ไปเที่ยวหลีเป๊ะกันมั้ยคะ ภาค 1

เรื่องมันเริ่มต้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2552 เพื่อนสาวทักมาใน msn ว่า “แกๆ ไปเที่ยวกัน”
ไอ้เราก็ถาม “ไปดิๆ ไปไหนล่ะ” เพราะคิดว่ามันจะนัดไปกินข้าว ดูหนังกัน -*-
เพื่อนก็ตอบมาว่า “ไปหลีเป๊ะ”

หลีเป๊ะ … ชื่อนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย เพราะมันไกล … ไกลมากค่ะ ไม่ได้อยู่ในแพลนด้วย
จริงๆก็อยากไป ได้ยินชื่อมานาน แต่ตอนนั้นยังไม่อยู่้ในความคิดที่จะต้องไปเร็วๆนี้เท่าไหร่

ไปแบบ 3 วัน 2 คืน แต่เพิ่มอยู่ต่ออีก 1 วัน 1 คืน (แบบไม่ดำน้ำ) เลยกลายเป็น 4 วัน 3 คืนค่ะ

เิริ่มทริปมีอยู่ 7-8 คน ไปๆมาๆก็เหลือ 5 คน

ตัดสินไปรถทัวร์ค่ะ ตอนแรกอยากไปเครื่อง เพราะเซฟเวลา แต่ดูไปดูมา
ไปรถทัวร์จะโอเคกว่าเพราะลงที่ละงูเลย ต่อไปท่าเรือไม่ไกลมาก

ถ้าไปเครื่อง เครื่องจะลงที่หาดใหญ่ ต้องต่อรถตู้ 2 ชม ได้อีก กลัวไม่ทันเรือรอบ 10 โมง
ปีใหม่คนเยอะด้วย เลยเอาชัวร์ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ

ไปๆมาๆอีก รถ 24 ที่นั่งไม่ผ่านละงูอีก เลยต้องมานั่งรถ 2 ชั้น แบบธรรมดา เมื่อยก้นกันไป
แล้วก็กลับเครื่อง ด้วยสายการบิน AirAsia (มาสบายเอาตอนกลับ :))


ทริป 31 ธ.ค.52  – 3 ม.ค. 53




ปล.1 นั่งรถทัวร์เนี่ยเมื่อยมากๆเลยค่ะ
ทรมานมากตอนที่ตื่นมา เห็น ประจวบ … ตื่นมาอีกทีก็ ประจวบ ตื่นอีกรอบก็ประจวบ
มันจะยาวอะไรนักหนาฟะ(คะ) ตอนนั้นคิด ... T^T

ตอน 9 โมงกว่าๆก็ลงที่ละงูค่ะ รอทัวร์ที่ซื้อแพคแกจไว้มารับค่ะ
สรุปนั่งรถตั้งแต่ 6 โมงครึ่งเย็น 30 ธันวา ลง 9 โมงเช้ากว่าๆ 31 ธันวา ค่ะ รวมแล้วประมาณ 15 ชม. T^T

ปล.2 แบ่งเป็นหลายกระทู้หน่อยนะคะ รูปเยอะ อิอิ

ปล.3 Credit : Photo by Oakyman


รถที่นั่งไป 15 ชม. เมื่อยมากกกกกกกกกก แถมพนักงานดุมากๆ
มีคนไปเลท 10 นาที (ไม่น่าถึงนะ) โดนย้ายไปนั่งข้างหลังเฉยเลยง่ะ ><



รอคนที่มารับแป๊บเดียวเองค่า เขาก็พาไปส่งที่ท่าเรือ

ะหว่างทาง เขาพาเราไปทานอาหารเช้ากันนิดหน่อย
หลังจากแวะล้างหน้าล้่างตา
เป็นร้านขายอาหารเล็กๆข้างทาง
แต่คนที่มารับเราบอกว่าร้านนี้ขายดีมาก อาหารก็อร่อยจริงด้วยล่ะ

สั่งโรตีมาตั้งหลายอย่าง ที่ประทับใจไม่รู้ลืมคือ โรตีน้ำแกง จานนี้
เนื้อโรตีเหนียวนุ่ม จุ่มน้ำแกงมันๆหน่อย อร่อยโฮก ทานกะน้ำชาร้อนๆน่ะค่ะ ก่อนที่จะไปท่าเรือปากบารา




ท่าเรือคนอย่างเยอะ พวกเขามารอลงเรือกัน บ้างก็เรือเฟอร์รี่ บ้างก็เรือspeed boat แบบที่เรากำลังรอ

ต้องไปเอาบัตรรอเรือก่อนนะ แล้วเขาจะประกาศเรียก บัตรสีชมพู สีฟ้า สีเขียว ตามด้วยเลขเบอร์

เป็นระเบียบดีค่ะ ไม่มั่วดี

ตอนไปคนเยอะ ทำใจ รอเรือนานมากกกกกกกกกกก จาก 10 โมง นี่รอเป็นชมๆ เลยค่า



เขาบอกว่า นั่งไปหลีเป๊ะ 1ชมครึ่ง ระหว่างทางก็จะแวะตะรุเตา แล้วก็มีแวะกินข้าวค่ะ
นั่งสักแป๊บ (นานเหมือนกัน) ก็ถึงตะรุเตา ที่เขาร่ำลือ

แต่ไม่ได้เดินเที่ยวเล่นเท่าไหร่เลย ให้แวะ 10 นาที เข้าห้องน้ำ เดินกลับท่าเรือก็หมดเวลาแล้ว >_<

จริงๆพี่ไกด์บอกว่า ถ้าคนไม่เยอะ ก็จะแวะให้เที่ยวนานๆเลย
เลยไม่ค่อยมีความทรงจำที่เกาะตะรุเตาสักเท่าไหร่เลย (เศร้านะ อุตสาห์มาถึง)

ตอนลงเรือ มีรอคนที่มาช้าด้วยล่ะ แต่สุดท้ายจนท.เรือก็ไม่รอ เพราะนานเกิ๊น

จะให้คน 40-50 คนมารอ 3 คน คงไม่ไหวล่ะนะ

ตะรุเตา


จากตะรุเต่ก็ไปแวะเกาะไข่ ทรายละเอียด ขาวมากๆ น้ำก็ใสด้วย


ไปแล้วอย่าลืมไปรอดช่องเขากันนะคะ เขาว่าจะทำให้รักนิรันดร์ (จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ไปลอดมาแล้ว 555)

ต่อไปหลีเป๊ะ เห็นเกาะหลีเป๊ะแล้วไกลๆ



ก่อนเข้าเกาะต้องไปต่อเรือที่โป๊ะกลางน้ำก่อน เปลี่ยนจาก Speed Boat เป็น เรือหางยาว

ส่วนนี่คือรีสอร์ตที่เราพักค่ะ บันดาหยารีสอร์ต อยู่บนหาดบันดาหยา (หรือหาดพัทยาที่เขาเรียกๆกัน)



กินข้าวก่อนเข้าห้องพัก เนื่องจากเลทมากๆ ทำให้ไม่ได้แวะกินข้าวบนเกาะตามที่แปลนเอาไว้
ทางทัวร์เขาเลยให้เราทานอาหารของโรงแรมเลย (ข้าวกล่องก็เก็บไป :))


ก่อนจะเข้าพักในห้องพัก


แต่เราไม่ได้นอนห้องนี้หรอกนะคะ

ห้องพักที่เลือกไว้เป็นห้องพัดลม …
ซึ่งมันเหมือนปิดมานานมาก อบ อ้าว ไม่ไหวสุดๆ พัดลมก็ม่ายมีแรงเป่า -_-”

น่าแปลกที่ออกมายืนหน้าบ้าน ลมพัดเย็นมาก สบาย ชิวดี
แต่ในห้องมัน ... ขาดอากาศหายใจมากๆ เอ่อ ><

ทน ไม่ได้ คือ ห้องมันอบมากเลยอ่าาาา >< สุดท้ายย้ายห้องค่ะ อัพเป็นห้องแอร์ (เพิ่มเงินไป)
โชคดีมากที่อัพได้ ไม่งั้นตายแน่ๆ >_< ย้ายห้องหนีเลย

เก็บห้องนี้ไว้เก็บของแทน (จองไว้ 2 ห้อง ก็เลยอัพไปห้องนึงอะค่ะ ... หาได้แค่ห้องเดียวด้วย)

ตามสภาพค่ะ

ผ้าขนหนูมีให้ผืนเดียวค่ะ (แข็งมากเลย) ผ้าห่มก็ผ้าขนหนูผืนใหญ่ๆ (ถ้านอนห้องนี้ไม่ต้องใช้หรอกผ้าห่มน่ะ -*-)

แต่เตียงนิ่ม โอเค สะอาดดีนะคะ

อย่างอื่นก็ตามราคา ... ไม่หรูหราอะไรมาก


บรรยากาศหน้าห้องพัก(แบบพัดลม)

จริงๆแล้วถัดๆๆไปเป็นห้องแอร์หมดเลยอะค่ะ มี 2-3 ห้องท้ายๆที่เป็นพัดลม


ยามเย็น

หลังจากทำธุระปะปังเสร็จ พักเพลินๆ กินข้าวเย็น แล้วไปเดินเล่นกันที่ชายหาด
บรรยากาศดีมากมาย แม้จะเป็นหาดที่มีบาร์เยอะ แต่ก็รู้สึกโอเึคนะ
เพราะในตัวรีสอร์ตมันเงียบ เสียงดนตรีไม่ได้ดังลอดเข้าไปให้รำคาญอะไร

เสียแต่เพลงที่เล่นวันคืนสิ้นปีนี่ ออกจะเรกเก้ โย่วๆ เสียงดัง ไปนิด ไม่ชิวเลย ^^

ใกล้ดึกแย้ว ฟ้าสีส้ม




ไปคืนวันที่ 31 ธ.ค. 52 เลยมีโอกาสได้ Count down บนเกาะด้วย



เขานิยมเล่นโคมลอยกัน ทั้งฝรั่ง ทั้งคนไทย อันนึงก็ 100 upกว่าบาท
ลอยเต็มพื้นฟ้าไปหมด สวยดีค่ะ


ควงกระบองไฟ มีให้เห็นประปราย


ดึกๆตอนจะข้่ามปี ก็มีจุดพลุ ดังเต็มพื้นฟ้าเลย


ที่หลีเป๊ะ ไม่มี Count down ง่ะ (หรือเราไม่ได้ยินหว่า?)
กว่าจะรู้สึกตัว (ละความสนใจจากพลุสวยๆ) ก็ข้ามปีไปแล้ว
ไม่มี 3 … 2 … 1 เหมือนปกติ

หมดไป 1 วัน บนเกาะหลีเป๊ะ
ไว้จะมาอัพต่อค่า

Discussion (41)

รักหลีเป๊ะมากเลยค่ะ  อยากไปอีก

ปล. พักที่เดียวกันเลยค่ะ  ชอบวิวตอนกลางคืนของที่พักด้วย
ถ่ายรูปสวยจัง บรรยากาศน่าไปจัง
ส่งสัยเราจะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางแถมยังพักที่เดียวกันเลยอ่ะ 555 เราอยู่ ห้อง 002 สิ..
อยาก.......................ไป...............................หลี..............................เป๊ะ !!

ไปหลีเป๊ะมาเช่นกันเมื่อทริปก่อนปีใหม่ ช่วง 10-12/12/52 ไปแบบแบกเป้ ไม่ซื้อทัวร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ค่ะ  เรานอนที่เกาะอาดัง รู้สึกเป็นส่วนตัวมากค่ะ ไม่วุ่นวาย แอบมีข้ามฟากไปหลีเป๊ะนิหน่อยเพื่อไปกินข้าว ตอนมามารถทัวร์เช่นกันค่ะ ทรมานมากค่ะ ดองเค็มกันเป็นวันเลยเนื่องจากเลิกงานปุ๊บมาที่สายใต้ปั๊บ ไม่ได้อาบน้ำกันเลย แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ได้ไปเพราะสวยงามจริง ๆ ยิ่งได้ไปปีนผาชะโดจนถึงจุด view point 3 มองลงมาเห็นหลีเป๊ะทั้งเกาะประทับใจหายเหนื่อยมากเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปอีกแต่ขอไปเครื่องดีก่า +5555