:: Review :: สีสันเล็กๆ ของคนแต่งหน้าไม่ค่อยเป็นค่ะ

สายัณสวัสดิ์ค่ะเพื่อนๆ วันนี้ยังหนาวอยู่รึป่าวเอ่ย

หลังจากรวบรวมภาพเสร็จก็ได้เวลารีวิวกันแล้วค่ะ

วันนี้รีวิวเครื่องสำอางเป็นครั้งแรก ถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือไม่ดีตรงไหนอย่างไร บอกได้นะคะ

Lilac จะเก็บไปแก้ไขในครั้งหน้าค่ะ

1. Laura Mercier: Pink Mosaic Shimmer Bloc อันนี้จะให้ลุคหน้าเงาๆ ดิวอี้ค่ะ

ซื้อมาเพราะอยากทำให้หน้าดูมีมิติขึ้น แต่เพราะผิว Lilac ไม่ได้เรียบเนียน เลยกลายเป็นว่า

มาเน้นให้รูขุมขนดูกว้างเป็นมลพิษทางสายตามาก

อ้อ เคยเอามาแต่งตา ก็สวยใช้ได้เลยนะคะ สำหรับสาวๆ ที่ไม่มีปัญหาผิวน่าจะถูกใจค่ะ

อันนี้ก็กำลังจะโอนไปให้น้องสาว เพราะเค้าหน้าเด้ง ปัดอันนี้สวยค่ะ



2. Shu Uemura: M Pink 31 เป็นชมพูนม แนวตุ๊กตา น่ารักดีค่ะ สำหรับวันสบายๆ ไม่มีชิมเมอร์ ชอบค่ะ

ปัดง่าย ไม่ต้องกลัวจะแก้มแดงเกิน แล้วสีก็ดูเป็นธรรมชาติบนผิว คือดูใสๆ เนียนไปกับผิวหน้า


3. Shu Uemura: P Red 14 สีที่ตลับน่ากลัวเล็กน้อย เวลาปัดจริงก็ต้องเบามือนิดนึง

สีที่ได้ใสมากค่ะ แก้มแดงสุขภาพดี เหมือนทาทินท์ สีนี้สีโปรดค่ะ


4. Giorgio Armani: Sheer Blush 2 เพราะเป็นแฟน รองพื้น Armani ค่ะ และได้ข่าวว่า

สาวๆ หลายคนก็ปลื้ม Blush on เช่นกัน Lilac ไปเลือกๆ ดูแล้ว

สีที่จะเหมาะกับผิวก็เห็นจะมีแค่สีนี้สีเดียว ชมพูอีกแล้ว แต่จะออกโอรสนิดๆ และมีชิมเมอร์พอแวววาวค่ะ

สีปัดออกมาแล้วใส หลงรักไปเลย ^^


5. Shu Uemura: P Orange 55 สีส้มมีชิมเมอร์ละเอียดค่ะ ซื้อมาเพราะอยากหัดแต่งหน้าแบบ

สโมกกี้แก้มนู๊ดกับเค้าบ้าง แต่ Lilac ปัดสีนี้แล้วไม่สวยเลย

ก็ต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้น้องสาวอีกคนที่เค้าผิวค่อนข้างคล้ำ หวังว่าเค้าจะชอบนะคะ


สรุป สีที่ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อได้แก่ เบอร์ 2,3 และ 4 ค่ะ

ต่อกันที่ Eye shadow นะคะ

อย่างที่บอกว่า แต่งไม่ค่อยเป็น

ถ้าเป็นสีแนวแฟชั่นที่ต้องใช้ฝีมือล่ะก็ บอกลาไปเลย

มีแต่สีเบสิคทั้งนั้น แอบเขิน

1. Shu Uemura: ME Purple 700 and ME Black 990 สีชัดมากค่ะ ทั้งสองสี คุณภาพดีตามมาตรฐาน

Shu Uemura ค่ะ Lilac มักจะใช้สองสีนี้คู่กัน เพราะรู้สึกว่าม่วงกับดำมาอยู่ด้วยกันแล้ว

ให้ความรู้สึกลึกลับนิดๆ ดีค่ะ


2. Clinique Colour Surge eye shadow duo: 304 Pink Tweed สีชมพูน่ารักหวานใส

สาวๆ น้อยคนจะไม่หลงรักสีนี้นะคะ เนื้อสีเนียนละเอียด สีชมพูอ่อนด้านซ้ายให้สีชัดกว่าที่คาดค่ะ

ชมพูด้านขวาจะมีประกายวิบวับสวยงาม สีนี้ทาง่าย มือใหม่ควรมีไว้นะคะ

3. Coffret D'Or 05 ถ้าชอบแบบวิ้งๆ ไม่ควรพลาดค่ะ วิ้งสวย แต่ไม่เวอร์นะคะ

สีก็เป็นแบบแต่งได้ทุกวัน บางทีก็เอาไปแต่งผสมกับสีอื่นๆ แล้วแต่เวลาจะอำนวยต่อความคิดสร้างสรรค์ค่ะ

ไม่ผิดหวังที่ซื้อมาเลย

สรุป พอใจมากทั้งหมดเลยค่ะ

Eye Shadow กันอีกนิดนะคะ

1. T'estimo N-5 อันนี้แม่ให้มาค่ะ จริงๆ เพราะไปอ้อนอยู่นาน แม่ดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่

เป็นสีทองที่ Lilac คิดว่าสวยมากเลย สีอื่นๆ ก็ชัดมาก วิ้งสวยเกินห้ามใจ หุหุ



2. Christian Dior 609 Earth Reflection คิดว่าสีค่อนข้างเรียบไปนิด

อาจจะจำเป็นต้องลงเบสก่อนเพื่อให้สีชัดกว่านี้

มีวิ้งแบบสุภาพ ซึ่งอาจจะไม่สะใจสาวเปรี้ยวค่ะ สีนี้ Lilac ใช้น้อยที่สุด เพราะขี้เกียจทาเบส

เก็บไว้แบบนี้ สวยดีโน๊ะ


สรุป ชอบอันที่แม่ให้มากกว่าค่ะ

สุดท้าย ลงลิปกลอสกันนิดนึงค่ะ

มีแค่นี้ ฮ่าๆๆ น้อยจังเนอะ แถมจริงๆ ใช้แค่สองอันด้วย ไปดูกันค่ะว่าสองอันไหน

1, 2 Dior Addict 457 and Lip Polish 001 ตามลำดับค่ะ หลังจากลองมาหลายยี่ห้อก็มาตกลง

ปลงใจกับ Dior ค่ะ เพราะความเหนียวอยู่ในระดับที่รับได้ สีสวย เม็ดสีแน่น ทาได้โดยไม่ต้องทาลิปสติกค่ะ

เพราะ Lilac ทาลิปสติกอะไรก็ไม่สวย ลองมาหลายยี่ห้อจนถอดใจ 

ตอนนี้ก็เลยทาแค่ลิปกลอสอย่างเดียว สองแท่งนี้ละค่ะ ที่ใช้เป็นประจำ


3. Lancome Juicy Tubes: Melon 22 กลิ่นหอมฟรุ๊ตตี้ดีค่ะ เรื่องความแวววาวชนะเลิศ

สาวๆ หลายคนจัดกลอสตัวนี้ไว้เป็นอันดับต้นๆ ของกลอสอันโปรด แต่ส่วนตัว Lilac ว่ามันเหนียวไปนิด

ก็เลยนานๆ ใช้ทีค่ะ สำหรับวันที่ลมไม่แรง อิอิ


สรุป Dior เป็นที่หนึ่งในใจ Lilac เสมอ

จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตาม ยินดีตอบทุกคำถามเหมือนเดิมค่ะ


ป.ล. รีวิวจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ผลที่ได้อาจแตกต่างตามรายบุคคลค่ะ