อมูลจาก เวป คมชัด ลึกมาก
เอามาให้อ่านกัน
เรื่องนี้มันมีมาสักพักแล้ว
เเต่โบราณเค้าบอกว่าอยากเพิ่งฟังความฝ่ายเดียว^^
เพราะ เราไปเจอข้อมูลจาก เวป คมชัด ลึกมาก
เอามาให้อ่านกัน
โวยไถ่ชีวิตหมูถูกฆ่ากิน วัดสวนแก้วสั่งคุมเข้ม |
วัดสวนแก้วเพิ่มมาตรการรับบริจาคสัตว์ เอกซเรย์-ตรวจสุขภาพถี่ยิบ ป้องกันข้อครหา หลังมีผู้บริจาคหมูให้สาขาที่กบินทร์บุรี แล้วเข้าใจว่า จนท.ชำแหละเนื้อบริโภค ปศุสัตว์แจงหมูตายเพราะกระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด จนเลือดคั่งอวัยวะภายใน เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในหมู่คนรักสัตว์ เมื่อมีผู้ตั้งกระทู้ในห้องสนทนา "จตุจักร" เวบไซต์พันทิปดอทคอม เกี่ยวกับการบริจาคสุกรตัวหนึ่งที่เจ้าของกระทู้ขอซื้อต่อจากเจ้าของ ซึ่งนำไปขายให้เขียงหมูในตลาดสำโรง จ.สมุทรปราการ ในราคา 6,000 บาท ก่อนจะเรียกสัตวแพทย์มารักษา แล้วนำไปบริจาคให้วัดสวนแก้ว และส่งต่อไปที่โครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ต่อมาเมื่อเจ้าของไปเยี่ยมกลับพบว่า สุกรตัวดังกล่าวถูกชำแหละแจกจ่ายเนื้อให้ชาวบ้าน กลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงความเหมาะสมนั้น เมื่อวันที่ 25 มกราคม "คม ชัด ลึก" ได้ติดต่อไปยังพระพิศาลธรรมวาที หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ พระพยอม กล่าวว่า วัดสวนแก้วมีโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือ รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ โดยทำอย่างเป็นระบบ มีคนคอยดูแลใกล้ชิด เมื่อได้มาก็จะบริจาคต่อให้คนยากจนนำไปใช้ประกอบอาชีพ แต่ห้ามฆ่ากินโดยเด็ดขาด เพราะผลกรรมจะตกอยู่กับผู้กระทำผิดเงื่อนไข ส่วนสัตว์ประเภทอื่นๆ อย่าง สุนัขจะมีคอนโดให้อยู่อาศัย หมูก็จะมีคอกเลี้ยงดูอย่างดี ส่วนกรณีที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นี้ เป็นหมูตัวแรกที่กระดูกหัก มีความบอบช้ำมาก เพราะตกจากรถบรรทุก พระพยอม กล่าวต่อว่า หมูบาดเจ็บนอนซมร้องเสียงดังสร้างความรำคาญให้เพื่อนบ้าน เจ้าของหมูที่ไถ่ชีวิตมาจึงติดต่อให้วัดรับมาดูแล เมื่อรับมาอยู่ที่มูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว 2 เพียงไม่กี่วันมันก็ตาย โดยไม่ได้ฆ่าหรือทำลายมัน สัตวแพทย์ก็มาตรวจดูว่าไม่ได้เป็นโรคร้าย สามารถแบ่งเนื้อกันไป เพื่อคนกินจะได้สร้างกุศลให้มัน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้วัดได้รับความเสียหายมาก และเป็นบทเรียนในอนาคตจะต้องกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการไถ่ชีวิตสัตว์ที่เข้มงวดขึ้น มีการทำสัญญา ตรวจสุขภาพ เอกซเรย์ร่างกายสัตว์ก่อนรับบริจาค ถ้าป่วยก็จะไม่รับเด็ดขาด ไม่อยากให้เกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้นอีก พร้อมกันนี้ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้นำเอกสารการผ่าพิสูจน์ซากสุกรของโครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 โดยนายสาโรจน์ วงษ์เจริญสมบัติ ปศุสัตว์อำเภอกบินทร์บุรี ที่ ปจ.0207/6 ลงวันที่ 23 มกราคม 2549 เรื่องรายงานผลการตรวจซากสุกร ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2549 ได้รับแจ้งจากนายสมพงษ์ บุญเกิด อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 10 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่าสุกรเพศเมียน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งเลี้ยงไว้ที่โครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 เลขที่ 205 หมู่ 3 ต.ลาดตะเคียน ได้ป่วยตายขอให้ไปตรวจสอบซากสุกรด้วย สำนักงานปศุสัตว์อำเภอกบินทร์บุรีเข้าไปตรวจซากสุกรพบว่า ได้รับบริจาคสุกรเมื่อวันที่ 21 มกราคม สภาพก่อนตายมีอาการขาหลังทั้งสองข้างหัก เนื่องจากตกรถบรรทุก ต่อมาวันที่ 22 มกราคม เวลา 09.00 น.ได้ตายลง ตรวจซากพบขาหลังหักทั้งสองข้าง สะโพกซ้ายช้ำ ซี่โครงซ้ายหัก 2 ซี่ เศษซี่โครงแทงทะลุปอด สรุปการตรวจซากว่า สุกรตายเนื่องจากบาดเจ็บจากการตกรถบรรทุก และมีความเห็นว่า เนื้อสัตว์ส่วนที่ดีสามารถนำมาบริโภคได้ ส่วนอวัยวะภายในมีความบอบช้ำและมีเลือดคั่งไม่เหมาะที่จะนำมาบริโภค จึงสั่งให้ฝังอวัยวะภายในทั้งหมด ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง น.พ.ภูริภัทร ภูริพันธุ์ภิญโญ แพทย์ รพ.ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของกระทู้และเจ้าของหมู เปิดเผยว่า หลังบริจาคหมูให้วัดสวนแก้วแล้วส่งต่อไปยังโครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ตนพร้อมแฟนสาวได้เดินทางไปเยี่ยม โดยเดินวนดูรอบๆ โครงการราว 10 นาที แต่ไม่พบจึงเข้าไปสอบถามพระสงฆ์ 2 รูปในห้องจำหน่ายของบริจาคก็ได้รับคำบ่ายเบี่ยง กระทั่งมีคนวิ่งมากระซิบบอกว่าจัดการไปแล้ว ตนจึงทำทีเป็นไม่ได้ยิน พระรูปดังกล่าวสบถออกมาแล้วปิดประตูคุยกันอยู่นาน ก่อนที่พระอีกรูปจะพาเดินดูรอบๆ โครงการนานเกือบ 2 ชั่วโมงก็ยังไม่พบหมูที่บริจาคให้ น.พ.ภูริภัทร กล่าวต่อว่า ระหว่างที่พาเดินดูโครงการพระสงฆ์รูปเดิมพยายามพูดถึงเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับหมู เมื่อถูกถามหนักเข้าท่านบอกว่าเมื่อวานหมูป่วยเลยพาไปส่งปศุสัตว์ เลยถามว่าปศุสัตว์ไปทางไหนจะได้ตามไปเยี่ยม ท่านก็บอกว่าวันหยุดราชการไม่เปิด จึงถามย้อนกลับไปว่าเมื่อไม่เปิดแล้ววันหยุดราชการปศุสัตว์มาตรวจได้อย่างไร จากนั้นได้ขอให้ท่านตามคนเลี้ยงหมูมาพบ ท่านก็บอกว่าไม่อยู่ แต่ตนยืนยันจะรอ เพราะไหนๆ ก็เดินทางมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว โดยรออยู่นานกระทั่งคนเลี้ยงหมูมาหา "ผมถามว่าหมูอยู่ไหนเขาบอกว่า ป่วยเลยส่งให้ปศุสัตว์ ผมจะขอตามไปดูเขาก็บอกอีกว่าวันหยุดราชการ ไปไม่ได้ เมื่อซักถามหนักเข้าว่าสัตวแพทย์ชื่ออะไรก็อึกอัก สุดท้ายก็ยอมรับว่าอาการหนักมากเลยจัดการไปแล้ว ผมถามว่าจัดการอย่างไร เขาบอกว่าก็จัดการเหมือนทั่วๆ ไปอย่างที่โรงฆ่าสัตว์จัดการ อย่างไรก็ตามผมคงไม่เรียกร้องความรับผิดชอบจากใคร เพียงแต่สงสัยว่าเมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นจะมั่นใจได้อย่างไรกับสัตว์ที่เราบริจาคให้" น.พ.ภูริภัทร กล่าว พร้อมกันนี้ "คม ชัด ลึก" ได้ตรวจสอบไปยัง นายสาโรจน์ วงษ์เจริญสมบัติ ปศุสัตว์อำเภอกบินทร์บุรี ก็ได้รับคำยืนยันว่า บ่ายวันที่ 21 มกราคม ได้รับแจ้งจากนายสมพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลลาดตะเคียน (อบต.) และผู้จัดการฝ่ายบุคคลโครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 ว่าได้รับบริจาคสุกรบาดเจ็บที่ขาหลังทั้งสองข้างและตายในวันรุ่งขึ้น ให้ช่วยมาตรวจสอบ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นโรคระบาดร้ายแรง แล้วจะระบาดไปถึงโค-กระบือในสถานีทดสอบพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรีที่อยู่ใกล้เคียง นายสาโรจน์ กล่าวว่า ได้เดินทางถึงโครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 เวลา 10.30 น.วันที่ 22 มกราคม ลักษณะภายนอกไม่พบบาดแผลถูกทุบหัวหรือแทงคอ ยกเว้นรอยช้ำบริเวณสะโพกซ้ายช้ำมากและสีข้างซ้ายปรากฏรอยถลอก เมื่อผ่าพิสูจน์ซากสุกรดูว่าเป็นโรคระบาดร้ายแรง เช่น โรคอหิวาต์ หรือปากเท้าเปื่อยหรือไม่ก็ไม่พบร่องรอยของการเป็นโรคระบาดใดๆ แต่พบกระดูกซี่โครงซ้ายหัก 2 ซี่ ทิ่มปอด และมีเลือดคั่งบริเวณปอด ตับ ม้าม สันนิษฐานได้ว่าสาเหตุนี้เองที่ทำให้สุกรตาย นอกจากนี้ ยังพบกระดูกขาหลังทั้งสองข้างหัก สะโพกซ้ายช้ำ จึงทำรายงานส่งให้ปศุสัตว์จังหวัดรับทราบ จากนั้น "คม ชัด ลึก" ได้เดินทางไปตรวจสอบที่โครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 พบนายสมพงษ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยเมื่อวันที่ 23 มกราคม เวลาประมาณ 12.00 น.เจ้าของหมูเดินทางมาดูหมูที่โครงการ ซึ่งวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่โครงการที่รู้เรื่องละเอียดไม่มีใครอยู่ พระสงฆ์ก็ไม่ทราบเรื่อง เมื่อได้รับคำชี้แจงจากผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เลยทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน แต่เมื่อมีคนมาร้องเรียนจึงเรียกคนเลี้ยงหมูมาสอบถามข้อเท็จจริง โดยหมูตัวดังกล่าวบาดเจ็บจึงไม่ได้เลี้ยงรวมกับหมูปกติ คนเลี้ยงหมูเองก็ไม่ทราบ รู้เพียงว่าหมูตัวนั้นถูกชำแหละเนื้อแบ่งกันกิน ทำให้เรื่องราวบานปลายเกิดความไม่เข้าใจกันอย่างที่เป็นอยู่ "โครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 รับเลี้ยงคนด้อยโอกาสทางสังคมและสัตว์นานาชนิดที่ชาวบ้านไม่เลี้ยงแล้วนำมาบริจาค มีสัตว์อยู่หลายชนิด ทั้งวัว ควาย กว่า 10 ตัว หมู่ป่า 8 ตัว ไก่ หมา แมว ปลา เต่า จำนวนมาก ด้านข้างโครงการเป็นสถานีทดสอบพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี เมื่อมีสัตว์ตายต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบทันที ดูว่าสัตว์ตายเพราะอะไร ติดเชื้อหรือไม่ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคระบาดไปสู่สัตว์ในสถานี" นายสมพงษ์ กล่าว ขณะที่ นายคณา สามเมือง ผู้จัดการโครงการและดูแลเรื่องสิ่งของบริจาค กล่าวว่า โครงการขอยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่หมูตายแล้วไม่แจ้งเจ้าของ แถมยังปล่อยให้คนในโครงการเอาเนื้อหมูไปชำแหละแบ่งกันกิน ถือเป็นความผิดพลาด แต่อยากให้เจ้าของหมูเข้าใจเจตนารมณ์ของโครงการ โดยเฉพาะหลวงพ่อพระพยอม หากจะเอาผิดให้เอาผิดกับตน จะให้ทำอย่างไรได้ เมื่อหมูมันตายแล้ว และเนื้อมันก็ยังเป็นอาหารให้คนกินได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์เลยแม้แต่น้อย สำหรับโครงการร่มโพธิ์แก้ว 2 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ โดย 80 เปอร์เซ็นต์ ปลูกผลไม้นานาชนิด เช่น มะม่วง มะปราง นอกจากนี้ยังขุดบ่อเลี้ยงปลา สถานที่เลี้ยงโค-กระบือ ไก่ สุนัข และคอกสุกร ขณะเดียวกันยังจัดสรรที่ฝึกอาชีพสำหรับคนด้อยโอกาสกว่า 100 ชีวิต รับเลี้ยงเด็กกำพร้าอายุระหว่าง 3-18 ปี 40 คน ซึ่งโครงการส่งเรียนในสถาบันของรัฐ มีรถรับส่งเช้าเย็น หากคนไหนที่สามารถประกอบอาชีพได้แล้วก็จะแยกไปปลูกบ้านในพื้นที่ของโครงการ |
อันนี้ก็เป็นข่าวที่ คม ชัด ลึกเอา มาลง จะเป็นจริงยังก็ วิจารณญาณ กันดู
เเต่ยังไงสะ ก็ก้อุทิศบุญกุศล ให้เจ้าหมูได้นะคะ^^
Discussion (10)
เคยได้ fw mail มาหลายปีแล้ว
เฮ้อ... อ่านแล้วสงสารหมู
แต่เราก็กินมันอยู่ดี
อโหสินะ น้องหมู