จะทำยังงัยกับเพื่อนแบบนี้
loveprince12ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า นี่ไม่ใช่การนินทา แต่เป็นการขอความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ จากพี่ๆเพื่อนๆ
เนื่องด้วยในกลุ่มเพื่อนที่มหาลัยมีกันอยู่หกคน
แต่เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าในกลุ่มเราก็ค่อนข้างที่จะมีคนเก่งเยอะ แล้วก็มีเพื่อนคนนึงเค้าเรียนค่อนข้างดีเลยทีเดียว ตอนแรกก่อนสอบก็ไม่มีอะไรมากนะครับก็เรียนๆกันไปตามปกติ
พอมาถึงตอนคะแนนสอบกลางภาคออกนี่สิ กลายเป็นเรื่องใหญ่ คือว่าเราสอบกันหกวิชา คะแนนออฟกับเค้าจะไล่เลี่ยกันแต่ส่วนมากออฟจะน้อยกว่าเค้าแต่ไม่มากนะครับแล้วก็ดันมีวิชานึงที่เค้าได้น้อยกว่าออฟ แค่สี่คะแนน ถึงกับทำให้เค้าเครียด
อ้อออฟลืมบอกไปนะครับว่าออฟเป็นเด็กซิ่วเพราะฉะนั้นบางวิชาออฟก็เคยเรียนมาบ้างแล้ว
แต่ก็มีอีกวิชานึงที่เค้าได้คะแนนเยอะที่สุดของคณะ
แต่เค้าก็ยังเครียดอีก ออฟก็เลยถามว่าเครียดทำไม(ตัวออฟเองตกมีนคับพี่น้อง)เค้าก็บอกว่า"เทอมนี้ต้องมีคนได้เอเยอะแน่เลย" ถ้าให้ออฟคิดในทางที่ดีคือเค้าดีใจที่จะมีเพื่อนได้เอเยอะ
แต่ด้วยสีน่าท่าทางของเค้าแล้วคงเดาได้ไม่ยากนะครับว่าเค้าคิดอะไรอยู่
แล้วก็มีเพื่อนในกลุ่มไปคุยกับเค้า เค้าบอกว่า"ก็พวกแกหวังแค่เอาผ่านนี่นา แต่เค้าหวังเกียรตินิยม"
(สงสัยคงต้องอันดับหนึ่งเหรีญทองด้วยแหละมั้ง)
หลังจากที่เพื่อนมาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนในกลุ่มฟัง พอลับหลังเค้าเพื่อนๆก็เริ่มนินทา(ยกเว้นออฟนะครับ)
คือตัวออฟเองไม่ได้อะไรมากกับเค้าหรอกครับ เพราะเมื่อก่อนออฟเองก็เคยเป็นแบบนี้
คิดเสมอว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น แต่ยิ่งคิดแบบนี้คนที่เสียก็มีแค่ตัวเราเอง ก็เลยเลิกคิดแบบนั้น
ตอนนี้ก็ขอแค่ทำให้ดีที่สุดก็พอ แต่เรื่องของเรื่องคือ ออฟจะทำยังงัยกับเค้าเพื่อไม่ให้เพื่อนในกลุ่มเกลียดเค้าอยากจะเตือนสติเค้าให้เค้าเปลี่ยนวิธีคิด เพราะตอนนี้ดูท่าทางเพื่อนในกลุ่มหลายคนก็เริ่มออกอาการแล้ว
ส่วนตัวออฟเองออฟไม่ได้เกลียดเค้านะครับแต่ชอบเค้าด้วยซ้ำชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น
ยังงัยก้ขอความกรุณาพี่ๆผู้มีประสบการณ์สูง ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
Discussion (12)
แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนความคิดของเจ้าตัวได้หรอกค่ะ
คนเรามีมุมมองทางความคิดต่อเรื่องต่างๆแตกต่างกัน
ปัญหาเดียวที่แก้ได้คือเรื่องคำพูดของเพื่อนคนนี้มากกว่า
ยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติว่ามีผู้หญิงสวยหุ่นดี เดินไปบ่นกับเพื่อนว่าเธออ้วนมาก
หุ่นไม่ดี อย่างงั้นอย่างงี้ อะไรๆก็คงจะดีกว่านี้ถ้าคนพูดไม่ได้สวยหุ่นดีจนน่าอิจฉา
และจะดีกว่านี้ถ้าเพื่อนคนที่ผู้หญิงคนนี้ไปพูดด้วยไม่ใช่คนที่อ้วนกว่า
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คนพูดอาจจะแค่ต้องการบ่นเรื่องของตัวเอง
ไม่ได้ตั้งใจจะให้ไปกระทบกระเทียบความรู้สึกใครก็ได้
ทางที่ดีไปบอกเพื่อนคนนี้ตรงๆเถอะค่ะ ว่าเวลาพูดเรื่องคะแนนหรือการเรียน
เข้าใจว่าบางครั้งอาจไม่ได้ตั้งใจพูด แต่อยากให้ระวังการใช้คำมากกว่านี้หน่อย
เพราะบางทีคนฟังอาจจะตีความหมายไปในทางอื่นได้
แล้วผลเสียมันจะเกิดขึ้นกับตัวเค้าเอง
หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวแล้วหล่ะค่ะ เพราะคุณออฟทำดีที่สุดแล้ว
หุหุ
สำหรับตัวออฟเอง ออฟก็ซิ่วมาและเรียนเอกชนเหมือนกัน
ออฟก็หวังเกียรตินิยมเหมือนกัน
แต่ว่าออฟก็ไม่เคยที่จะกดดันตัวเองหรืออะไรแบบนี้นะ
เพราะก่อนสอบวิชานึงที่ออฟเครียดมากจนนอนร้องไห้
คือว่าอ่านหนังสือเยอะมากเพราะก่อนที่จะสอบออฟนอน รพ. อาทิตย์นึง
เลยเรียนไม่ทันเพื่อน พอคะแนนออกมาก็ตกมีน
คือบางครั้งเราก็เข้าใจความรู้สึกของคนที่ได้คะแนนน้อย
อย่างเพื่อนในกลุ่มก็มีคนที่ตกมีนทุกวิชาแต่เค้าก็ไม่ได้โวยวายอะไร
แต่คนนี้เค้าได้คะแนนเยอะแล้วเค้าก็พูดว่าตัวเองได้น้อย
มันจะทำให้คนที่ได้คะแนนน้อยกว่าเค้ายิ่งเสียความรู้สึกไปใหญ่
แต่ตอนนี้ออฟก็พยายามบอกเพื่อนในกลุ่มแล้วแหละ
ว่าให้ใจเย็นๆอีกหน่อยเค้าก็ปรับตัวได้เองแหละ
ก็หวังว่าเค้าจะปรับตัวให้ได้ก่อนที่เพื่อนจะรู้สึกไม่ดีมากกว่านี้
จะโดนมองว่าแปลกรึเปล่าไม่รู้ แต่เราเองก็หวังเกียรตินิยมเหมือนกันค่ะ (ไม่ถึงขนาดเหรียญทองนะ)
ที่พยายามอยู่ตอนนี้เพราะว่าคุณแม่ขอไว้ เราซิ่วมา ขัดใจทางบ้าน
เลยต้องพยายามอย่างมากเพื่อไม่ให้เค้ารู้สึกว่าคิดผิดที่ยอมให้ซิ่ว
ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่นๆของคุณออฟเป็นแบบเพื่อนเรารึเปล่า ตอนนี้เราเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนค่ะ
เพื่อนๆเราทางบ้านฐานะดีกันเป็นส่วนใหญ่ เรียนจบไปได้เกรดเท่าไหร่ก็มีงานรองรับ
คิดแค่ว่าเรียนให้จบๆเอาปริญญาก็พอ เค้าก็จะมองว่าเราเคร่งเครียดจริงจังกับชีวิตมากเกินไป
แต่เมื่อไปเทียบกับอีกมหาวิทยาลัยรัฐที่เรียนก่อนซิ่ว
รู้สึกเลยว่าความเครียด ความกดดันในการเรียน และการทำเกรดต่างกันมาก
เรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนเรากลายเป็นคนขยัน ตั้งใจเรียน เคร่งเครียด จริงจังกับชีวิตมากเกินไป
(ทั้งๆที่นอนในคาบเรียนแทบทุกคาบ ว่างก็โดด แต่ดันสอบได้คะแนนสูงลิ่ว เพราะอ่านหนังสือก่อนสอบ)
เทียบกับตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยรัฐเรากลายเป็นคนชิวๆ เฉื่อยชา
ไม่ค่อยสนใจ ไม่ตั้งใจเรียนอะไรเท่าไหร่
(เข้าเรียนทุกคาบ ตั้งใจเรียน แต่ดันเกือบตก)
เรื่องนี้คงต้องมองในหลายๆมุมหล่ะค่ะ จะไปบอกเพื่อนให้เครียดน้อยลงก็คงยาก
เพราะความกดดันของเค้าก็เป็นแรงผลักให้เค้าสอบได้คะแนนดี
แต่จะไปบอกเพื่อนในกลุ่มให้คิดในอีกแง่มุมก็คงยาก ถ้าไม่เข้าใจ
ทางที่ดีเตือนๆเพื่อนเรื่องการพูดจะดีกว่านะคะ เพราะคนเราเวลาเครียด พูดอะไรออกไปอาจไม่ทันคิด
หรือไม่ตั้งใจจะพูด แต่คนฟังเอาไปตีความได้หลากหลายมาก ทำให้ผิดใจกันซะเปล่าๆ
ว่าจะพิมพ์น้อยไปๆมาๆ ไหงยาวมาถึงขนาดนี้ได้ละเนี่ย
จะมีใครอ่านรู้เรื่องมั่งมั้ยเนี่ย
ตัวเราเองไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องเรียนอะไรมากมายนะคะ คือเกรดออกมาก็สะท้อนการเรียนของเรา
สะท้อนความพยาม ความขยันที่เรามี แค่นั้นเอง
ส่วนตัวเรา เราเรียนกราฟฟิค ซึ่งเลคเชอร์จะไม่ค่อยมี มีแต่งานเป็นชิ้นๆ หนังสือเป็นยังไง ยากที่จะนึกถึง แต่ก็ไม่ใช่ไม่ซีเรียสขนาด ลง ละ ดรอบ ลง ละดรอบน้าาาา
เราเป็นคนขี้เกียจมาก ย้ำ ว่ามาก โดดเรียน เพราะขี้เกียจตื่นบ่อยมากๆ แต่เราตามงาน ใส่ใจในงานแต่ละชิ้นที่ทำ รับผิดชอบใส่งานนั้นๆ
เคยมีบางคน ซึ่งเราไม่ทราบว่าใคร พูดถึงเราผ่านเพื่อนๆ ว่า ถ้าเทอมนี้ วิชานี้ เราได้ A มาอีกตัว จะไปฟ้องDEAN เราขำมากๆเลยอะ
สมัยนี้อิจฉากันได้ขนาดนี้เลยเหรอ คือเกรดก็งานแต่ละชิ้น เกรดใครเกรดมัน คุณทำยังไงคุณก็ได้เท่านั้น เราไม่เคยคิดจะแข่งกับใคร แค่แข่งกับตัวเองให้ตื่นไปเรียนคาบเช้า 8 โมงทันนี่ก็สุดๆแล้ว
สรุปเราก็ได้ A มา ก็ยังไม่เห็นจะมีใครไปหาDEAN เลย เราก็บอกดังๆในห้องตอนที่ได้ยินเลยนะว่า เราอยากเจอคนที่พูดจัง จะอะไรนักหนา คงต้องเขียนสคริปไว้รอแล้วแหละ เพราะไงเราฟาด A แน่แน่ แต่ที่พูดไปตอนนั้น กวนteen เค้าเฉยๆนะ ไม่คิดว่าจะได้เหมือนกัน ^_^