ความจริงเรื่องครีม"หมอจุฬา"
puja11[ความจริงเรื่องครีม"หมอจุฬา"] จากปากของ"นายกสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ"และ"อย."
>> โรงพยาบาลจุฬาฯเซ็ง! ครีมหัวหมอ "อ้าง"ชื่อหากิน
จากกรณีที่พบว่าครีมหมอจุฬากำลังเป็นที่นิยมและมีการนำใบรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเป็นหลักฐานประกอบการซื้อขายแม้ว่าจะไม่มีใบอนุญาตจากทางอย. ก็ตามทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าครีมยี่ห้อนี้โรงพยาบาลจุฬาฯเป็นผู้ผลิตส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก
**รองศาสตราจารย์ นายแพทย์นภดล นพคุณ** หัวหน้าหน่วยโรคผิวหนัง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และนายกสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า
1. การอ้างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มาเป็นหลักฐานในการขายสินค้าของครีมหมอจุฬาเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะถึงแม้จะได้รับการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จริง แต่ก็ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นมาตรฐานหรือเป็นหลักฐานในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องสำอางได้ เนื่องจากการออกใบอนุญาตจำหน่ายยาหรือเครื่องสำอางเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งต้องมีการเปิดเผยใบอนุญาตที่ชัดเจน ซึ่งในกรณีของครีมหมอจุฬาได้มีการตรวจสอบไปยังอย. ปรากฎว่าไม่เคยมีการขอใบอนุญาตมาก่อน และตามหลักของกฎหมายนอกจากเภสัชกรที่ต้องมีใบอนุญาตแล้ว แพทย์ก็ต้องมีใบอนุญาตด้วยเช่นกัน
2. ผลของคนไข้ที่ได้รับสารพิษจากครีมหมอจุฬาที่มีส่วนผสมที่อันตรายก็คือ ปัญหาหน้าด่างเพราะสารที่ทำให้หน้าขาว
**อย.** เปิดเผยว่า
1. ครีมยี่ห้อหมอจุฬายังไม่ผ่านการตรวจจากอย.และไม่มีการส่งเรื่องเพื่อขอเครื่องหมายอย. แต่อย่างใด ซึ่งในปัจจุบัน อย. ได้จัดให้เครื่องสำอางทุกชนิดให้อยู่ในประเภทเดียวกันคือเครื่องสำอางควบคุม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางชนิดใดยี่ห้อใดต้องมาขึ้นกับอย.ทั้งสิ้นโดยไม่มีข้อยกเว้นจึงจะถือว่าปลอดภัย
2. กรณีที่อ้างใบรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์นั้น ครีมที่ส่งไปพิสูจน์มีแค่ 1 ชิ้นซึ่งชิ้นนั้นอาจไม่มีส่วนผสมของสารปรอทหรือสารที่เป็นอันตรายอยู่ แต่ครีมตัวอื่นที่นำไปจำหน่ายต่อไม่สามารถทราบได้ว่าผสมอะไรลงไปบ้าง พิสูจน์ได้ยากเพราะมีครีมเหล่านี้อยู่มากมายตามท้องตลาด
3. จากการตรวจสอบของอย. พบว่าครีมหมอจุฬามีการปนเปื้อนของสารปรอทที่เป็นอันตรายอยู่ และปัจจุบันทางอย. ได้ประกาศให้ครีมหมอจุฬาเป็นหนึ่งในเครื่องสำอางอันตรายหากมีการจัดจำหน่ายและจับกุมได้ทางอย.จะทำการยึดทรัพย์และถอดถอนชื่อสินค้าออกทันทีพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> ส่วนตัวผมไม่เคยใช้ครีมยี่ห้อนี้ แต่ผมข้องใจตั้งแต่ได้ยินชื่อครีม "หมอจุฬา"แล้ว สงสัยว่าแพทย์ของจุฬาฯเค้าเป็นคนคิดค้นหรือ? แล้วทำไมทำ Package ออกมาดูแปลกๆ ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ เหมือนครีมผลิตหลังบ้านมากกว่า
***อีกอย่างในข่าวข้างบนมีเขียนถึงคำกล่าวของเจ้าของเว็บไซต์ ครีมหมอจุฬาดอทคอมว่า***
1. การเซ็นเซอร์ใบรับรองจากกรมวิทย์ เพราะกรมวิทย์ฯสั่งห้ามเอาขึ้นหน้าเว็บ (สงสัยกลัวโดนคนเอาเลขที่ใบรับรองไปตรวจสอบมั้ง)
2. ที่ไม่เปิดเผยแหล่งผลิต เพราะเป็นข้อมูลทางการค้า (แก้ตัวน้ำขุ่นๆ ของพวกสินค้าอันตราย)
3. ที่ใช้ชื่อว่า "ครีมหมอจุฬา" เพราะมีการใช้ชื่อนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมี (แล้วแกรู้จักกับแพทย์จุฬาคนไหนรึเปล่าล่ะ เค้าอนุญาตหรือยังครับ)
4. ที่ครีมหมอจุฬาไม่มีอย. เพราะ ครีมหมอจุฬาอยู่ในเครื่องสำอางประเภทที่ 3 สามารถผลิตได้เลย โดยไม่ต้องแจ้งกับทางอย. (เออดี คราวหน้าอย่าลืมใส่น้ำส้มสายชูผสมไปด้วยนะ จะได้ผลัดเซลล์ผิว)
>> ที่มา :: นสพ.รังสิต ฉบับที่ 53 ปีที่ 16 ฉบับวันที่ 11-20 ส.ค. 52 ราคา 10 บาท เจ้าของ : มหาวิทยาลัยรังสิต โดยคณาจารย์และนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิตครับ
http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q8332983/Q8332983.html ที่มาค่ะ
อ่านแล้วเอามาฝากสาวๆๆค่ะ
Discussion (11)
เคยเห็นคนพูดถึงกันเยอะ คิดว่าเป็นของจุฬาจริงๆ อยากลองใช้
แต่ดีว่า แถวบ้านไม่มีให้ซื้อใช้ บวกกับขี้เกียจหา ฮ่าๆ เลยโชคดีไป
ได้ฟังงี้...ไม่เอาแระ
คิดว่า ครีมหมอจุฬานี่คือ เป็นพวกยารักษาพวกสิวฝ้า ของหมอผิวหนัง ใน รพ.จุฬา
555555555555
เลยขอลอง ตอนนั้นยังไม่มีข่าวออกมา
ตัวครีมก็ธรรมดาเหมือนครีมทั่วไป แต่พอดมแล้วกลิ่นทะแม่งๆไงก็ไม่รู้
ตอนแรกก็ไม่กล้าใช้อ่ะคะ เพื่อนบอกก้อกลิ่นนี้แหละ มันทำมาจากสมุนไพร
ก็เลยลอง ได้สองสามวัน รู้สึกน่าแดง เจ็บๆสิวมากว่าเดิม อีกเพื่อนบอกแรกๆมันจะทำให้เห่อเด่วหาย
ไม่ละคะ ไม่ลองเลย ไม่กล้าใช้ต่อ กูใช้แล้วหน้าแหกกว่าเดิม เลยหยุดใช้ บวกกับกลิ่นที่ดมไปด้วยเลยหยุดไป ซักพัก
ช่วงนั้นแม่โทรมาบอกเรื่องครีมหมอจุฬาด้วย แต่ก็ต้องหาข้อมูลด้วยตัวเอง ที่รพ.เลยขึ้นป้ายเลย
ก็ไปบอกเพื่อนคนที่เอาครีมมาให้ลองว่าอย่าใช้นะ เป็นครีมอันตราย อย.บอก มันก็ไม่เชื่อ เถียงๆ
ก็เลย ช่างเผือกคะ ปล่อยให้น่าพังไปเถอะ
สวนตอนนี้ครีมจุฬากระปุกนั้น น้องชายเอาไปใช้แล้วคะ ตอนแรกตกใจน้องเอาไปใช้ พอรู้ว่าเอาไปทาเท้าที่แตกแล้วหาย ก็เลยสบายใจ อิอิ เปลี่ยนลองมาทาส้นเท้าแตกดูมั้ยคะ 555+