ยาลดความอ้วนที่ได้ผล
RIKAJUNG16ขอแบบได้ผลจริงๆน่ะค่ะ
ยี่ห้อไหนบ้าง
ลดเองแล้วไม่ลงเลย
อยากหาตัวช่วยน่ะค่ะ
><
ยี่ห้อไหนบ้าง
ลดเองแล้วไม่ลงเลย
อยากหาตัวช่วยน่ะค่ะ
><
Discussion (16)
ยาลดน้ำหนักของคลีนิคสำหรับลดน้ำหนักแห่งนึงที่เคยไปหา เข้าไปเค้าก็ให้ไปชั่งน้ำหนัก แล้วจากนั้นเข้าห้องไปหาหมอ หมอก็ถามว่าอยากลดน้ำหนักเท่าไรและจัดยามาให้หลายชุด โดยที่ไม่มีตรวจเพิ่มเติมค่ะ เราแอบงงๆ
แต่ก็เอายามากิน แต่กินไปไม่ถึงสัปดาห์ก็โยนทิ้งทั้งหมดค่ะ เพราะเวียนหัว คลื่นไส้ จนเรียนไม่รู้เรื่อง ไปหาหมอที่ รพ แถวบ้านเพราะวันนั้นวิงเวียนคลื่นไส้จนทนไม่ไหว พอเล่าอาการคร่าวๆให้คุณหมอฟัง หมอก็ถามทันทีว่ากินยาลดความอ้วนอยู่บ้างหรือเปล่า พอบอกว่ากินหมอก็บอกเลยค่ะว่ามันอาจจะเป้นผลข้างเคียงของยานั้นๆ เราเลยโยนทิ้งหมดเลยค่ะ ไม่กินอีกเลยยา =_=;;; เข็ด
เคยลดน้ำหนักได้ 11 กิโลถ้วนค่ะ ด้วยการออกกำลังและคุมน้ำหนัก พอออกกำลังลดลงน้ำหนักก็มีขึ้นมาบ้าง ประมาณ 4 กิโล ตอนนี้กำลังพยายามปรับปรุงการกิน และการพักผ่อน กับการออกกำลังกายตามสูตร กล้วยมื้อเช้า อยู่ค่ะ
ไม่ค่อยอยากแนะนำให้กินยาจริงๆ ถ้าจะกิน ไม่ควรซื้อมาทานเองค่ะ ควรจะไปโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้ เราทราบมาว่า มันมีหลาย รพ.ที่มีคลินิคเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักเกินโดยเฉพาะ เพื่อนเราเคยไปหาและก็ได้ทราบว่าหมอจะตรวจร่างกายละเอียด และก็จัดยาให้ตามสมควร และต้องไปหาหมอสม่ำเสมอนะคะ หายากินเองไม่ชัวร์สุดๆล่ะค่ะ สำหรับเรานะ
แต่ก็เอายามากิน แต่กินไปไม่ถึงสัปดาห์ก็โยนทิ้งทั้งหมดค่ะ เพราะเวียนหัว คลื่นไส้ จนเรียนไม่รู้เรื่อง ไปหาหมอที่ รพ แถวบ้านเพราะวันนั้นวิงเวียนคลื่นไส้จนทนไม่ไหว พอเล่าอาการคร่าวๆให้คุณหมอฟัง หมอก็ถามทันทีว่ากินยาลดความอ้วนอยู่บ้างหรือเปล่า พอบอกว่ากินหมอก็บอกเลยค่ะว่ามันอาจจะเป้นผลข้างเคียงของยานั้นๆ เราเลยโยนทิ้งหมดเลยค่ะ ไม่กินอีกเลยยา =_=;;; เข็ด
เคยลดน้ำหนักได้ 11 กิโลถ้วนค่ะ ด้วยการออกกำลังและคุมน้ำหนัก พอออกกำลังลดลงน้ำหนักก็มีขึ้นมาบ้าง ประมาณ 4 กิโล ตอนนี้กำลังพยายามปรับปรุงการกิน และการพักผ่อน กับการออกกำลังกายตามสูตร กล้วยมื้อเช้า อยู่ค่ะ
ไม่ค่อยอยากแนะนำให้กินยาจริงๆ ถ้าจะกิน ไม่ควรซื้อมาทานเองค่ะ ควรจะไปโรงพยาบาลที่ไว้ใจได้ เราทราบมาว่า มันมีหลาย รพ.ที่มีคลินิคเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักเกินโดยเฉพาะ เพื่อนเราเคยไปหาและก็ได้ทราบว่าหมอจะตรวจร่างกายละเอียด และก็จัดยาให้ตามสมควร และต้องไปหาหมอสม่ำเสมอนะคะ หายากินเองไม่ชัวร์สุดๆล่ะค่ะ สำหรับเรานะ
เรากิน reduce อยู่ ก็โอเคนะ เรื่อยๆ
การลดน้ำหนักที่ได้ผล ไม่ต้องไปหาที่ไหน อยู่ที่ใจเท่านั้นค่ะ
อย่างที่ จขกท. บอกว่าลดยังไงก็ไม่ลงนั้น เพราะคุณใจร้อนค่ะ
1. อย่าอด...เพราะการอดคุณจะอยู่ได้ไม่ 5 วัน แล้วคุณจะตะบะแตก
แล้วกลับมากินเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม อันตรายค่ะเท่ากับการกิน
ยาลดความอ้วนเลยแหล่ะ น้ำหนักจะดีดกลับอย่างรวดเร็ว มันเป็นกลไกของร่างกายค่ะ
2. ปรับการกินให้ได้ ค่อยๆปรับ อย่างเคยกินข้าวต่อมื้อ ตักข้าวพูนจาน ก็ให้ลดลงแค่เต็มจาน
ไม่ต้องพูน เมื่อปรับได้สักพักเริ่มรู้สึกกินแค่นี้ก็อิ่ม ก็ให้ลดลงอีกเหลือครึ่งจาน แรกๆอาจจะ
อยากกินต่อ แต่ต้องห้ามใจ แล้วสักพักเราก็จะเริ่มรู้สึกว่าแค่นี้เราก็อิ่ม ค่อยทำใจลดไปเรื่อยๆ
3. ของที่ต้องพยามหลีกเลี่ยง แป้ง ของหวาน ไขมัน ของทอด ถ้าลดได้ในช่วงแรกจะ
ดีมากๆ แล้วถ้าต่อไป อยากกินมากๆ ก็อาจให้รางวัลกับตัวเองได้บ้าง นานๆๆครั้ง
แต่ต้องจำกัดปริมาณบ้างนะ กินได้แค่พอหายอยาก
4. ออกกำลังกาย แต่อย่าหักโหม คือออกกำลังให้คลายเครียด เพิ่มความกระฉับกระเฉง
เพราะว่าช่วงที่ไดเอท กินอาหารปริมาณน้อย แล้วถ้าโหมออกกำลังกายคุณแย่แน่
อาจไม่ต้องเข้าฟิตเนสหรอกค่ะ ยกแข้งยกยา ซิทอัพ อยู่กับบ้านก็ได้ วันหยุดเสาร์อืาทิตย์
อาจจะวิ่ง หรือตีแบตกับเพื่อนๆ บ้างก็ได้ การลดน้ำหนักจะได้ไม่เครียด
5. พยายามรักษานิสัยการกินอยู่ให้ได้อย่างที่ทำ เพราะถ้าคุณลดน้ำหนักลงแล้ว
แล้วก็เผลอไปกินแบบไม่ยั้ง เพราะคิดว่าผอมแล้วนี่เดี๋ยวกินไปก่อน แล้วค่อยใช้วิธีเดิม
ก็ลดลงเอง วิธีการแบบนี้มันจะยากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกลับมาทำซ้ำ แล้วมันอาจจะยากกว่า
ตอนทำครั้งก่อนกว่าหลายเท่าค่ะ
อย่างที่ จขกท. บอกว่าลดยังไงก็ไม่ลงนั้น เพราะคุณใจร้อนค่ะ
1. อย่าอด...เพราะการอดคุณจะอยู่ได้ไม่ 5 วัน แล้วคุณจะตะบะแตก
แล้วกลับมากินเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิม อันตรายค่ะเท่ากับการกิน
ยาลดความอ้วนเลยแหล่ะ น้ำหนักจะดีดกลับอย่างรวดเร็ว มันเป็นกลไกของร่างกายค่ะ
2. ปรับการกินให้ได้ ค่อยๆปรับ อย่างเคยกินข้าวต่อมื้อ ตักข้าวพูนจาน ก็ให้ลดลงแค่เต็มจาน
ไม่ต้องพูน เมื่อปรับได้สักพักเริ่มรู้สึกกินแค่นี้ก็อิ่ม ก็ให้ลดลงอีกเหลือครึ่งจาน แรกๆอาจจะ
อยากกินต่อ แต่ต้องห้ามใจ แล้วสักพักเราก็จะเริ่มรู้สึกว่าแค่นี้เราก็อิ่ม ค่อยทำใจลดไปเรื่อยๆ
3. ของที่ต้องพยามหลีกเลี่ยง แป้ง ของหวาน ไขมัน ของทอด ถ้าลดได้ในช่วงแรกจะ
ดีมากๆ แล้วถ้าต่อไป อยากกินมากๆ ก็อาจให้รางวัลกับตัวเองได้บ้าง นานๆๆครั้ง
แต่ต้องจำกัดปริมาณบ้างนะ กินได้แค่พอหายอยาก
4. ออกกำลังกาย แต่อย่าหักโหม คือออกกำลังให้คลายเครียด เพิ่มความกระฉับกระเฉง
เพราะว่าช่วงที่ไดเอท กินอาหารปริมาณน้อย แล้วถ้าโหมออกกำลังกายคุณแย่แน่
อาจไม่ต้องเข้าฟิตเนสหรอกค่ะ ยกแข้งยกยา ซิทอัพ อยู่กับบ้านก็ได้ วันหยุดเสาร์อืาทิตย์
อาจจะวิ่ง หรือตีแบตกับเพื่อนๆ บ้างก็ได้ การลดน้ำหนักจะได้ไม่เครียด
5. พยายามรักษานิสัยการกินอยู่ให้ได้อย่างที่ทำ เพราะถ้าคุณลดน้ำหนักลงแล้ว
แล้วก็เผลอไปกินแบบไม่ยั้ง เพราะคิดว่าผอมแล้วนี่เดี๋ยวกินไปก่อน แล้วค่อยใช้วิธีเดิม
ก็ลดลงเอง วิธีการแบบนี้มันจะยากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกลับมาทำซ้ำ แล้วมันอาจจะยากกว่า
ตอนทำครั้งก่อนกว่าหลายเท่าค่ะ
เคยแต่กินแล้วโยโย่อ่ะคะ
ใจสั่นด้วย
จะงับหัวคนใกล้ตัวด้วย
ตอนนี้ออกกำลังกายแล้วก็ควบคุมอาหารเอา
ลดช้าหน่อยแต่ไม่โยโย่แน่นอน
เพราะตอนเป็นวันนั้นของเดือนนี่เรากินแบบไม่หยุดเลยอ่ะ
ก็กลัวจะขึ้นคืนแต่ว่าไม่เลยค่ะ
ใจสั่นด้วย
จะงับหัวคนใกล้ตัวด้วย
ตอนนี้ออกกำลังกายแล้วก็ควบคุมอาหารเอา
ลดช้าหน่อยแต่ไม่โยโย่แน่นอน
เพราะตอนเป็นวันนั้นของเดือนนี่เรากินแบบไม่หยุดเลยอ่ะ
ก็กลัวจะขึ้นคืนแต่ว่าไม่เลยค่ะ
เลยหันมาพึ่งตัวเองค่ะ ปกติจะเป็นคนติดข้าวมากๆ ถ้าไม่มีข้าวให้กินกับเฉยๆนี่ไม่ได้เลย ตอนนี้งดพวกคาร์โบไฮเดรตค่ะ ไม่กินแป้ง,ข้าว,ขนมปัง งดหมด แต่มื้อเช้าอาจทานบ้างบางวัน
เน้นมื้อเช้า ทานพวกซีเรียล ไส้กรอก หรือบางวันอาจทานข้าวต้มแต่ก็เอาข้าวน้อยๆค่ะ กินน้ำข้าวแทน
มื้อกลางวัน ถ้าไม่หิวก็ทานผลไม้ ข้าวโพดก็อิ่มดีค่ะ กล้วยปิ้ง (อันนี้ชอบมาก) ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มนะคะ ถ้าหิวก็ วุ้นเส้นต้มยำค่ะ เมนูเด็ดเลย
มื้อเย็น ผลไม้อีกตามเคย ถ้าไม่หิวก็ทานน้ำผลไม้ หรือบางวันก็ทานกับข้าวแต่ไม่ทานข้าวนะคะ
ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 4-5 วันค่ะ เราไม่ชอบออกกำลังกายเลยใช้วิธีเต้นค่ะ ซื้อแผ่นเกมส์เต้นมาเต้นค่ะ สนุก เพลินดี ไม่ก็เปิดเพลงดังๆแล้วก็เต้นเหมือนเวลาไปเที่ยวอ่ะ มันดี 5555