Review : Pan Acne Whitening Cream (รักษารอยสิว)

เนื่องจากเดิมทีฝนใช้ตัว LAX -1 กับ LAX -3 มาโดยตลอด

จนยาหมด ก็ได้ฝากคุณแฟนไปซื้อที่ราชเทวีคลินิค แต่ก็มิได้นำพา... เหมือนสั่งขี้มูก ฟึ๊ดๆๆ

พอได้ไป กทม. เอง ก็ดันไปแต่ห้างที่ไม่มีคลินิคนี้สะอีก ... 555+



จวบจน 2 อาทิตย์และ ที่หน้าไม่ได้รับการบำรุงจากยาตัวนี้ เวรกรรม.. ทนไม่ไหว

อิชั้นไปลุยใน Big C แปดริ้ว มาๆๆๆ ขอลองตัวที่คุณหมอบอกว่ามันสรรพคุณคล้ายๆ กันหน่อย

( คุณหมอบอกมานานและ ไม่ได้ลองเองสะที)

ก็เจอตัวไวเทนนิ่งตัวนั้น รูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้



มาอ่านรายละเอียดกันนะคะ



ต่อด้วยฉลากข้างกล่อง



วันที่ผลิต และวันหมดอายุ (ต้องดูด้วยนะจ๊ะ ห้ามลืม)



ก็เห็นๆ ว่ามาจากแหล่งเดียวกับราชเทวีคลินิคตามที่คุณหมอบอก โอเค.. เทสต์ทันที




ผลการใช้ ประมาณเกือบ 1 เดือน พบว่า.....

โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์นี้ก็รักษารอยสิวตามอาการเหมือนกับที่เคยใช้ LAX-1 ทุกอย่างคล้ายๆ กัน เพียงแต่จะรู้สึกว่ามันเหม็นกว่า กลิ่นคล้าย Tea Tree Oil และสรรพคุณข้างกล่องก็บอกว่ามีส่วนผสมสารกันแดดด้วย สามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็น ให้ทาบางๆ ย้ำ.. นะ ว่าทาบางๆ ไม่งั้นเยอะไปมันจะแสบยุบยิบ ในผลิตภัณฑ์นี้มี ethylhexyl salicylate 4% แต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้นะ ศรีทนได้อยู่



สำหรับกลางคืนก็ทาเหมือนตอนเช้า รวมๆ แล้วให้ 8 เต็ม 10 คะแนนค่ะ เพราะไม่ชอบกลิ่น
อีกอย่างถ้าใครเคยใช้ LAX-1 แล้วมาเป็นผลิตภัณฑ์ตัวนี้มันให้ความรู้สึกที่ต่างกัน
แต่ผลก็คล้ายๆ กัน คือ ผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ลดเรื่องรอยสิวได้ดีระดับหนึ่ง


ในรายละเอียดข้างกล่องระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ...

การใช้ผลิตภัณฑ์นี้บางรายที่มีปัญหา Comedone อุดตันที่รูขุมขนอยู่ก่อนแล้ว และไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า การใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงทำให้ Comedone ที่อุดตันอยู่ลอกออก อาจส่งผลให้เกิดสิวขึ้นในช่วงแรกๆ แต่เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ Comedone ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นอย่าไปตกใจที่สิวขึ้น


.... "การที่ฝนสิวไม่ขึ้นเพิ่มก็เพราะมั่นดูแลผิวหน้าทุกวันตามอัตถภาพ
บำรุงผิวตามความเหมาะสม  รักษาสิวเองตามอาการ
ในเวลาเช้า-เย็น ช่วงก่อนล้างหน้าก็ทา BP สลับวันกับ Panoxyl ทุกวัน
ดังนั้นสิวจึงไม่เพิ่มขึ้นตามคำเตือนนั้นๆ และก็ใช้ได้ต่อเนื่องปกติดีค่ะ "....



คราวนี้จากการไปนั่งค้นคว้ารีวิวต่างๆ แต่ละคนจะมีอาการแพ้ยาตัวนี้ โดยอาการที่พบเห็นส่วนมากจะสิวเห่อ และทนใช้ต่อไม่ไหว บางคนบอกแสบหน้า หน้าแดง หน้าลอก ส่วนตัวใช้แล้วหน้าไม่แห้งนะคะ เพราะฝนเป็นคนผิวผสมแต่ค่อนข้างไปทางมัน ก็ปกติดีค่ะ ^^ นับว่าผ่านกับการทดลองผลิตภัณฑ์ตัวนี้


ถ้าถามว่าจะซื้อใช้ต่อไหม... คงไม่ซื้อใช้ค่ะ จะใช้ยามจำเป็นที่หาซื้อยาประจำไมได้ หรือฉุกเฉินก็คงต้องใช้ ฝนว่าจะกลับไปใช้ LAX-1 กับ LAX-3 อีก เพราะของมันเคยๆ อีกอย่างเรารู้สึกดีกับ 2 ตัวนั้นมาตลอด

หากใครที่สนใจอ่านข้อมูลรีวิวนี้แล้ว ใช้วิจารณญาณสักนิดนะคะ บางคนก็แพ้ บางคนก็ถูกกับผลิตภัณฑ์นี้
ราคาอยู่ที่ 290 บาท ถ้าเป็น LAX – 1 กับ LAX -3 ก็ประมาณ 3 ร้อยกว่าๆ จ้า
หาซื้อได้ทั่วไป ตามห้างย่อยๆ ก็มีนะ เดี๋ยวนี้ Pan หาง่ายมากๆ ในวัตสันก็มีอ่ะค่ะ

หวังว่าผลการทดสอบนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่สนใจหาตัวรักษารอยสิวบ้างนะคะ

Discussion (33)

การทา acne white นั้น ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องทาแล้วล้างออก แต่ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล คือถ้าลองทาแล้วรู้สึกแสบ ทนไม่ได้ ก็ให้ทา 5 นาทีแล้วล้างออก แต่ถ้าจำไม่ผิดสูตรปัจจุบันได้ปรับปรุงให้อ่อนโยนลงแล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาไรมาก สำหรับวิธีการเรียงลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เรียงดังนี้ 1. ตามสถานะของสาร คือเรียงจาก ของเหลว-->เจล-->ครีม 2. บางครั้งอาจมีผลิตภัณฑ์ที่มีสถานะเดียวกัน เช่นมีครีมทาสิว ครีมบำรุงผิว มีวิธีการเรียงคือให้ทาอะไรที่เป็นตัวยาก่อน แล้วค่อยตามด้วยการบำรุง ดังนั้นให้ถูกคือจะต้อง ทาครีมสิว แล้วตามด้วยครีมบำรุง ตัวอย่างการลำดับทาผลิตภัณฑ์ ยาแต้มสิว(เป็นน้ำ) --> เซรั่มวิตามินซี (เนื้อกึ่งน้ำกึ่งเจล)--> เจลแต้มสิว --> clinda gel (วิตามินบี3) --> acne white --> LAX-1 หรือ LAX-3 --> whitening (เนื้อครีม) --> กันแดด
Acne whitening เป็นครีมที่ช่วยเรื่องสิวครับโดยมีหลักการคือการผลักตัวสิวให้ออกมา (บางคนใช้แรกๆอาจจะสิวเห่อ แต่ให้ทนใช้ต่อไป ก็จะสวยไร้สิวที่ค้างอยู่ภายใน) และช่วยเรื่องของรอยดำ ลดโอกาสการเกิดรอยสิว(แต่ช่วยได้นิดนึง) ส่วน LAX-1 และ LAX-3 เป็นครีมปรับดุลยภาพผิว คือจะทำให้เซลล์ผิวสามารถทำงานได้ตามสมดุลปกติที่ควรจะเป็น ซึ่งเมื่อเซลล์ผิวทำงานได้ตามดุลยภาพปกติ ก็จะทำให้ฝ้า กระ รอยหมองค้ำอยู่ห่างไกล แต่โดยความคิดส่วนตัวรู้สึกว่าค่อนข้างใช้เวลานาน (ประมาณ 8 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผล) แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนี้ไม่ได้ช่วยเ้รื่องสิวโดยตรงเหมือนกับ Acne white ทั้งนี้ข้อแตกต่างของ LAX-1 และ LAX-3 คือ LAX-3 จะมีประสิทธิภาพดีกว่า สามารถดูดซึมได้เร็วกว่า ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง 1 และ 3 ควบคู่กัน แต่ให้พิจารณาถึงสภาพผิวเป็นหลัก ถ้าสภาพผิวโทรมมากก็ให้ใช้ 3 แต่ถ้าผิวปกติ แต่จะใช้เพื่อคงสภาพความงามก็ใช้ 1 ไป นอกจากนี้ยังมีกระแสของวิตามินบี 3 ที่มาแรง (Niacinamide หรือ Nicotinamide) ที่มาแรงก็เพราะมีงานวิจัยยืนยันว่าสามารถช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น ความผ่องใส การปรับสภาพผิว และยังช่วยเรื่องสิวได้ ซึ่งเจ้าตัววิตามินบี 3 ที่ว่านี้ก็เป็นส่วนผสมหลักใน LAX1 และ LAX3 เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าหากผู้ใช้บางคนทรัพย์ไม่คล่ิองตัว ผมขอแนะนำตัว clinda gel (หลอดสีชมพู) ราคาไม่แพง(ไม่น่าจะเกิน70บาท) ซึ่ง clinda gel นี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ในเครือเดียวกันกับ Acne white LAX-1-3 แต่เกรดอาจจะต่ำกว่า ประกอบกับส่วนผสมของ gel ตัวนี้ไม่เน้นไรมาก นอกจากวิตามินบี 3 เพียวๆ ก็เลยมีราคาถูก แต่ผมคิดว่าก็เอาอยู่ เพราะคุณค่าของวิตามินบี 3 ก็มีมากตามที่บอกไป
แล้วมันใช้ยังไงอ่าค่ะ ไอ่ตัวแพวไวเทนนิงครีมอ่ะ อ่านไม่ค่อยเข้าใจเลย คือหมายถึงต้องทา5นาทีแล้วก็ล้างออกใช่ป่ะค่ะ ?
สวัสดีจ้าสาวๆ ^^ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านรีวิวนะจ๊ะ

สภาพผิวที่แตกต่างกันย่อมเห็นผลที่ต่างกัน ยังไงแล้วลองทดสอบจากคนข้างเคียงที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ก็ได้ค่ะ  แรกๆ สิวก็อาจมีขึ้นบ้าง ทนได้เท่าที่ทนเน้อ เดี๋ยวจะจิตตกอ่ะ

น้องโม.. ขอบคุณที่ไปเยี่ยมชมที่เวปพี่นะคะ ตอนนี้ตรงสมาชิกนี่พี่ก็... ไม่รู้เมื่อกันมันจะยังดี เน็ตดีไซน์มันเป็นเวปสำเร็จรูป เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ไม่ดี ขอโทษด้วยจ้า ไว้ไปทักทายที่ห้องแชทด้านล่างได้ถ้าเห็นพี่ออนนะคะ เรื่องคำแนะนำ พี่ก็ใช้เหมือนน้องโมแทบทุกตัวเลย ^^ แต่พี่หยุดยาคุมและอ่ะ
สิวฮอร์โมนนี้มันไม่หายไปจากชีวิตจริงๆ
เจอกันตลอด ตั้งแต่อายุ 11 แล้วค่ะ

โมเองก็เคยรักษาที่แพนและใช้ผลิตภัณฑ์ของงแพนอยู่ค่ะ
แต่ไม่เคยใช้ตัวนี้ ^ ^ ตอนนี้หลักๆที่ใช้อยู่ คงเป็น BP 5% ของ Benzac สลับกับ PanOxy
และใช้ Eryacne แต้มสิวค่ะ ไม่ได้แต่งหนา้ เลย กลัวอุดตันเพราะว่ายังหาตัวล้างดีๆไม่ได้เลยค่ะ
ไม่ทราบพี่ฝนมี ตัวไหนแนะนำมั้ยคะ สำหรับคนมีสิว ผิวมัน รูขุมขนกว้าง T^T
ขอบคุณค่ะ พี่ฝน สำหรับ review ละเอียดยิบยิบ

ปล โมสมัครสมาชิก fondiaryclub ไม่ได้ค่ะ เพราะว่าเลือกตรงช่อง ประเภทธุรกิจ ไม่ได้เลย
คลิกไปแล้วแต่ เลือกไม่ได้ค่ะ  จะเริ่มกรอข้อมูลได้แค่ช่อง เขต/อำเภอเป็นต้นไปค่ะ