เตือนภัยที่จอดรถศูนย์ประชุมสิริกิต์ + บ่นร้าน Nippon Kai

เรื่องเกิดกับเราสดๆค่ะ สาวๆไปไหนมาไหนระวังตัวดีๆนะคะ



เราไปงาน Food Ingerdient มีเมื่อวันศุกร์ที่11 ที่ศูนย์ประชุมสิริกิต์
ไปเยี่ยมบู้ทของซัพพลายเออร์ที่เราซื้อของด้วยประจำและอัพเดทข้อมูลใหม่ๆค่ะ
งานค่อนข้างเงียบเพราะเป็นวันสุดท้ายเราเลยสามารถจอดรถแถวที่จอดรถตรงหน้าอาคารได้

ที่ที่เราจอดรถจะเยื้องๆร้าน Black Canyon ตรงที่เลยทางเข้าอาคารมานิดนึง
มีทางเดินเชื่อมระหว่างที่จอดรถมุ่งสู่ตัวอาคาร ห่างไปแค่ประมาณ 20 เมตรเรียกว่าไม่เปลี่ยวเลยค่ะ


พอดูงานเสร็จเราก็เดินกลับรถตอนนั้นประมาณเที่ยงครึ่ง
บังเอิญเดินสวนกับคนรู้จักที่พึ่งมาถึงงานก็หยุดยืนคุยกันก่อนถึงรถเราประมาณ 3-4เมตร
แดดร้อนเปรี้ยง และเรามั่นใจว่าตอนนั้นรอบๆตัวไม่มีใครเลยนอกจากเราและคนรู้จักของเรา


พอแยกกันเราก็เดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงรถ ตอนกำลังหากุญแจอยู่ก็มีเสียงคนพูดอะไรฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ข้างหลัง
พอเราหันไปดูก็เจอผู้ชายวัยกลางคนแต่งตัวแบบแขกๆไว้เครายาวๆโพกหัว เสื้อผ้าหลวมๆดูรุ่มร่ามๆ
ยืนใกล้เรามากจนเราผงะนิดๆว่าตาลุงคนนี้โผล่มาจากไหน มายืนหลังเราตั้งแต่เมื่อไหร่
 
แล้วเค้ายื่นหน้ามาใก้ล หน้าเรามากๆๆๆๆประมาณจะดูหน้าเราให้ชัดๆ
แล้วพูดด้วยสำเนียงไม่ใช่คนไทย ประมาณว่า เหนี่ยคุ่ณนะวาสหน่าดีม่ากม่ากเหล่ย
 เราก็ ห้ะ อะไรนะ คือฟังไม่ออกและไม่เข้าใจความหมาย
 
เค้าก็พูดประโยคเดิมอีกแล้วยื่นกระดาษอะไรซักอย่างพรวดใส่เรา แบบเหยียดแขนไกลๆนิดนึงให้ยื่นหน้าไปอ่าน
เราก็มองตามเห็นเป็นกระดาษไซส์ประมาณนามบัตรแต่ไม่ใช่นามบัตรแน่ๆเพราะมีซองพลาสติกหุ้ม
และเป็นกระดาษขาวๆเขียนด้วยปากกาน้ำเงิน ลายมือภาษาอังกฤษหวัดๆ
เร็วมากจนเรายังไม่ทนจับใจความว่าเขียนว่าอะไรแต่รู้สึกได้ว่าขณะนั้นมีการเคลื่อนไหวแปลกๆที่ปลายตา
คือมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือแผ่นกระดาษของตาลุงและตัวเค้าเองกำลังจะอ้อมมาที่ข้างหลังเรา
เสี้ยว วินาทีนั้นเรารู้สึกแล้วล่ะว่าคนๆนี้มาร้าย ไม่รู้ว่าทำไมแต่ใช่แน่ๆ
ถ้าไม่ล็อคคอก็คงเอาปืนหรืออะไรจี้ในมุมที่เรามองไม่เห็นขณะที่หันไปดูกระดาษที่เค้าถือเพื่อเบนความสนใจอยู่
 
โชคดีที่สุดที่บังเอิญตอนนั้นมีรถตู้มาจอดหลังรถเราพอดี และมีคนเดินมาจากอาคารมาที่รถตู้คันนั้น
เราเลยรีบพูดเสียงดังลั่นเป็นภาษาอังกฤษประมาณว่าเนี่ยกรุ้ปเรามาแล้ว เค้ารอเราอยู่
เสร็จปุ้บตาแขกคนนั้นพึมพำ OK OK  อะไรซักอย่าง แล้วรีบเก็บกระดาษใบนั้น
แล้วทำท่าเหมือนจะขยับออกไปแต่ตอนนันเราไม่สนใจแล้วรีบขึ้นรถ ล็อคประตูทันที
พอหันไปดูอีกที แขกคนนั้นหายไปแล้วแบบไม่มีร่อยรอยเหมือนตอนที่เค้าโผล่มา
เราจอดตรงทางลาดที่มองเห็นได้ทั่ว เวลานับตั้งแต่เราขึ้นรถ เอาศอกกระแทกล็อคประตูไม่เกิน 5วินาที
กลับไม่เห็นใครซักคนซึ่งแปลกมากมองหาจนทั่วก็ไม่เห็น
แต่คาดได้ว่าน่าจะหลบอยู่หังรถคันไหนซักคัน .....รอเหยื่อคนต่อไป
 
เราไม่รู้หรอกค่ะว่าถ้ารถตู้คันนั้นไม่มาจอดตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง
แต่เรายืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเราไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายเกินไปตาลุงแขกคนนี้ไม่มาดีแน่ๆ
ต่อให้ไม่ได้ล็อคคอ หรือจี้ก็ยังทำได้สารพัดเช่น ป้ายยา ยัดยา โปะยา
จงใจใช้คำพูดและท่าทางเบนความสนใจ และฉกฉวยเสี้ยววินาทีนั้นทำอะไรซักอย่างแน่ๆ
สังคมสมัยนี้ใว้ใจไม่ได้ค่ะไม่มีใครเข้ามาพูดคุยกับคนที่ไม่เคยรู้จักโดยไม่มีจุดประสงค์เคลือบแฝง
ดังนั้นสาวๆต้องระวังตัวให้มากๆนะคะ
 
ขอบ่นนิดนึง
เสร็จจากศูนย์สิริกิติ์ อุตส่าห์จะไปทานอะไรอร่อยๆ ให้หายเซ็งหลังเจอลุงแขกประหลาด
ไปเอ็มโพเรี่ยม ชั้นบนสุดตรงที่เป็นโซนร้านอาหารเปิดใหม่ที่ออกแนวนานาชาติ
มี ร้านราเม็ง ร้านอาหารเกาหลี อาหารอินเดียเบอร์เกอร์แกงกะหรี่
ก็ไปลงเอยที่ร้าน Nippon Kai ที่อยู่มุมในสุดมองไปเห็นสวนสวยมาก
แต่ๆๆๆๆๆ อาหารเก่าเก็บมากกกกกกค่ะ
เราไปถึงประมาณบ่ายหนึ่งกว่าๆ สั่งเมนูอาหารกลางวันเป็นเซ็ตมีข้าวหน้าปลาดิบ ข้าวปั้นสาหร่าย
แต่สลัดมันฝรั่งเนี่ย แตงกวาหนืดยวบ แครอทชิ้นเป้งเริ่มออกเหนียวเยิ้มๆ
หร่ายบนข้าวปั้นก็ เอิ่ม…..เละๆแหยะๆแล้วค่ะ
ฟันธงเลย ของค้างคืนค่ะ

แต่ก็ไม่คิดมากเอาวะ ทานเก็บข้อมูล ถ้าท้องเสียก็จะได้ลดความอ้วนไปในตัว
สุดท้ายที่ทำให้ฟิวส์ขาดคือนี่ค่ะ แถมน้องจั๊วะมาด้วย




อยู่ใต้แครอทชิ้นโตนั่นแหละค่ะ
ด้วยความตกใจเลยได้แค่คว้ากล้องมาถ่ายแล้วเรียกพนักงานมาดูแล้วบอกขอแคนเซิ่ลอาหารทั้งหมด
จานใหญ่ยังไม่มาค่ะ แต่ไม่เอาแล้ว ไม่กล้ากิน
ตอนเดินออกขาสั่นเลยค่ะผิดหวังมากไม่คิดว่าร้านระดับ Nippon Kai จะเป็นแบบนี้
สาวๆเวลาไปทานระวังด้วยนะคะอาหารร้านนี้ไม่สดค่ะ


สุดท้ายไปฝากท้องที่ศูนย์อาหาร ชั้นเดียวกันวิวเดียวกัน
ทานสุกี้ร้อนๆ ปรุงสดๆดีกว่า ประหยัด5เท่า สบายใจ 10 เท่าค่ะ


Discussion (9)

น่ากลัวค่ะ สมัยนี้ไว้ใจอะไรไม่ได้เลย



แต่กระจั๋วข้างล่างนั่น ไม่ไหวอย่างแรงค่ะ!!!
 ลุงแขกน่ากัวอ่าาาา โชคดีที่รถตู้มาช่วยชีวิต:]]
ขอบคุนที่เตือนน่าคร้า จะได้ระวังตัว 

แต่ร้านอาหารนี่ไม่ไหวอ่า ดูแล้วสุกี้น่ากินกว่าเยอะเลย

เคยได้ยินคะ

เรื่องกระดาษเนี่ยแหล่ะ

ดีนะคะที่ยังไม่ได้จับกระดาษ

เพราะจับแล้วอาจจะสลบไม่รู้เรื่อง.....นับว่าสติยังดี

สาวๆจีบันระวังตัวกันหน่อยนะคะเด๋วนี้มีแต่คนแย่ๆในสังคม

เป็นห่วงน๊าๆๆๆทุกคน

น่ากลัวมากทั้งสองเรื่อง ขอบคุณที่นำมาบอกค่ะ