ขอระบาย BA MAC ยัดเยียดของให้

กระทู้นี้จะขอระบายหน่อยนะค่ะ

มาเริ่มกันที่เมื่อวานตั้งใจว่าจะไปหาซื้อลอนม้วนผมซะหน่อยแต่ดันเดินผ่าน เคาเตอร์ MAC เข้าและด้วยความที่แอบสนใจอยู่เลยขอแวะเข้าไปหน่อย เดินรอบแรกผ่านไปไม่มีอะไร รอบสองชักสนใจแป้งอัดแข็ง เลยถาม BA และจากที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์เรื่องเครื่องสำอาง ทำให้ต้องเสียตังค์แบบงง เสียค่าโง่ให้กับความไม่รอบคอบในการซื้อเครื่องสำอางแล้วยังอารมณ์เสียกะ BA อีกด้วยความที่เราค่อนข้างจะงกคะซื้ออะไรซักอย่างต้องคิดแล้วคิดอีก เครื่องสำอางเนี่ยต้องหมดจริงๆนะค่ะไม่งั้นไม่ซื้อเด็ดขาด คือเสัยดายเงินคะมันสิ้นเปลือง ตอนปีใหม่หลานแฟนเยอะค่ะเลยแจกงฃเงินขวัญถุงให้หลานไปเยอะคิดว่าไม่อยากเสียตังค์อีก อาจจะยาวไปซักนิดแต่ก็อยากระบายคะ มาดูการสนธนาระหว่าง เรากะ BA

เรา : ตัวนี้ใช้ดีไหม(แอบสนใจแต่ไม่รู้ว่าตัวไหนดี)
BA : ดีคะ(BA ผู้ชาย ออกไปทางตุ้งติ้ง)
เรา : งั้นอาตัวนี้ละกัน
BA : พี่ว่าน้องใช้ตัวนี้ดีกว่า MAC LIGHTFUL ULTRACHARGE FOUNDATION RECHARGF FOND DE TEINT
        SPF 25/PA+++
เรา : ทำไมละมันดีกว่ายังไง
BA : ตัวนี้มันคุมมันและผิวหน้าของน้องมีสภาพผิวค่อนข้างมัน
เรา : เหราอคะ
BA : พี่ขอแนะนำเลย
เรา : งั้นลองแต่งหน้าให้ดูหน่อยได้ไหมคะ
BA : ยืนคิดอยู่นานมาก แล้วก็ตอบว่า ตกลงคะเดี๋ยวพี่แต่งหน้าให้ ตอนแต่งก็แนะนำโน้นนี่ไรงี้ตลอด แต่งเสร็จเรียบร้อย
เรา : พี่หนูเอาแป้งตัวนี้คะ
BA : ได้ค่ะ ไม่ดูอย่างอื่นไปด้วยหรือค่ะ
เรา : งั้นขอดูก่อนนะค่ะ
BA : ค่ะ ระหว่างนั้นก็คอยเดินตามและแนะนำอะไรต่อมีอะไรเยอะแยะ
เรา : งั้นเอา LINER GEL อีกหนึ่งคะ พี่คะหนูไม่ชอบตลับแป้งเลยสีไม่สวยแล้วเดี๋ยวมันก็ลอกออก ตลับเป็นสีเงินแวววาวแต่
         เครือบไม่ดี(ไม่รู้ใช้คำถูกหรือปล่าว) เราก็ดูราคา อื้มไม่แพงเท่าไหร่
BA : ได้ค่ะเดี๋ยวเปลี่ยนให้ อยากได้อะไรขอให้บอก
เรา : แค่นี้ละคิดเงินเลย
BA : 3930 คะ
เรา : อะไรนะ ทำไมตั้ง 3930
BA : นี่คะมี 4 อย่าง แป้งแบบรีฟิว มีตลับแป้งทาหน้าสีดำ มีไลเนอร์ มีแปงเขียไลเนอร์
เรา : พี่หนูไม่ได้ซื้อแปลงนะและตลับนี่อีกละ ไม่ได้ซื้อซะหน่อย แล้วทำไมรีฟิวแพงจังตั้ง1750 แนะ เมื่อก้ไม่เห็นจะบอกว่า
        รีฟิวแพงขนาดนี้เลย (ราคาขนาดนี้คนอื่นอาจจะคิดว่าไม่แพง แต่สำหรับเราเราว่าแพมาก)

เพราะตอนเราพลิกดูใต้ตลับทดลองมันเขียนว่า 430 บาท เราเลยเข้าใจว่า 430 ทั้งแป้งและตลับ อื้มราคาถุกดีนะ ถ้ารู้ว่าแพงคงไม่ซื้อหรอกเพราะปกติใช้ของ ARTY อยู๋ ยังไม่แพงขนาดนี้ ราคา 1750 เท่ากับซื้อรีฟิวของ ARTY ได้ตั้ง 4 อัน

BA : ก็น้องบอกพี่ว่าไม่ชอบตลับนิคะ
เรา : ก็ใช่ค่ะแต่ไม่ได้บอกว่าจะซื้อแยกแบบนี้
BA : แล้วน้องจะให้พี่ทำยังไงพี่คิดเงินแล้วนะ
เรา : หนูไม่ได้สั่งนี่นา
BA : พี่คิดเงินแล้วคงให้น้องยกเลิกบิลไม่ได้หรอก
เรา : อ่าวก็ไม่ได้สั่งนิจะให้จ่ายได้ไง
BA : คิดเงินแล้วคะออกบิลใหม่มันยุ่งยาก
เรา : แล้วจะให้หนูซื้อเหรอก็หนูมีแปลงเขียนไลเนอร์แล้ว
BA : ของน้องมียี่ห้อไหนดีแบบของเราหรือปล่าวละ นี่ของดีนะ
เรา : แล้วแปลงทั้งชุดราคาเท่าไหร่
BA : 3000
เรา : แล้วแปลงไลเนอร์อันนี้ละ
BA : 1000
เรา : ซื้อเดี๋ยว 1000 ซื้อแปลงเป็นชุด 3000 หนูซื้อยกชุดไม่คุ้มกว่าเหรอ
BA : ใช่คะคุ้มกว่าแต่ตอนนี้น้องคะพี่คิดเงินไปแล้วคะพี่คงออกบิลใหม่ให้ไม่ได้
เรา : เราก็งียบไปพักนึงเอาไงดีไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ถ้าราคาขนาดนี้เราไปที่ ARTY ดีกว่าแถมยังได้บัตรเมมเบอร์อีกตั้งหาก
BA : ว่าไงคะ
เรา : งั้นเอาแปลงออก
BA : ไม่ได้คะ ยังไงก็ไม่ได้น้องต้องรับผิดชอบทั้งหมด
เรา : ได้ไงไม่ได้บอกให้พี่หยิบมานะ
BA : ทำไมไม่บอกตั้งแต่ตอนคิดเงินละ
เรา : ก็ไม่เห็นว่าพี่หยิบมาตอนไหนถ้าเห็นก็คงบอกแล้วละ

ตอนนั้นแฟนเดินมาหาถามว่า เสร็จหรือยัง เราก็เลยคุยกะแฟนแฟนก็ตกใจเพราะไม่ได้กะจะมาซื้อซะขนาดนั้น และที่สำคัญตกใจราคาแป้งค่ะบอกตรงๆว่าไม่เคยเจอราคาขนาดนี้นอกจากยี่ห้อที่ดังๆก่อนหน้านี้ แฟนก็บอกซื้อไปเถอะ ช่างมันถือซะว่าเป็นบทเรียน เพราะเราเป็นคนที่นานๆถึงจะซื้อครื่องสำอางทีนึงเลยไม่ค่อยจะรู้เรื่องเครื่องสำอางที่เป็นแบร์นที่ไม่เคยซื้อ

เรา : ยื้นเงินให้ BA และรับตังค์ทอนกลับมา ถาม BA ว่าไม่มีตัวทดลองของสินค้าตัวอื้นให้เลยเหรอ (ที่ถามเพราะเคยได้จาก ARTY
        เยอะมากเลยถ้าซื้อขนาดนี้)
BA : ไม่มีหรอกคะขนาดซื้อเยอะกว่าน้องพี่ยังไม่ให้เลย แหมดีนะที่พี่ไม่แนะนำให้น้องเยอะกว่านี้
เรา : ทำไมละ
BA : ก็น้องคงไม่มีปัญญาจ่าย
เรา : (ปรีดเลยคะ)  ไม่ใช่ไม่มีหรอกคะแค่เวลาซื้อต้องคิดก่อนว่าคุ้มหรือปล่าวเพราะหนูคนซื้อส่วนพี่คนขายก็คงคิดแต่ขาย
        อย่างเดี๋ยวเลยไม่สนใจว่าเค้าต้องการสิ่งที่พี่ยัดเยียดให้หรือปล่าว
BA : เงียบคะ

BA : หลังจากนั้น BA ก็จับกลุ่มคุยกัน แต่พอเดินออกมาจากร้านยังไม่ทันจะออกนอกร้านเลยเราก็ได้ยินเสียง ด่าลับหลังว่า
        ไม่มีปัญญาจะซื้อแล้วเข้ามาทำไม ทำไมไม่ไปซื้อของปลอมหรือของกระจอกข้างทางละ

เรา : (ปี้ดแตกคะเดินกลับไปในร้านแล้วพูดว่า) ถ้ามี BA นิสัยอย่างคุณอยู่ฉันคงไม่มาซื้อแล้วละมีที่ไหนด่าลูกค้าลับหลัง
          ถามหน่อย  คุณจะบริการลูกค้าที่มาซื้อครั้งละเยอะๆอย่างเดียวหรือไงซื้อน้อยอย่างฉันไม่ใช่ลูกค้าเหรอ
         เงินที่ฉันซื้อถึงแม้มันจะน้อยแต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของค่าคอมของคุณนะ ฉันจะซื้อเท่าไหร่ ยังไงก็เรื่องของฉัน งินฉัน
         คุณมีหน้าที่บริการก็ทำไปไม่ใช่มานินทาลูกค้าอย่างนี้น่าจะไปเข้าครอสอบรมมารยาทในการบริการใหม่นะเนี่ย

เรามีนิสัยเสียอยู่อย่างนึงถ้าไม่ชอบหรือไม่พอใจอะไร ที่มันไม่ถูกก็จะพูดออกมาเลยและไม่ค่อยสนว่าจะเป็นใคร (ยกเว้นผู้ใหญ่ที่เคารพรักเท่านั้น)

BA : ยืนเงียบคะ ขอบอกว่าเงียบกันหมดเลย
เรา : เดินออกมาแบบอารมณ์เสีย เพราะว่าเสียเงินแบบไม่ได้ของที่อยากได้เลยตั้งใจว่าจะมาซื้อตามที่บอกค่ะ

ตั้งใจว่าจะเข้าไปวัสสันซื้ออะไรเล็กน้อย เพราะอยากประหยัด กลับบ้านมาเครียดค่ะเครียดมากเงินมากมายขนาดนั้นเพราะคิดว่าคงจะไม่เกิน 1500 แน่เลย บอกแฟนเค้าขอโทษไม่คิดว่าจะจ่ายเงินเยอะขนาดนี้ไม่นึกว่าแพงเพราะ ARTY ยังไม่ขนาดนี้ลย แฟนก็บอกว่าซื้อมาก็ใช้ซะช่างมันจะได้เป็นบทเรียนไงว่าต้องดูให้ดีก่อนที่เค้าจะคิดเงิน ยอมรับค่ะว่าผิด ผิดมากซะด้วย
 
แถมคะตอนนี้ไม่รู้ทำไงเมื่อวานที่่ BA แต่งหน้าให้มันขึ้นผื่นเห่อแดงทั้งหน้าเลยคะ ขนาดล้างหน้าหลายรอบมากยังแดงขนาดนี้ แล้วไอ้ตลับที่ซื้อมาจะทำยังไง ที่บ้านก็ไม่มีใครใช้เพราะมีแต่คนแก่ทั้งนั้นเลย ไม่รู้จะทำไงดีกลัวแพ้ เพื่อนๆใครมีวิธีดีๆว่าจะจัดการกับไอ้ที่ซื้อมายังไงช่วยแนะนำหน่อยค่ะ 
 

ปล.ขอบคุณคะที่ทนฟังคนที่ไม่รู้เร่องเครื่องสำอางบ่นซะยาวเลย


 

Discussion (48)

ใช่ๆๆๆ เราเคยเจออย่างงี้เเหละ พูดลับหลังให้ได้ยิน
เรากับเพื่อนเลยไป หาผู้จัดการ ของเเผนก beauty เลยค่ะ เข้าไปในห้องเลย

เล่าให้เค้าฟัง ซักพักตอนเราออกไปเเล้ว เค้าก้จะเรียกพนักงานคนนั้นเข้ามาค่ะ
เเละจัดการตามระเบียบ ลูกค้าถูกเสมอค่ะ ต้องกล้าๆค่ะ อย่าไปกลัว

พึ่งจะเข้ามาอ่านจ้า มีเรื่องจะมาบอกจากประสบการณ์ตรงๆเลยนะ ฟังให้ดีนะ
ถ้าไปซื้อเครื่องสำอางแบรนด์ดังๆตามห้าง เช่น เดอะมอล สยามพารากอน ทุกๆสาขาเลยนะ
ถ้าเราบอกตกลงกับBA ว่าจะเอาสินค้านี้และBA คิดราคาสินค้าเรียบร้อยแล้วถึงแม้จะมีBillที่ออกมาจากแคชเชียร์แล้ว เวลาเรารับของมาและถ้าเราตรวจสอบสินค้าแล้ว มีสินค้าที่เราไม่ได้สั่ง เราก็คืนของได้เลย ไม่ต้องไปกลัวค่ะ ถ้าBAยืนกรานว่าออกbillไปแล้ว คืนไม่ได้ เราก็อย่าไปยอมนะคะ ยืนกรานไปเลยว่า จะคืนหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นสินค้าตัวอื่นก็ได้ ถ้าBAไม่ยอมอีก ก็บอกว่า ให้เค้าเรียกผู้จัดการแผนก BEAUTY HALL มาคุยเลยค่ะ ทุกห้างที่พูดไปนี้จะมีผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกดูแลควบคุมพฤติกรรมBAพวกนี้อีกทีนึง หรือไม่ก็เดินออกเคาร์เตอร์ไปเลยค่ะ เด๋วBAก็จะไปจัดการสินค้าพวกนี้เองแหละ ซึ่งมันมีวิธีแก้ไขอยู่ แต่มันอาจจะยุ่งยากซับซ้อนในเรื่องเอกสารน่ะ ทำให้BAเค้าอ้างว่า คืนหรือเปลี่ยนไม่ได้ หรือไม่สินค้าที่ซื้อไปแล้ว แล้วเกิดอาการแพ้ ก็ไปพบแพทย์และขอใบรับรองแพทย์มาที่เคาเตอร์เครื่องสำอางที่เราซื้อไป แล้วบอกเค้าว่าเราแพ้เครื่องสำอางตัวนี้ จะเปลี่ยนหรือคืนสินค้าก็ได้ แล้วทางเคาร์เตอร์แบรนด์นั้น จะทำเรื่องขอเปลี่ยนหรือคืนสินค้าให้เราค่ะ ทุกเคาเตอร์เครื่องสำอางที่อยู่แผนกนี้สามารถเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้หมดค่ะ (และถ้าเรามีbillจ่ายเงินมาด้วยการทำงานก็จะง่ายและเร็วด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่มีbillก็ทำได้เช่นกันค่ะ แต่เราต้องจำวันที่เวลาที่ซื้อให้ได้นะคะ เพราะBAเค้าจะถามจากเรา แล้วเอาไปตรวจสอบว่าเรามาซื้อจากเคาเตอร์นี้จริงๆหรือป่าวง่ะ ถ้าจะเปลี่ยนหรือคืนต้องทำภายใน7วันหลังจากซื้อสินค้า ยกเว้นกรณีที่แพ้เครื่องสำอางเกิน 7 วันได้ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าแพ้เครื่องสำอางตัวนี้ง่ะ) แล้วกรณีของคุณจขกท ที่โดนBAนินทาลับหลัง ต่อว่าลูกค้าจังๆแบบนี้อ่ะ แนะนำว่าให้ คุณจขกท ไปเขียนใบคอมเพน(Complaint)ของห้างเลย ระบุให้ชัดเจนว่าBAคนนนั้นขายอยู่ที่แบรนด์อะไร ชื่ออะไร แต่ถ้าไม่ทราบชื่อจริงๆ ก็ให้อธิบายรูปพรรณสัณฐานให้ชัดเจน เวลาที่ซื้อ ซื้อที่ไหน สาขาไหน บรรยายการแสดงกิริยาต่างๆที่ไม่ดีในการบริการขายสินค้าให้กับเราตอนนั้น แค่นี้แหละค่ะ หลังจากนั้นทางห้างเค้าจะไปเอาใบคอมเพนมาตรวจสอบแล้วส่งกลับมาทางแผนกต่างๆตามที่เราระบุไว้ แล้วทางแผนกเค้าจะไปค้นคว้าหาตัวBAคนนั้นมาลงโทษ โทษหนักค่ะเรื่องแบบนี้ บางทีBAคนนนั้นอาจจะไม่ได้ขายที่ห้างนั้นอีกเลย ซึ่งบทลงโทษนี้BAทุกคนกลัวมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีใครกล้าต่อว่าลูกค้าจังๆแบบนั้นหรอกค่ะ มันอันตราย ถึงขั้นตกงานได้ง่ะ แต่ใบคอมเพนเนี่ยเราลืมไปแล้ว ว่าทางห้างเค้าจัดไว้ให้ตรงไหนอ่ะ ต้องไปถามพนักงานอื่นๆอีกทีน่ะ หรือไม่ก็โทรไปที่ห้างนั้นเลย เราจะเจอกับประชาสัมพันธ์ของห้างก่อนแล้วบอกกับเค้าว่า ขอติดต่อกับผู้จัดการแผนกของแผนกนั้นๆให้ เราก็ร้องเรียนกับผู้จัดการแผนกไปเลย หรือไม่ถ้าโทรไปแล้วไม่เจอใครจริงๆ ก็ร้องเรียนกับเจ้าของห้างเลย รับรองได้ผลแน่ๆ ไม่ต้องไปกลัว ทุกห้าง เค้าจะเห็นความสำคัญของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง เราสามารถสั่งเป็นหรือตายกับBAคนนั้นได้ มันจะต้องกลัวเรา ไม่ใช่เรากลัวมัน จำไว้นะคะ คอนเซ็บของห้างต่างๆ 'ลูกค้าคือพระเจ้า ลูกค้าถูกเสมอ พนักงานทุกคนไม่มีสิทธิ์ไปเถียงลูกค้า'   (เราจะโทรไปหรือเขียนใบคอมเพนย้อนหลังได้ค่ะ เขียนสาขาไหนก็ได้ ที่อยู่ตามห้างเดอะมอล สยามพารากอน ต้องซื้อจากห้างพวกนี้เท่านั้นนะคะ ห้างอื่น ก็ไม่ทราบเหมือนกันอ่ะ ว่าเค้ามีวิธีจัดการกับพนักงานพวกเค้ายังไงอ่ะ แต่รับรองถ้าเป็นที่นี่ ทำตามที่เราบอกได้ผลแน่นอนค่ะ ยืนยันได้ค่ะ เพราะเคยทำงานเป็นพนักงานที่นั่นมาตั้ง 3 ปี นั่งยัน ยืนยัน ได้เลย ^_^) ขออภัยค่ะ อาจจะยาวไปหน่อย แต่เป็นความรู้เพิ่มเติมค่ะ อาจจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นได้บ้างอ่ะ **วิธีเป็นบทลงโทษ ใช้ได้กับพนักงานทุกคนที่ทำงานในห้างสยามพารากอนและเดอะมอลทุกสาขา ที่แสดงกิริยาไม่ดีกับลูกค้าค่ะ

เราเป็นคนนึง ซื้ออะไร ถ้าอยากได้ถามราคาก่อน แล้วถ้าไม่เอาอะไร ก็บอกว่าไม่เอาเลย ไม่สนหรอกว่าเค้าจาว่าไง เพราะว่าสิทธิ์ของเรา เงินอยู่ในกระเป๋าเรา ถ้าแบรนด์ไหนบริการไม่ดี เราจะเดินไปซื้อแบรนด์ข้างๆ ให้เห็นจะๆ เลย เรื่องราคา MAC เราซื้อเมื่อไหร่ไม่เคยได้ของแถมเลยค่ะ แต่เราไม่เจอ BA แบบนี้นะ เพราะว่าเราเข้าไปถ้าพูดไม่ค่อยดีก็เดินออกไปเลย

 

สาขาไหนคะ
อ่านแล้วเดือดแทนคะ
 ไม่รู้เป็นไงไอ้ยี่ห้อ นี้น่ะ  เราก็เคยเจอ  แบบว่าซื้อหลายอย่าง  ซื้อรองพื้น 1 ขวด มาสคาร่าคิ้ว  บรัชออน  อายแชโดว์อีกอัน  อ้อนวอนแทบตายกว่าจะได้ขอแถม  ยังกับไปขอทานมันยังงั้นอ่ะ  แต่เราก็หน้าทนขออ่ะ  ก็อยากได้ไปลองใช้นี่นา  พอคิดตังค์สามพันกว่าบาท  ตอนแรกไม่ได้ดูดีๆ  พอกลับบ้านแทบลมจับ  ในบิลกะในถุงมันมีตัวปั๊มขวดรองพื้นมาเพิ่มราคาตั้งสี่ร้อยบาทแน่ะ!!! เราว่ามันไม่จำเป็นอ่ะ  เพราะว่าเราเทใส่ฝ่ามือเอาก็ได้  ไม่เห็นต้องกดปั๊มๆเลย  ไม่รู้มันมาใส่ให้ตอนไหน  เข็ดเลย วันหลังคงต้องดูดีๆนะคะไอ้พวกนี้เพิ่มยอดขายให้ตัวเองโดยไม่ถามคนอื่น  ก็ได้ขายชั้นแค่ครั้งเดียวนั่นแหละ เมมเบอร์ก็ไม่ได้  ยี่ห้ออื่นน่ะได้ไปนานแล้ว   อยากให้พวกบีเอกระตุ้งกระติ้งที่ทำตัวหยิ่งๆเชิดๆมาอ่านบ้างนะ  รู้ไว้ซะด้วย ว่าเงินที่พวกคุณได้ใช้ทุกวันนี้น่ะส่วนนึงมันก็มาจากพวกชั้นนี่แหละ  ได้โปรดอย่ามองชั้นด้วยหางตา แล้วหันกลับมาเขียนอายลายเนอร์ให้ตัวเองต่อ ไม่สนใจจะมาถามไถ่สักนิด และอย่าดูถูกคนจากการมองเห็นแค่เสื้อผ้า   แค่ชั้นพอใจที่จะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ลากแตะเข้าร้านคุณก็ไม่ได้แปลว่าชั้นจะไม่มีเงินมาซื้อของๆคุณนะ    ชั้นไม่ได้ดูถูกคุณนะ  แต่ที่คุณแต่งตัวสวยๆเดินกรีดกรายได้น่ะก็เพราะตัวอย่างทดลองในร้านนั่นน่ะแหละ  ไม่เหมือนพวกชั้นที่ซื้อ " ของจริง ไซส์จริง " ใช้ !!!!!  แต่ลากแตะมาซื้อ 
     ขอโทษนะคะ ที่เราใส่อารมณ์มากไปหน่อย  แต่เราอ่านแล้วฉุนมั่กๆ  และคิดว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกะเราๆคงไม่หยุดเรื่องไว้แค่นี้แน่ๆ  คงตายกันไปข้างนึงและ BA คนนั้นต้องได้รับบทเรียนและต้องชดใช้กับสิ่งที่ได้ทำกับเราไป  ลองคิดดูนะ....แค่มาสิงอยู่ตามเคาน์เตอร์แพงๆ ไม่ได้แปลว่าจะต้องไฮโซตามแล้วดูถูกคนอื่นเค้าแบบนี้    ถามหน่อยว่าถ้าเค้าเองต้องซื้อยี่ห้อนี้ใช้  เค้าจะซื้อใช้เองได้กี่อัน????     ต้องขอโทษบีเอที่น่ารักด้วยนะคะที่ได้อ่าน  แต่เราเคยเจอมาหลายแบบที่ดีก็มี ที่แย่ก็มี แต่ยังไม่เคยถึงขนาดจขกท.ขนาดนี้   นี่ไม่ไหวจริงๆนะคะ  อยากทราบจริงๆนะคะว่าเคาน์เตอร์ไหน  ช่วยตอบด้วยนะคะ  เพราะว่าเราคนนึงล่ะจะไม่อุดหนุนสาขานั้นอีกต่อไป   ไม่ง้อค่ะ  มีอีกหลายที่ที่อยากให้เราซื้อและบริการดีกว่า  เสียตังค์แล้วยังโดนดูถูก โดนนินทา... มีที่ไหนอีกเนี่ยะ????ที่แย่กว่านี้