ใครเคยไปรักษาสิวสถาบบันโรคผิวหนังบ้างค่ะ

ไปที่โรงพยาบาลอโศก จ๊ะ เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางผิวหนัง นะจ๊ะ

โรงพยาบาลนี้แบ่งการดูแลรักษาพยาบาลออกเป็นหน่วยๆ ดังนี้
ชั้น 2 เป็นหน่วยโรคผิวหนังทั่วไป, หน่วยโรคผิวหนังเด็ก, หน่วยโรคภูมิแพ้, หน่วยเส้นผมและหนังศีรษะ
ชั้น 3 เป็นหน่วยฉายแสงอาทิตย์เทียม (Photottherapy), หน่วยรักษาสิว, หน่วยรักษาริ้วรอยและรอยแผลเป็น, หน่วยรักษาความผิดปกติของเม็ดสี
ชั้น 4 เป็นหน่วยเลเซอร์ผิวหนัง, หน่วยรักษาเส้นเลือดขอด, หน่วยฉีด Botox และสารเติมเต็มผิว, ศูนย์ Thermage
ชั้น 5 แผนกผู้ป่วยใน และชั้น 6 แผนกศัลยกรรมความงามและรังสี เอ็กซ์เรย์

ท่านสามารถไปใช้บริการได้ ในความคิดของผมโรงพยาบาลแห่งนี้น่าจะช่วยเหลือโรคผิวหนังยากๆและต้องนอนโรงพยาบาลได้ดี คงจะช่วยแบ่งเบาภาระของสถาบันโรคผิวหนังได้มากทีเดียว

โรคผิวหนังที่ต้องนอนรับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างจริงจังคือ
1. หน่วยรักษาโรคผิวหนังพุพอง (Blistering Diseases) รวมถึงโรคแพ้ยาที่ทำให้หนังหลุดออกเป็นแผ่นๆ ( Steven Johnson or TEN) และแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกหรือโดนไฟคลอก
2. หน่วยรักษาโรคภูมิแพ้ที่มีอันตรายถึงตาย เช่น โรค SLE, Scleroderma, Dermatomyositis.
3. หน่วยรักษามะเร็งผิวหนังทั้ง Melanoma and Non Melanoma ที่สามารถรักษาชาวต่างชาติได้มากมายและจะเป็นหน้าเป็นตาต่อชาวโลก
4. หน่วยรักษาโรคติดเชื้อทางผิวหนังเพื่อรองรับและเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ติดเชื้อในร่างกายพร้อมกับการแสดงออกทางผิวหนัง
5. หน่วยรักษาและป้องกันโรคทางพันธุกรรม ที่แสดงออกทางผิวหนังและร่างกายส่วนอื่นๆที่อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่นโรคผิวหนังที่คุณ เอ็ดดี้ (ซึ่งเพิ่งจะเสียชีวิตไป) เป็นต้น
6. หน่วยรักษาโรคแพ้ยาและสารพิษที่เกิดกับผิวหนัง ที่ต้องให้การวินิจฉัยอย่างเร่งด่วนเพื่อ ระงับความรุนแรงที่จะเกิดจากการแพ้ยาหรือสารพิษ

หน่วยรักษาโรคผิวหนังที่ต้องอาศัยการนอนโรงพยาบาล 6 กลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น จะสามารถทำงานได้ต้องมีแพทย์สาขาอื่นช่วยด้วย เช่น กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 4 คือเรื่องตุ่มพุพองและการติดเชื้อต้องมี ศัลยแพทย์ แพทย์เชี่ยวชาญทางด้านติดเชื้อและห้องปลอดเชื้อช่วยเป็นกำลังสำคัญ ส่วนเรื่อง ในกลุ่มที่2 ก็ต้องอาศัยอายุรแพทย์ทางโรคเลือดโรคไต โรคข้อ ทางประสาทวิทยามาช่วยอย่างเต็มกำลัง ส่วนกลุ่มที่ 3 นั้นต้องมีพยาธิแพทย์และแพทย์เชี่ยวชาญทางมะเร็งมาช่วยด้วย ส่วนกลุ่มที่ 5 ต้องมีแพทย์เก่งทางด้านพันธุกรรมมาช่วยเป็น ฐานสำคัญ และกลุ่มที่ 6 นั้นต้องมีหน่วยพิษวิทยา และการแพ้ยาเป็นเสาหลัก
หากท่านมีปัญหาผิวหนังเหล่านี้น่าจะได้รับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเฉพาะทางนี้ ส่วนการให้บริการเกี่ยวกับเรื่องความงาม สิวฝ้า และผมร่วงก็คาดว่าก็คงให้การบริการเหมือนๆกับ คลินิกชั้นนำทั่วไป ระหว่างที่รอญาติๆเข้ารับการรักษาโรคที่ยากๆใน 6 กลุ่มนั้น ทางโรงพยาบาลมี Vbeam, Smoothbeam GentleYag, Thermage เหมือนกัน แต่ที่ทราบยังไม่มี Fraxel
 

ก็ดีนะค่ะ ไปมาแล้วก็หายเสียไป  742  บาทแต่รอนานหน่อย
รักษาหายดีค่ะ