ถามค่ะพี่ๆเรียนจบกันเกรดเฉลี่ยไม่ถึง2.50มีมั้ยเอ่ย

จบ 2.75 ค่ะ
เป็นเด็กเหลือขอในสายตาของอาจารย์ ถึงขั้นถูกว่าไม่มีทางหางานทำได้ (เรียนออกแบบค่ะ)
ตอนนี้จบมาก็นานโขอยู่ เปลี่ยนงานมาหลากหลาย ทั้งตรงสายที่เรียนและที่ไม่เกี่ยว
ปัจจุบันทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับที่เรียนเลยซักนิด แต่เราก็แฮปปี้ดีค่ะ

เราคิดว่าเกรดอาจจะสำคัญตอนสมัครงานแรกๆก็จริงแต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ
ตอนที่เราสมัครงาน รู้สึกว่าหลายๆที่เค้าให้ความสำคัญกับประสบการณ์ บุคคลิกและความเหมาะสม มากกว่าเกรดที่จบค่ะ

คุณ จขกท ไม่ต้องกังวลนะคะ ตั้งใจเรียนวิชาที่เหลือให้เต็มที่
ระหว่างนั้นก็ลองเพิ่มความรู้ด้านอื่นมาเป็นตัวเสริม เช่นเรียนภาษา หรือความสามารถพิเศษต่างๆ
ฝึกบุคคลิกตนเอง การวางท่าทาง เสื้อผ้าหน้าผมให้ดูดี
และทำความรู้จักผู้คนหลายๆสาขาให้มากๆ

สู้ๆนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ

 อยู่ที่ดวง จังหวะ โอกาส บุคลิกภาพเหมาะที่สมกับงาน

บางคนเก่ง พรีเซ้นท์ได้เป็นฉาก ๆ แต่ขาดบุคลิกภาพก็อดได้งานจ้อยย

อืมม ตอนนี้พี่เรียนจบ ทำงานมาได้ปีกว่า ๆ ละ สำหรับตอนนี้ เศรษฐกิจไม่ดี งานก็หายาก การแข่งขันก็สูงด้วย พี่ว่าเกรดก็เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณานะ เหมือนเป็นด่านแรกในการเรียกตัวไปสอบข้อเขียน หรือสัมภาษณ์งาน บริษัททั่วไป (ส่วนใหญ่) ถ้าเป็นทางสายศิลป์ ถ้าจบจากมหาลัยรัฐ ก็จะเอาเกรดอย่างต่ำ 2.75 นะ ส่วนมหาลัยเอกชนก็จะประมาณ 3.00 ถ้าเป็นสายวิทย์ มหาลัยรัฐก็ประมาณ 2.50 มหาลัยเอกชนประมาณ 2.75 บางที่ก็อาจจะไม่ดูเกรดก็ได้ แต่ถ้าบริษัทใหญ่ เค้าก็มักจะดูเกรดก่อนทั้งนั้นแหละจ้ะ แล้วก็ค่อยมาวัดกันตอนสัมภาษณ์งานกันอีกที พี่แนะนำว่า ถ้าว่าง ก็ลงเรียนวิชาเก็บเกรดเพิ่มก็ดีนะจ๊ะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ ปีนึง จบกันมาเป็นหมื่นคน อัตราการแข่งขันสูงมากกกกก สู้ ๆ ค่ะ

ป้าจ๋าจบมา 2.57 จำแม่น ในขณะที่เพื่อนๆได้เกียรตินิยมกันมากมาย (มันเรียนยังไงหว่า)
เพราะปีหนึ่งป้าจ๋ามัวหลงระเริงได้ 2.25 มั้ง น่าเกลียดมาก
มา speed ตอนปี 3 กับ 4 เพราะได้เรียนวิชาเฉพาะทางของเราแต่ก็ไปฉุดของเก่าไม่ไหวแล้ว
ถามว่าเกรดมีความสำคัญมั้ย ตามความเห็นมันคือสิ่งที่คนที่เขาจะรับเราเขากำหนด
แล้วมันเป็นสิ่งแรกที่เขาเห็น
อย่างตอนป้าจ๋าจบบริษัทปูนยักษ์ใหญ่ระบุไว้เลยว่าอย่างต่ำ 2.75 (กรรม อด...)
แล้วที่สำคัญเพื่อนๆมัน 3.65 แล้วจะไปแข่งกับเขาได้ไงล่ะเนี่ย

แต่อย่าเพิ่งท้อต้องลองค่ะ สู้ๆๆจ้ะ บางทีเรื่องงานมันเป็นโอกาส จังหวะ และดวงด้วยค่ะ