-

ขอบคุณค่า

Discussion (10)

วิธีการที่ใช้ในการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตัวเองระยะเริ่มแรกมีหลายวิธี คือ 1. การเอกซเรย์เต้านม [Memmography] เป็นวิธีถ่ายภาพมะเร็งเต้านม เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถแสดงรายละเอียดของสิ่งผิดปกติต่างๆ รวมถึงเนื้องอกที่มีขนาดเล้กมากๆ เกินกว่าที่จะพบได้จากการคลำโดยเฉพาะเต้านมผู้สูงอายุ จากการศึกษาพบว่าการตรวจโดยวิธีเอกซเรย์เต้านมมีประสิทธิภาพในการตรวจหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มแรก ดังนั้น ในอายุ 40-50 ปี ซึ่งมีอัตราเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมจึงควรได้รับการตรวจโดยวิธีนี้ทุกๆ 1-2 ปี ส่วนในหญิงอายุ 50 ปีขึ้นไปจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่า ควรได้รับการตรวจเป็นประจำทุกปี 2. การตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นการตรวจมะเร็งระยะเริ่มแรก โดยแพทย์จะคลำบริเวณเต้านมและบริเวณใต้วงแขน เพื่อตรวจหาว่ามีก้อนผิดปกติหรือไม่ นอกจากนั้นยังตรวจจากลักษณะต่างๆด้วย เช่น รอบบุ๋ม ตุ่ม หรือไตที่แข็งผิดปกติ การดึงรั้งที่ผิดปกติของหัวนม หรือการมีของเหลว เช่น น้ำเหลือ หรือ น้ำเลือดออกมาจากหัวนม 3. การตรวจเต้านมด้วยตนเอง เต้านมใน้พศหญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงอายุ เช่น จากภาวะการมีประจำเดือน การหมดประจำเดือน ภาวะการมีบุตร การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา อายุน้ำหนัก และการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนบางอย่าง ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงขนาดและรูปร่างของเต้านมได้ การตรวจเต้านมด้วยตนเอง ควรตรวจเป็นประจำเดือนละครั้งเพื่อที่จะได้คุ้นเคยกับภาวะปกติของเต้านมจะช่วยให้สังเกตความเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือนได้ง่ายขึ้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการตรวจเต้านมด้วยตนเองคือ 7 วัน หลังจากเริ่มมีประจำเดือน เพราะเต้านมจะมีความตึง หรือบวมจากภาวะปกติน้อยสุด ในหญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว ควรจะเลือกวันใดวันหนึ่ง เช่น วันแรกของเดือน เพื่อความสะดวกและเตือนตนเองในการตรวจเป็นประจำทุกเดือน หากตรวจพบสิ่งผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อตรวจให้แน่ชัดว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที
คุณหมอกฤษฎ์ รพ.บำรุงราษฎร์ค่ะ โทรไปก่อนนะเพราะหมอคิวเต็มตลอดปี แต่ไปเข้าคิวสแตนบายได้ ได้ตรวจดึกๆค่ะ คุณหมอจะตรวจถ้าก้อนไหนไม่อันตรายก็ไม่ต้องเอาออกค่ะ
ปล.อาจารย์หมอกฤษฎ์เก่งมากค่ะ เคยผ่าให้คนในวังด้วยค่ะ

พี่เคยมีก้อนประมาณ 2.5 ซม น้องอย่าเพิ่งกังวลนะคะ ถ้าจะให้แนะนำ ลองโทรไปถามที่สมิตติเวช ศรีนครินทร์ มีอาจารย์หมอที่ดีมากๆ และเก่งมากๆ ตอนนี้เค้าเปลี่ยนชื่อแล้ว พี่จำไม่ได้อ่ะค่ะ เป็นอาจารย์หมอผู้ชาย แต่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงนะคะ

พี่น่ะไปหาหลายที่จบท่านด้วยพบอาจารย์หมอท่านนี้ค่ะ สรุปแล้วพี่ไม่ต้องผ่า เพราะมันคือก้อนซีสน้ำนม แต่ที่อื่นให้พี่ผ่าหมด ขณะที่น้ำนมพี่ยังไหล ส่วนคุณหมอท่านนี้บอกพี่ว่าถ้าพี่ผ่าเป็นแผลติดเชื้อ และแผลจะไม่แห้ง เพราะยังให้นมลูก ลองโทรไปถามนะคะ แค่ตรวจเฉยๆ ก่อน เพราะพี่เคยตรวจแบบส่งกล้อง ซึ่งสามารถทราบผลมะเร็งได้ เสียแค่พันกว่าๆ คือคุณหมอจะใช้เข็มดูดน้ำขึ้นมาจากเต้าตรงที่เป็นก้อน และคุณหมอสามารถสันนีฐาณเบื้องต้นให้เราฟังได้เลยค่ะ ถ้าไม่มีไรตั้งแต่คุณหมอเห็น เราก็สบายใจมาขึ้นค่ะ จากนั้นก็แค่รอผล แต่พี่หาก็ประมาณ 4 ปี มาแล้ว ตอนนี้คงขึ้นราคาแล้วล่ะค่ะ บางครั้งพี่ไปตรวจตามนัด คุณหมอก็ไม่คิดเงินเลยด้วย ถ้าคุณหมอไม่ได้ใช้อุปกรณ์ของโรงพยาบาล ไม่คิดค่าหมอตั้งหลายครั้ง ลองโทรไปถามดูนะคะ คุณหมอใจดี และก็เก่งค่ะ 

 

ตอนนี้มันมี 2 เเบบคะ เเบบเมมโมเเกรม กับ อุตราซาวน์ เเป้งเคยตรวจเเบบหลัง

คือคล้ายๆกะเค้าตรวจดูเพศเด็กอะคะ เอาเจลทาเเล้วก็เอาเครื่องมือ จะบอกไงดี เเบบเวลาเค้าตรวจ

คนท้องอะคะ ราคาตรวจที่รามคำเเหง มะปีที่เเล้วพันเเปด เเต่จิงๆเเล้ว เเป้งเเนะนำให้ไปตรวจคลีนิ

คนอกเวลาโรงบาลรัฐบาลนะคะ ยกตัวอย่างจากตัวเอง เเป้งไปตรวจที่รามคำเเหง จับได้ว่าหน้าอกเป็นก้อนๆ หมออัตราซาวน์บอกไม่เป็นไร เต้านมขรุขระ ซึ่ง หลังจากนั้น ต่อมาก็เริ่มเจ็บ เเม้เเต่เดินลง
บันไดก็ยังเจ็บ เลย เลยไปตรวจคลีนิกนอกเวลาที่โรงพยาบาลราชวิถี เจอคุณหมอเก่ง เเละ ใจดีมากคะ

คุณหมอบอกเป็นอาการที่ผังผืดตรงหน้าอกมันมีถุงน้ำเเล้วมันอักเสบ ชื่อทางการเเพทย์ว่า #5+*&#@ มะรุจริงๆคะ

เเล้วคุณหมอก็เจาะถุงน้ำข้างในไปตรวจว่ามีเชลล์มะเร็ง รึป่าว ซึ่งก็โชคดีไม่มีไรคะ ดังนั้นเเป้งเเนะนำ
จากตัวเองนะคะ ไปโรงพยาบาลรัฐบาลคะ เเม้จะรอนาน เเต่เราจะเจออาจารย์หมอเก่งๆ คะ ซึ่ง จะตรวจให้เราตรงจุด ถ้าไปเอกชนก็จะเเนะนำให้ตรวจเป็นโปรเเกรม เเละบางทีมันก็ไม่ตรงจุดคะ
เคยไปตรวจที่ศิริราชค่ะ  ไปตรวจคลีนิคพิเศษนอกเวลา ไปถึงนี่ไม่ได้ตรวจเลยค่ะ นัดคิวก่อน  หลังจากนั้น 2 อาทิตย์ค่อยได้ตรวจ แล้วก็นัดทำแมมโมแกรม  อัลตร้าซาวด์  ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 3 พันค่ะ