พอกันทีกับ ลับ ลวง แหล

มาแฉหลังวันเด็กค่ะ
เด็กไม่ได้โง่นะคะ หลอกเด็กกันเข้าไป ผู้ใหญ่ชอบหากินกับเด็ก

หนูเป็นคนนึงที่(เกือบ)ถูกหลอกค่ะ ก็มีหลายเรื่องอ่ะค่ะ
ถึงเวลาแฉค่ะ หลังจากเก็บตัวค้นคว้าข้อมูล สอบถาม ว่ามันจริงหรือเปล่า
คือว่าเรายังไม่ถูกหลอก ประมาณว่า โฆษณาพวกนี้ มัน เหลือเกินค่ะ เกือบไปแล้ว

เรื่องแรกค่ะ

มีการจัดงานของ คสอ ยี่ห้อ N ค่ะ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
ก็มีพี่ๆ เค้ามาตื๊อหนูไปตรวจสุขภาพ กับเครื่องอะไรก็ไม่รู้
พอตรวจแล้ว ผลออกมาว่า สุขภาพปานกลาง

แอบเห็นของคนถัดไป แว้บๆ ของเค้าตรวจออกมา แย่กว่าของหนู

แล้วพี่เค้าก็ลากหนูไปที่ มุมๆ นึง แล้วอธิบายซะยืดยาวค่ะ
ประมาณว่า ถ้าทาน วิตามินตัวนี้ แล้วจะภูมิต้านทานดีขึ้น
เหมือนว่าได้ทาน ผัก ผลไม้วันละ 2 กิโลกรัม
ทุกวันนี้เราทานผักผลไม้กันไม่พอ
(แอบคิดในใจ คนนะ ไม่ใช่วัวใช่ควาย จะกินเยอะขนาดนั้น)

แล้วพี่เค้าก็สาธิตให้ดูค่ะ หยดเบตาดีนลงในน้ำเปล่าค่ะ
เหมือนว่านี่เป็นสิ่งสกปรก อนุมูลอิสระในร่างกาย
แล้วเอาผงวิตามินตัวนั้นเทลงไป
ปิ๊ง สีเบตาดีนหายไปหมดเลย

หนูชักสนใจแล้วสิ น่าจะดีนะเนี่ย

"เท่าไรอ่ะคะ" ถามราคาก่อน เดี๋ยวโดนฟันหัวแบะ
"กล่องละ 2000 บาท ทานได้เดือนนึง วันละ 2 ซอง "

โอย ไม่เอาดีกว่า กล่องละสองพัน แพงเกิน ถ้าจะสุขภาพดี แต่ไม่มีตังกินข้าว มาขายอะไรกับเด็กเนี่ย
(แต่ในใจก็ยังอยากได้อ่ะ ป่วยบ่อยอยู่ อยากหาย)

ก็เลยเอาไปถามคุณหมอค่ะ ด้วยความแอบอยากได้ แต่ไม่แน่ใจ ไปถามผู้รู้ก่อน
" คุณหมอคะ หนูไม่แข็งแรงค่ะ"
แล้วก็เล่าเรื่องวิตามินให้ฟัง

คุณหมอบอกว่า หนูเรียนวิทย์ ใช่มั้ย
ว่า ถ้า Iodine ผสมกับแป้ง มันก็หายไป
จะกินทำไมอ่ะหนู ???

เอ่อ หนูกลับมาคิดค่ะ เกือบโดนหลอกซะแล้ว สารในร่างกายเรา ไม่ใช่เบตาดีนสักหน่อย คุณหมอพูดถูก

เรื่องต่อมา

พี่สาวคนนึง ขายตรงยี่ห้อเดียวกับวิตามิน
พาไปตรวจสุขภาพผิว

ก็อยากรู้อยากเห็น ลองซะ ของฟรีซะด้วย

ผลออกมาก็ไม่ค่อยดีเท่าไรอ่ะ จิตตกเลยค่ะ ประมาณว่าหน้าหนูมีเชื้อโรคเยอะ

แล้วจะทำไงละเนี่ย

พี่เค้าก็ทำสปาหน้าให้ค่ะ ด้วยเครื่องอะไรสักอย่าง และบอกว่า เครื่องนี้ จะกำจัดเชื้อโรค ให้ทำอาทิตย์ละสองครั้ง
เป็นเครื่องประจุไฟฟ้า กับเจลที่ใช้ทำหน้า

พี่เค้าทำให้ดูเลยค่ะ ผลออกมา หน้าข้างที่ทำ สะอาดขึ้น จริงๆ
นี่ไง สิ่งสกปรกออกมากับเจล เป็นฟองๆ เลย

แหม ชักอยากได้เครื่องนี่จังเลย ราคาเท่าไรคะพี่
แล้วเครื่องนี่ต้องใช้กับเจลนี่ด้วยหรือเปล่าคะ

เครื่องต้องใช้กับเจลด้วยนะ อย่างอื่นไม่ได้
เจลก็แพงอีก หลอดนิดเดียวเอง เป็นร้อย

ราคาเครื่องล่ะ

หนึ่งหมื่นบาทค่ะ

หนึ่งหมื่นบาท นั่นมันมากกว่าค่าขนมหนูทั้งเดือนเลยนะ

หนูเลยถามว่า ผ่อนได้ไหมคะ ด้วยความอยากให้หน้าหายสกปรก เพราะเป็นสิวอยู่ เผื่อจะดีขึ้น
พี่เค้าบอกว่า บริษัทไม่ให้ผ่อน แต่พี่เค้าก็อยากช่วยหนูค่ะ เลยว่าจะแอบผ่อนให้
จริงๆ แล้วมันผิดกฏด้วยล่ะ

พี่เค้าก็บอกว่า ไม่ซื้อก็ไม่เป็นไรนะ ไม่ว่ากัน แค่อยากช่วย

หนูบอกพี่เค้าไปว่าคงไม่ซื้ออ่ะ หน้ามันเป็นสิวก็ปลงไปแล้วล่ะ ตอนแรกคิดว่าจะหาอะไรช่วยให้ดีขึ้น
มันเป็นสิวก็ปล่อยมันไป แก่แล้วเดี๋ยวก็หายเอง ช่างมัน

พี่เค้าก็ยังคุยกับหนูดีเหมือนเดิมค่ะ และเอาใจช่วยอีก

หนูก็กลับบ้านไปคิดค่ะ
แล้วก็เอาข้อมูลจากการตรวจสภาพผิวไปหาข้อมูลเพิ่ม ไม่ว่าจะจิ้มเน็ต หรืออะไรก็แล้วแต่
อ่าน อ่าน อ่าน

จนไปเจอพี่ BA ของอีกยี่ห้อนึงเค้าแนะนำว่าควรหา milk มาล้างหน้า
แต่ก็กลัว milk มาก เพราะใช้แล้วแสบทุกยี่ห้อ
หมดสิ้นหนทางค่ะ ไปร้านขายยา ก็เจอกับ acne-aid gentle ที่ไม่มีน้ำหอม สบู่ แอลกอฮอลล์ สารกันเสีย
จากการแนะนำของเภสัชอีกคน

ทีนี้เจอ acne aid gentle ก็เอามาใช้ หายเลยค่ะ ไม่มีอาการหน้าสกปรกอีกแล้ว
ก็ดีขึ้นเลยจริงๆ เลยซื้อไปแจกเพื่อนที่เป็นสิว เค้าใช้ก็บอกว่า ชอบมาก

และก็เลยเอาเรื่องตรวจสภาพผิวว่าหน้าหนูมีเชื้อโรคไปถามคุณหมอค่ะ
คุณหมอบอกว่า
"หน้าใครบ้างไม่มีเชื้อโรค แบคทีเรียมันอยู่ทุกหนทุกแห่ง"
เอ่อ จริงค่ะ ที่เรียนชีว เค้าก็บอกว่า เชื้อโรคมีทุกที่

ลืมเรื่องเครื่องตัวนั้นไปแล้ว

เดือนต่อมา

พี่ที่ทำงานกับคุณแม่เค้าก็เอาเครื่องทำหน้า เป็นประจุไฟฟ้า คนละยี่ห้อมาให้คุณแม่ค่ะ
คุณแม่ไม่ได้ใช้ ก็เลยเอามาลอง ด้วยความอยากได้เครื่องไฟฟ้าทำความสะอาดหน้าอ่ะ

แต่ถ้ามีเครื่องไฟฟ้า ไม่มีเจล จะทำอย่างไรดี
ค้นกรุในห้องน้ำ ก็เจอเจลหน้าเรียวของ sana ที่ซื้อมาตั้งนานแล้ว

สรุปก็เลยใช้เครื่องไฟฟ้าตัวนั้นกับเจลหน้าเรียว
ผลออกมา นี่ไง สิ่งสกปรกแบบเดียวกันกับที่พี่เค้าบอกเลยค่ะ เป็นฟองๆๆ

แล้วมันก็ดีขึ้นจริงๆ ไม่ได้ใช้เจลของเค้า ไม่ได้ใช้เครื่องของเค้า
ไม่ซื้อเครื่องของพี่เค้าแล้ว แพงมากๆๆ

มันเสียความรู้สึกค่ะ กับยี่ห้อนี้ โชคดีที่ยังเจอพี่นิสัยดี ที่แบบว่า ไม่คะยั้นคะยอหรือพูดแย่ๆ ให้เราซื้อ

สรุปว่า ยี่ห้อนี้ขายแพงเกินจริง และโฆษณาเวอร์โคดค่ะ
แต่ก็ขอบคุณคำแนะนำดีๆ จากพี่เค้าค่ะ

ถามว่า ไม่มีองค์กรไหนเลยเหรอ ที่มาคุ้มครองผู้บริโภคอ่ะ เกือบโดนเอาเปรียบแล้วไหมล่ะ
ยังดีที่ว่า หนูเข้มแข็งพอค่ะ ไม่ตกเป็นเหยื่อ และพี่เค้าทำไป แค่ตามหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้บังคับอ่ะ
และคุณหมอก็ให้ข้อมูลกับหนูด้วย

แล้วอีกหลายคน ถ้าอยู่ในสภาพเดียวกัน น่าจะโดนหลอกไปแล้ว

ต่ออีกค่ะ

หนูแบกคำถามไปถามคุณหมอค่ะ แบบว่าอยากรู้อยากเห็น
มันโฆษณากันเต็มทีวี เห็นแล้วกระตุ้นต่อมอยาก

ตัวเราก็ จริงๆ ขาวอยู่แล้ว แค่ไม่เท่าในทีวี แต่ดูบ่อยๆ มันก็เขว

Q: คอลลาเจนขวด ดื่มแล้วหน้าจะดีขึ้นไหมคะ
(collagen drink ตอนนี้มีขายกันเกลื่อนค่ะ โฆษณาก็แบบว่า ดูแล้ว หน้าเราไม่ได้แย่นะ แต่เห็นโฆษณาแล้วจิตตกลงไปเลย)
A: ดื่มไปแล้ว คอลลาเจนมันย่อยไปแล้ว ไม่มีประโยชน์หรอก

Q: คอลลาเจนทาผิว มันเห็นผลไหม ในแบบโฆษณาอ่ะค่ะ
(ครีมหลายๆ ยี่ห้อ ก็บอกว่า ใส่ collagen ในผิวช่วยให้เต่งตึง ยกกระชับ เห็นผลใน 7 วัน)
A: ถ้าสารอะไรมันกระตุ้นผิวได้ขนาดนั้นได้จริงๆ ก็ก่อให้เกิด มะเร็งแล้วล่ะ

Q: ครีมพวกนี้ ใช้แล้วขาวขึ้นจริงไหมคะ
(แหม ใช้แล้วขาวเกาหลีเลย ขาวอมชมพู เราก็ขาวนะ แต่ดูพวกนี้แล้ว ทำให้อยากขาว จะขาวไปถึงไหนๆๆๆ)
A: หนูเอ๊ย เค้าผสม titanium dioxide พอเวลาทา ออกแดด สะท้อนแดดก็เลยดูขาวขึ้น ล้างออกก็เหมือนเดิม
(หนูกลับไปอ่านฉลากของครีมทาตัว ทาหน้า กันแดดที่ทำให้ขาวขึ้น ก็มีส่วนผสมของ titanium dioxide จริงๆ)

อ่านหนังสือของพระไพศาล วิสาโล
ท่านสอนว่า สังคมยุคนี้เป็นสังคมบริโภคนิยม
อะไรดีก็ต้องหามาครอบครองให้ได้ ต้องสวยเหมือนในโฆษณา
ทำให้คนเรารู้สึกเกลียดตัวเอง ที่ไม่สวยเหมือนในทีวี
ทั้งที่จริงแล้ว เรื่องของการพัฒนาจิตใจสำคัญกว่า

ถ้าเราพัฒนาจิตใจแล้ว ก็ไม่ต้องวิ่งตามกระแส อยากสวย ขนาดนั้นอ่ะนะ
ทุกวันนี้จิตใจของคนเราอ่อนแอ ไม่ได้พัฒนา ใครบอกอะไรก็เชื่อหมด
และไม่มีองค์กรดูแลผู้บริโภค หรือมีแล้วไม่ดูแลก็ไม่รู้เหมือนกัน
ก็มีเหยื่อแพ้เครื่องสำอาง หรือโดนหลอก กินวิตามินฟรี หรือเสียโฉมเพราะเจอของเถื่อนมากมาย
และสังคม ก็ให้ความสำคัญกับ ความสวย ความหล่อ มากเกินไป

เข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้ใจกับ ลับ ลวง แหล โฆษณาหลอกลวงปวงประชา
จะซื้ออะไร ศึกษาก่อน ไม่ก็ถามชาวจีบันก็ได้จ้าาาาา