จะไปภูกระดึง แต่งตัวยังไงดี

ระหว่างวันตอนอยู่บนภูควรแต่งตัวยังไงค่ะ ตอนกลางวันต้องใส่ แขนยาว ขายาว มั้ย
ไปปลายเดือนนี้คะ

 แม่เรา บอกว่า " อย่างแกไปไม่ได้หลอก "
อ่าน ๆ แล้วก็คงจะจริงค่ะ ไม่ทนจริง ๆ 

ไม่ได้เข้ามาตอบ  แต่เข้ามาขำ

อ่านแล้วฮามากกกก

เห็นภาพเหมือนไปเดินเอง...สำนวนการเขียนแบบว่ามันส์หยด เช่น

"ว่าจะถึงซำสุดท้ายเกือบตาย ตั้งชื่อให้ว่าซำห้อยเลยค่ะ (ลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว) "

"เสื้อผ้า เอาแบบที่เดินฉีกแข้งฉีกขาได้สบายๆ" (นึกว่าไปออกรบ!!)

"ตอนลงเขาจะเร็วและยากกว่าขาขึ้นมากๆ เพราะแทบจะวิ่งเถลือกไถลลงมาปลายนิ้วเท้าจะจิกด้านหน้าอย่างมาก บางช่วงแทบกลิ้งลงมาเพราะขาหมดแรงเกร็งลงทางชัน ลงมาแทบทุกคนนิ้วเท้าในเล็บ จะห้อเลือดเป็นม่วงๆ"  (เห็นภาพสุดๆ)

"คุณจะร้อนเหมือนอบซาวน่าเลยค่ะ เหงื่อนี่ไหลมาเทมาเป็นเทน้ำเทท่าค่ะ"


ฮามากกก

นึกภาพผู้หญิงมานั่งเม้าส์กันอ่ะ  คงจะสนุกมากก^^

ขาขึ้น ขาลงนี่ไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนก็ไม่ต้องใส่เสื้อหนาว หรือ เสื้อหนาๆ นะคะ เพราะเดินไป ปีนเขาไปสักพัก คุณจะร้อนเหมือนอบซาวน่าเลยค่ะ เหงื่อนี่ไหลมาเทมาเป็นเทน้ำเทท่าค่ะ รองเท้าเลือกคู่ที่ใส่สบายที่สุดค่ะ ผ้าใบกับถุงเท้าเนี่ยแหละค่ะดีสุด ป้องกันฝุ่นเข้าเท้าและการสะดุดได้ดี เสื้อเอาแบบที่ระบายเหงือได้ดีค่ะ กางเกงขาสั้นก็ได้ แต่ว่าถ้ากลัวขาถลอกเพราะลื่น หรือโดนกิ่งไม้เกี่ยวก็ใส่ยีนส์ขายาวค่ะ ใส่หมวก เก็บผมให้หมดค่ะ แว่นตากันแดดอย่าลืมค่ะ ยาดม ยาหม่อง ยาหอมพกไว้กับตัวค่ะ เคยเจอคนเป็นลมต้องให้ลูกหาบหาบขึ้นค่ะ น่าหวาดเสียวมาก ตอนแรกเราก็จะเป็นลมแต่ไม่อยากโดนหาบเลยแข็งใจไว้ หาน้ำดื่ม นั่งสักพัก อย่าฝืนนะคะ ไม่ใช่เห็นเพื่อนเดินไปไกลแล้ว พยายามจะตาม ถ้าเราไม่ไหวก็ลงนั่งพักก่อนค่ะ เรียกเพื่อนให้รอ แล้วค่อยเดินต่อ ถึงช้าหน่อย แต่ร่างกายเรารับไหวจะดีกว่าค่ะ ลูกอมที่ทำให้ชุ่มคอก็ควรมีค่ะ เตรียมผ้าเปียก (ผ้าเช็ดก้นเด็กอ่ะค่ะ) เอาไว้เช็ดหน้า เช็ดแขน คลายร้อน พอถึงซำแรกจะมีของขาย ชื่อซำแฮ่ก มั้งจำไม่ได้ แหม มันเหนื่อยแฮ่กเลยจริงๆ ค่ะ ต้องดื่มสปอนเซอร์กันเลยแหละ กว่าจะถึงซำสุดท้ายเกือบตาย ตั้งชื่อให้ว่าซำห้อยเลยค่ะ (ลิ้นห้อยกันเลยทีเดียว)

พวกชุดกันหนาวนี่เตรียมไปค่ะ ควรหาเสื้อหนาวที่หนาๆ อุ่นๆ จริงๆ สักตัวเดียวก็พอ ดีกว่าขนพวกที่ไม่อุ่นไปหลายๆ ตัว ตอนกลางคืนใส่เสื้อแขนยาวไว้ข้างใน ทับด้วยเสื้อหนาว ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าห่มก็น่าจะอยู่ค่ะ มันหนาวมากค่ะตอนตกกลางคืน น้ำค้างหยดจากหลังคาเต้นท์กันเลยทีเดียว เวลาอาบน้ำนี่เหมือนเข็มพันเล่มทิ่มเลยค่ะ น้ำที่นั่นก็เป็นน้ำกระด้าง ล้างแชมพู สบู่ออกยากมากแต่ต้องอาบค่ะ เพราะตัวสกปรกจากการเดินทางมากๆ เรื่องห้องน้ำต้องทำใจค่ะ ยิ่งหน้าหนาวคนไปเยอะมาก ความสกปรกไม่ต้องพูดถึงค่ะ หลับหูหลับตาเข้าไปค่ะ ก่อนนอนทาเคาน์เตอร์เพนที่ขาไว้เลยค่ะ เช้าตื่นมาจะได้ไม่ปวดมาก

ของกินนี่ซื้อเตรียมไปก็ดีค่ะ เตรียมไรได้เตรียมไปค่ะ ใส่กระเป๋าให้ลูกหาบแบกไปค่ะ ข้างบนของแพง เราเคยทำกับข้าวกินเองข้างบนด้วย เขามีเตาถ่านให้เช่าค่ะ สนุกดีเหมือนกัน กินเสร็จได้เวลาออกเดินอีกแล้วค่ะ ถ้าใครมีแรงตื่นตีห้าก็จะได้เดินไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น เดินประมาณชั่วโมงนึงเห็นจะได้ แล้วเดินกลับเต้นท์ กินข้าวกลางวัน เสร็จรีบออกเดินได้ค่ะ ถ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ที่คนไปต่อคิวถ่ายรูปกันน่ะค่ะ ระหว่างทางก็มีน้ำตก สระอโนดาษ ป่าสนให้ดูเพลินๆ ไปค่ะ สวยมากๆ ค่ะ เราชอบต้นสนที่นั่นมาก เขียวสวยจริงๆ มีดอกไม้เป็นบางแห่ง ถ้าเป็นหน้าฝนจะได้เห็นดอกกระเจียวค่ะ ป่าปิดที่มีเมเปิ้ลไม่แน่ใจว่ายังอนุญาตให้เข้าได้หรือเปล่า ถ้าได้เข้า จะได้รูปสวยๆ มากมายค่ะ ตอนกลางคืนถ้าเดินกลับจากผาหล่มสักระวังหมาป่าด้วยนะคะ พยายามเดินเกาะกลุ่มกันไว้ มันมีสองทางนะ ที่เราเคยเดิน คือทางที่ต้องเข้าป่า กับทางเลียบผา ควรกลับทางเลียบผานะคะ มันจะเดินง่ายหน่อย ถึงไวขึ้น ไม่ต้องปีนป่าย โดยเฉพาะกลางคืนควรเดินทางนี้ค่ะ ไฟฉายเตรียมถ่านสำรองเยอะๆ ค่ะ

ว่าแล้วก็อยากไปอีก แต่สังขารคงไม่อำนวยแล้วค่ะ นึกถึงตอนนั้นไปได้ไงไม่รู้ สองรอบ (น่าจะเข็ดตั้งแต่รอบแรก 555) คือมันเหนื่อยที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ แต่มันก็สวยมากโขอยู่ คุ้มเหนื่อย คนเขาถึงยอมปีนป่ายกันขึ้นไป ไปตอนหนุ่มๆ สาวๆ นี่แหละค่ะดีแล้ว เพราะยังมีกำลังอยู่ อย่าลืมฟิตร่างกายก่อนนะคะ ขอให้สนุกสนานกับการเดินทางค่ะ