เห่อ+รีวิวของช็อปจากญี่ปุ่นจ้า
golfgaphappy29สวัสดีค่ะ สาวๆ จีบันทุกๆ คน ห่างหายไปนานพอสมควร กลับมาคราวนี้แก๊ปมีอะไรมาฝากเพียบเลยค่ะ
เมื่อวันที่ 8-16 สิงหาคม ที่ผ่านมา แก๊ปมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกรอบ (ชมภาพและอ่านเรื่องราวทริปนี้ คลิกที่นี่ค่ะ)
ไปคราวนี้ แก๊ปซื้อเครื่องสำอางมาไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่ซื้อตามออเดอร์รับหิ้วมากกว่า อิอิ ส่วนของที่ซื้อให้ตัวเอง ก็มีหลากหลายมาก ไปดูกันเลยค่ะว่าแก๊ปซื้ออะไรมาบ้าง (ราคาสินค้า แก๊ปใช้เรต 37/100 ซึ่งเป็นเรตอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้นค่ะ)
หมายเหตุ : สินค้าบางชิ้น แก๊ปได้ให้คะแนนรีวิวไว้ด้วย ทั้งนี้ก็เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวของแก๊ปเอง โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ
เริ่มจากเครื่องสำอางค่ะ
เมื่อวันที่ 8-16 สิงหาคม ที่ผ่านมา แก๊ปมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกรอบ (ชมภาพและอ่านเรื่องราวทริปนี้ คลิกที่นี่ค่ะ)
ไปคราวนี้ แก๊ปซื้อเครื่องสำอางมาไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ ส่วนใหญ่ซื้อตามออเดอร์รับหิ้วมากกว่า อิอิ ส่วนของที่ซื้อให้ตัวเอง ก็มีหลากหลายมาก ไปดูกันเลยค่ะว่าแก๊ปซื้ออะไรมาบ้าง (ราคาสินค้า แก๊ปใช้เรต 37/100 ซึ่งเป็นเรตอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้นค่ะ)
หมายเหตุ : สินค้าบางชิ้น แก๊ปได้ให้คะแนนรีวิวไว้ด้วย ทั้งนี้ก็เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวของแก๊ปเอง โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ
เริ่มจากเครื่องสำอางค่ะ
อายแชโดว์ KATE รุ่นนี้ออกใหม่เลย เพราะแก๊ปดูในเว็บ แล้วก็เห็นโฆษณาในทีวีที่ญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งก็ได้ดาราสาวสวยสุดเท่ห์อย่าง มิกะ นากาชิม่า นางเอกเรื่อง NANA ที่พวกเรารู้จักกันดี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ค่ะ ราคาข้างกล่อง 1,400 เยน (518 บาท) รุ่นนี้ กลิตเตอร์ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่หยาบมากนะคะ ประมาณว่าเม็ดใหญ่กว่าชิมเมอร์หน่อยนึง แต่สีชมพูก็อ่อนหวานดีค่ะ พอดีอยากได้สีชมพูมีกลิตเตอร์แบบที่เจนี่ทาในเรื่องหยกลายเมฆ มาเห็นอันนี้ก็ตัดสินใจซื้อทันทีเลยค่ะเพราะคล้ายๆ กัน (หลังจากที่ผิดหวังกับสีชมพูในพาเลต 78 สี ซึ่งอันนั้นสีมันค่อนข้างด้าน สีอ่อนก็ทาไม่ติด ส่วนสีเข้มก็แป๊ดจนเกินไป) ขอโทษที่ไม่มีรูปรีวิวสีมาให้ชมนะคะ แต่ฮาวทูคราวหน้าได้เจอกันแน่นอนค่ะ
ให้คะแนน 9/10 ค่ะ หักตรงที่สีขาวมันออกจะขาวจ้าไป ไม่ค่อยนวลเท่าไหร่ค่ะ แต่เอาไว้เขียนหัวตาก็สวยดีนะคะ ส่วนสีน้ำตาลก็ไม่ค่อยเข้มเท่าไหร่ค่ะ แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ ก็ราคามันน่ารักนี่คะ
มาสคาร่ามาจอลิก้า รุ่นอะไรไม่ทราบ แต่ที่อ่านจากแท่ง เขียนว่า Hope my lashes are full and smooth ค่ะ รุ่นนี้ใช้ดีจริงๆ ชอบมากกว่ารุ่น Lash Expander ซะอีกค่ะ (จริงๆ รุ่น Lash Expander ก็ดี แต่มันช่วยเรื่องขนตายาวอย่างเดียว ไม่ช่วยเรื่องความหนาค่ะ) เหตุเกิดจากตอนนั้นฝากแฟนซื้อรุ่น Lash Enamel Glamour NEO ให้ แต่แฟนซื้อมาผิดรุ่นค่ะ ก็เลยได้รุ่น Lash Expander มาแทนค่ะ ส่วนรุ่นนี้ที่แก๊ปชอบเพราะรู้สึกว่ามันทำให้ขนตาหนาและยาวขึ้นอย่างเงางามเป็นธรรมชาติ แต่ไม่ดูหลอกจนเกินไป เพราะมันไม่เด้งมากเหมือนขนตาปลอม ลักษณะแปรงเป็นซี่หวี จึงทำให้ปัดแล้วขนตาเรียงเส้นสวยงาม ไม่เกาะรวมกันเป็นก้อนค่ะ ไม่แพนด้า แต่ล้างออกง่ายอีกตะหาก (ขึ้นอยู่กับ Eye Remover ที่ใช้) โอ้ววว อะไรจะเริ่ดปานนี้
ให้คะแนนไป 9/10 ด้วยความที่สีมันดำเข้มมาก เวลาปัดรีบๆ ก็อาจจะเลอะขอบตาได้ค่ะ ต้องรีบเช็ดออก ไม่งั้นจะแห้งและเช็ดออกยากค่ะ จริงๆ ก็เช็ดไม่ยากถ้าใช้สำลีก้านจุ่ม Eye Make Up Remover แต่ว่ามันทำให้เสียเวลาที่ต้องมาแตะๆ แป้งทับส่วนที่ลบไปใหม่ค่ะ
Eye & Lip Remover อันนี้น้องฝากซื้อค่ะ แต่แก๊ปจะขอรีวิวว่าใช้ดีจริงๆ เลย น้องเห็นแก๊ปซื้อมาเมื่อธันวาปีที่แล้วก็เลยฝากซื้อ วิธีใช้ก็คือหยดใส่สำลีแผ่นหรือก้าน แล้วเช็ดเลยนะคะ ไม่ต้องแปะแช่ไว้ ไม่งั้นจะเช็ดไม่ออก (แรกๆ แก๊ปก็ทำแบบนี้ คือหยดใส่สำลีแล้วแปะ ปรากฏว่ามันเช็ดไม่ออก คิดว่าซื้อของไม่ดีมา แก๊ปก็เลยใช้ให้เปลืองๆ ไปเลย หมดแล้วจะได้ซื้อใหม่ ที่ไหนได้ กว่าจะรู้ว่าตัวเองใช้ผิดวิธีก็หมดไปตั้งครึ่งขวดแล้วค่ะ แต่ปัจจุบันใช้เป็นแล้ว ตอนนี้ยังเหลืออยู่เลยค่ะ) หยดนิดเดียวอย่าหยดเยอะมันจะเยิ้ม ประหยัดมากๆ ราคาข้างขวดก็แค่ 900 เยน=333 บาทเองค่ะ ลักษณะจะเป็นออยล์ลื่นๆ แต่ไม่เหนียวนะคะ คล้ายๆ ที่ล้างเมคอัพของ Botanics ในร้านบู๊ตส์น่ะค่ะ แต่หลังๆ นี่แก๊ปไปหาที่บู๊ตส์ไม่เจอแล้ว
ให้คะแนน 9/10 หักตรงที่กลิ่นฉุนไป และมันลื่นเกินไปค่ะ พอไหลเข้าตาแล้วตาออกจะมัวๆ หน่อย แต่ไม่แสบค่ะ
อันนี้แก๊ปซื้อมาใช้เองค่ะ จริงๆ ยี่ห้อเดิมก็ดีนะ แต่แก๊ปไปเห็นอันนี้แล้วรู้สึกว่าน่าใช้มาก สีฟ้ามันให้ความรู้สึกว่าสะอาดสดชื่นดีค่ะ ก็เลยสอยมาค่ะ จริงๆ แล้วอยากลองของใหม่มากกว่า ซื้อคนละร้านกับอันแรก เป็น Eye Make Up Remover ของ KOSE ค่ะ อันนี้ก็ล้างดีเหมือนกัน แต่อาจจะไม่เท่าอันแรก คงเพราะมีความมันและความลื่นน้อยกว่า ลักษณะคือมีน้ำยาแยกตัวกันอยู่สองชั้น เวลาจะใช้ก็เขย่าขวดให้น้ำยาผสมเข้ากัน ชอบตรงที่ไม่มีกลิ่นค่ะ ราคาข้างขวด 1,000 เยน (370 บาท)
ให้คะแนน 9/10 เท่ากับอันข้างบนเลยค่ะ ถึงจะล้างได้ไม่ง่ายเท่าอันแรก แต่ได้คะแนนพิศวาสไปตรงที่ไม่มีกลิ่น และไม่มันเท่าอันแรกนี่แหละค่ะ
อันนี้เป็นของแถมจากร้านที่ไปซื้อ Eye Make Up Remover ของ KOSE ค่ะ เป็นตัวอย่างลิปของมากียาจ มี 6 สีค่ะ แต่แก๊ปยังไม่ได้ลองเลย ไม่รู้ว่าทาออกมาจะเป็นยังไง
มูสจัดแต่งทรงผมของ Prostyle ค่ะ แก๊ปซื้อขวดสีน้ำเงินมาสองขวด (เพื่อนฝากซื้อขวดนึง) คิดเป็นเงินไทยก็ขวดละ 221 บาทค่ะ มูสยี่ห้อนี้มีสูตรสำหรับจัดแต่งทรงผมหลากหลายมาก แก๊ปซื้อมาเป็นสูตรผมตรง เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากกระทู้นี้ค่ะ http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=41331 ขอมอบเครดิตให้คุณ memebe นะคะ แก๊ปก็ยังไม่ได้ลองใช้เลย ไว้ใช้เมื่อไหร่จะมารีวิวให้ชมนะคะ (จริงๆ แก๊ปซื้อสเปรย์ยกโคนผมของ Cape ฝาสีขาวเหมือนคุณ memebe มาด้วย แต่อันนั้นของเพื่อนฝากซื้อค่ะ)
ต่อไปเป็นเสื้อผ้าค่ะ
เลกกิ้งสีดำขาสามส่วนของ Somethig by Edwin แบบปลายขามีลูกไม้ค่ะ ซื้อมาจาก Premium Outlet เมือง Tokishi จังหวัด Gifu วันนั้นมีซัมเมอร์เซลส์ลด 20% ทั้งร้าน (ถ้าจำไม่ผิด) ตัวนี้แก๊ปซื้อมา 730 เยนค่ะ (270 บาท) แต่รู้งี้น่าจะซื้อแบบห้าส่วนดีกว่า เพราะปิดขาใหญ่ได้ดีกว่า (-_-") ขาห้าส่วนราคา 840 เยนค่ะ (310 บาท)
ชุดยูคาตะ ซื้อที่ร้าน Shimamura ที่เมือง Tokishi จังหวัด Gifu ค่ะ ช่วงนี้ร้านรวงต่างๆ มีการนำยูคาตะมาลดราคากระหน่ำซัมเมอร์เซลส์กันเยอะแยะเลยค่ะ ชุดที่แก๊ปซื้อมา เป็นขนาดฟรีไซส์ (ความสูงตั้งแต่ 153-168 cm.) ขายเป็นเซ็ต 3,900 เยนค่ะ(1,443 บาท) ในเซ็ตก็จะมีชุด ผ้าผูกรอบอกพร้อมโอบิสำเร็จรูป และเกี๊ยะ (แต่ไม่มีคินจาคุให้นะคะ ที่เห็นในรูป อันสีแดงๆ นั่น แก๊ปซื้อไปฝากคุณยายคราวที่ไปเกียวโตช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ราคา 750 เยน=277 บาทค่ะ มาญี่ปุ่นคราวนี้รู้ว่าจะได้ใส่ยูคาตะก็เลยไปขอยืมคุณยายมาอีก อิอิ) แต่รู้งี้ (อีกละ) แก๊ปน่าจะซื้อสีที่สดใสกว่านี้ ชุดนี้ถ่ายรูปออกมาแล้วสีจืดจังแฮะ
เสื้อยืดสีขาว ซื้อมาจากร้าน Shimamura อีกตัวค่ะ ตัวนี้ใส่สบายมาก เนื้อนุ่มมากเลยค่ะ ราคาก็ไม่แพง 450 เยนเอง (167 บาท)
จริงๆ แก๊ปอยากเห่อชุดชั้นในผ้าซาตินสีชมพู ที่ซื้อมาจากห้างในย่านวัดโอสุ นาโกย่า แต่เกรงว่าจะติดเรตก็เลยไม่ได้เอาลงค่ะ
แบบมันจะน่ารักปนเซ็กซี่ (ออกแนว Ravijour แต่จะไม่เซ็กซี่ขนาดนั้น) ราคา 1,900 เยน (703 บาท) ซึ่งทางร้านมีป้ายบอกว่า ขายดีเป็นอันดับสองค่ะ ไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร เพราะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ตัวป้ายที่ติดมาก็เอาทิ้งซะแล้ว
ต่อไปเป็นของจากร้าน 100 เยนค่ะ
เครื่องสำอางที่น้องๆ ฝากไปซื้อ ก็จะมีอายแชโดว์ บลัชออน อายไลเนอร์ จริงๆ นี่เป็นแค่บางส่วนนะคะ เพราะส่วนใหญ่แจกจ่ายไปแล้ว คนที่ได้รับของแล้วก็บอกว่าใช้ดีนะคะ สีสวยติดทน เห็นราคาถูกขนาดนี้ แต่อย่าได้ดูถูกของจากร้าน 100 เยนที่ญี่ปุ่นเชียว
สำลีแผ่นค่ะ อันนี้แก๊ปซื้อไว้ใช้เอง ใช้ดีเหมือนกัน เหนียวนุ่ม ไม่ขาด ไม่ยุ่ยง่าย ที่สำคัญ ได้เยอะด้วยค่ะ
หมวกว่ายน้ำค่ะ ซื้อไว้ใช้เองเหมือนกัน เพิ่งใช้ไปครั้งเดียวเองค่ะ ชอบมากเพราะถูกดี
ร้าน 100 เยนที่ญี่ปุ่นมีเยอะมาก ที่แก๊ปไปมีสองร้าน (ไม่นับร้านที่เดินหรือนั่งรถผ่าน) ร้านแรกเป็นร้านเล็กๆ อยู่ที่เมือง Ena จังหวัด Gifu ส่วนอีกร้านชื่อ Daiso เป็นร้านใหญ่ ของเยอะมากๆ ค่ะ อยู่ที่จังหวัด Kobe
ข้อควรทราบเกี่ยวกับสินค้าร้าน 100 เยน : สินค้าทุกชิ้นที่มีป้าย 100 เยน เวลาเอามาคิดตังค์ เขาจะบวกเพิ่มภาษีอีกชิ้นละ 5 เยน รวมเป็น 105 เยน(39 บาท) ส่วนที่ราคาเกิน 100 เยน เขาจะไม่บวกภาษีเพิ่มค่ะ
ต่อไปเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ดค่ะ
สายกล้อง ซื้อที่ร้าน BIC CAMERA ที่นาโกย่าค่ะ เพราะแฟนแนะนำให้ซื้ออันใหม่ อันเดิมแฟนบ่นว่ายาวเกินไป และที่สำคัญมันแข็ง ห้อยแล้วปวดคอ (กล้องแก๊ปรุ่น canon eos 40D เฉพาะบอดี้น้ำหนักก็ปาไปแล้ว 7xx กรัม+เลนส์เบากว่าหน่อยนึง หนักเอาการเหมือนกันค่ะ แต่พอเปลี่ยนสายกล้องแล้ว รู้สึกน้ำหนักจะเบาขึ้นเยอะเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเบาจริงหรือเห่อกันแน่ 555) สายแบบนี้ จริงๆ แล้วที่ร้านมีเห็นอยู่สองสี คือสีเขียวกับสีน้ำเงิน แต่แก๊ปเลือกสีน้ำเงิน เพราะดูดีกว่าค่ะ ซื้อมาประมาณ 1,5xx เยน (จำราคาไม่ค่อยได้) พอเปลี่ยนแล้ว นุ่มสบายคอขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะตัวสายจะเป็นคล้ายๆ โฟมหรือฟองน้ำ ยืดหยุ่นดีค่ะ
จากนั้นก็เดินไปเลือกหูฟังเอาไว้ฟังกับคอมค่ะ อันนี้แฟนเป็นคนเลือกให้ ขอบอกว่าใช้ดีมากค่ะ ลองใส่หูแล้วไม่ปวดดี เสียงก็ไม่ดังกระแทกแก้วหูมากเกินไป ราคาโอเคเลยค่ะ 780 เยน (289 บาท)
ของที่ซื้อก็หมดแล้ว ต่อไปเป็นของฝากค่ะ
ตุ๊กตาหมีน้อย Rilakkuma ค่ะ เพื่อนแก๊ปที่เป็นคนญี่ปุ่นซื้อมาฝาก เขาบอกว่าตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนิยมมาก แล้วก็พวงกุญแจกระจกอันเล็กๆ ค่ะ น่ารักทั้งสองอันเลย
อันนี้แถม...
อันนี้ไม่ได้ซื้อที่ญี่ปุ่นนะคะ แก๊ปซื้อที่ขอนแก่นเมื่อตอนกลับมาถึงเมืองไทยได้ไม่กี่วันค่ะ พอดีที่ศูนย์ประชุม มข. มีการจัดงานเซลส์สินค้าของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เลยไปเดินเล่นกับเพื่อนๆ ค่ะ มีบูธของ Etude House ไปจัดด้วย ก็เลยได้ BB ขวดนี้มา ราคาก็จำไม่ค่อยได้ น่าจะประมาณ 5 ร้อยกว่าๆ นี่แหละค่ะ
ให้คะแนน 8/10 รุ่นนี้ใช้ดีพอสมควรเลยค่ะ หน้าผ่องเนียนดี หักคะแนนตรงที่ไม่ค่อยวิ้งวาวเท่าไหร่ อาจจะเป็นบางรุ่นล่ะมั้ง แต่ชอบตรงที่ขวดใหญ่มากเลยค่ะ (แล้วเมื่อไหร่จะใช้หมดเนี่ย)
สุดท้ายนี้แก๊ปก็ขอจบการเห่อแต่เพียงเท่านี้ ใครอยากให้แก๊ปรีวิวอันไหนก็บอกได้นะคะ เจอกันใหม่ครั้งต่อไปค่ะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
Discussion (29)
เค้าอยากได้ยูกาตะสีขาวบ้างอ่ะ....
สีขาวใส่แล้วให้ลุคผู้ใหญ่ดีค่ะ...ขาวม่วง..โอบิสีเทา..สวยจางงงงงง..
โอบิสวยค่ะ...แต่แอบชอบแบบผูกเองมากกว่าเพราะว่าทำสำเร็จมาแล้วมัน..โบ๊ว์...โบว์..
อ้อ..ที่ล้างตา..เคยลองของชิเชโด้ยังคะน้องแก๊ป..ขวดสีฟ้าๆเหมือนกัน...735 เยนมั้งถ้าจำไม่ผิด
อันนี้ก็โอนะ..(สำหรับตัวพี่)...ล้างออกง่ายดี..เอาไว้เป็นอีกทางเลือกนึงนะจ๊ะ..
ปล.ถ้าเคยใช้แล้ว...เทียบกับโคเช่หน่อยจิ๊..อันไหนดีกว่ากันนนนนน
เห็นแล้วเกิดกิเลสอยากไปญี่ปุ่นสุดๆเลยอ่ะ
ของน่าใช้ทั้งนั้นเลยค่ะ เบ็ดเสร็จทั้งทริปค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
วางแพลนไปช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่นบ้างง
ของน่าใช้ทั้งนั้นเลยค่ะ เบ็ดเสร็จทั้งทริปค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
วางแพลนไปช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่นบ้างง
ว้าว ชอบยูกาตะ
น่าใช้ทั้งนั้นเลยค่า
เห็นแล้วอยากไปช๊อปที่ญี่ปุ่นบ้างจัง
เห็นแล้วอยากไปช๊อปที่ญี่ปุ่นบ้างจัง
เจ้าของกระทู้แต่งตัวแล้วเหมือนคนญี่ปุ่นเลยอ่ะจ๊ะ
by eve
- การแต่งหน้ามีส่วนอย่างมากเลยค่ะ เน้นเขียนตาคมๆ ขอบตาล่างต้องไม่ลืมกรีดอายไลเนอร์ด้วยค่ะ ^^
น่าใช้ทั้งนั้นเลยค่า
เห็นแล้วอยากไปช๊อปที่ญี่ปุ่นบ้างจัง
by mamha-patty
- ถ้าแก๊ปมีเงินเยอะกว่านี้ก็คงชอบไปเยอะกว่านี้แล้วล่ะค่ะ
ว้าว ชอบยูกาตะ
by karumdog
- ขอบคุณที่ชอบค่าาา
เห็นแล้วเกิดกิเลสอยากไปญี่ปุ่นสุดๆเลยอ่ะ
ของน่าใช้ทั้งนั้นเลยค่ะ เบ็ดเสร็จทั้งทริปค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
วางแพลนไปช็อปปิ้งที่ญี่ปุ่นบ้างง
by sakura_taro
- แก๊ปเตรียมไปไม่เยอะค่ะ เพราะมีสปอนเซอร์อยู่ที่โน่น แต่เห็นในพันทิพที่มารีวิวกัน ส่วนใหญ่ไปไม่เกินอาทิตย์นึงก็ประมาณห้าหมื่นอะค่ะ อันนี้รวมค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว
เค้าอยากได้ยูกาตะสีขาวบ้างอ่ะ....
สีขาวใส่แล้วให้ลุคผู้ใหญ่ดีค่ะ...ขาวม่วง..โอบิสีเทา..สวยจางงงงงง..
โอบิสวยค่ะ...แต่แอบชอบแบบผูกเองมากกว่าเพราะว่าทำสำเร็จมาแล้วมัน..โบ๊ว์...โบว์..
อ้อ..ที่ล้างตา..เคยลองของชิเชโด้ยังคะน้องแก๊ป..ขวดสีฟ้าๆเหมือนกัน...735 เยนมั้งถ้าจำไม่ผิด
อันนี้ก็โอนะ..(สำหรับตัวพี่)...ล้างออกง่ายดี..เอาไว้เป็นอีกทางเลือกนึงนะจ๊ะ..
ปล.ถ้าเคยใช้แล้ว...เทียบกับโคเช่หน่อยจิ๊..อันไหนดีกว่ากันนนนนน
by thitimar_bee
- ลุคผู้ใหญ่ แต่ไม่แก่ใช่มั้ยคะ 555
ส่วนโอบิ ถ้าแก๊ปมาผูกเองคงหลุดไปตั้งแต่ออกจากหอแล้วล่ะค่ะ เพราะว่าปั่นจักรยานไปเองด้วย ลุยสุดๆ ไปเลย อิอิ
แก๊ปยังไม่เคยใช้ที่ล้างตาของชิเซโด้เลยค่ะ แต่มีรุ่นน้องเค้าไปญี่ปุ่นมาแล้วเค้าซื้อมาใช้ เห็นบอกว่าดีอ้ะค่ะ เห็นพี่บีว่าดีแก๊ปก็อยากลองเหมือนกันนะเนี่ย ชอบลองที่ล้างตาค่ะ เพราะถ้าเราซื้ออันที่ดีๆ หน่อย ก็จะทำให้เราล้างตาได้ง่ายขึ้นเนอะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่าาา