อยากให้เข้ามาอ่านนะค่ะ เป็นเรื่องของเรา แต่หวังว่ามันจะเป็นข้อคิดได้

สวัสดีค่ะ ชื่อบี นะค่ะ

เป็นบุคคลที่ชอบตั้ง หัวข้อกระทู้ที่ขอคำปรึกษษเรื่องแฟน(ลองจิ้มดูกุ๊กไก่ได้ค่ะ)

ณ วันนี้เราได้เลิกกับแฟนเราแลวนะค่ะ

เล่นซะเสียศูนย์ไปเลย^^

ตอนแรกก็ยังคุยๆกันอยู่ แต่เพราะความไม่มีน้ำใจนักกีฬาของเรา

ยิ่งเราอยากรักษษความสัมพันธ์มากเท่าไหร่ เรายิ่งอยากจะทำลายมันมากเท่านั้น

เพราะเราคิดว่า ถ้าเราเกลียดแฟนเรา เราจะได้ลืมได้โดยเร็วซักที

แต่ผลกลับตรงข้าม แฟนเรากลับหัวเราะ แล้วบอกว่า บีไม่ต้องพยายามทำให้หมูเกลียดหรอก

ในเวลานั้นเรารู้สึก เสียใจมาก แต่แฟนเรา ไม่สิ แฟนเก่าเราบอกว่า

ไม่เป็นแฟนก็เป็นเพื่อนกันได้ ไม่จำเป็นเลยซักนิดที่จะต้องเกลียดกัน

บีบอกว่า เค้าทนไม่ได้นะ ที่จะเห็นหมูไปชอบคนอื่น คบคนอื่น

แฟนเก่าบีก็บอกว่า ตอนนี้มันยังไม่มีนี้นา แฟนเก่าบีบอกว่า เหนื่อยที่จะต้องมานั่งทะเลาะกัน

เหนื่อยที่เราเหวี่ยงแบบนี้

ตอนหลังสุดท้ายเป็นเราที่เสียใจที่สุดค่ะ

ตอนนั้นเราน่ะตั้งตัวไม่ทัน ข้าวก็กินไม่ลง(ไม่ได้อยากทำร้ายตัวเองนะค่ะ แต่มันไม่ลงจริงๆ)

แม่เริ่มเป็นห่วงรวมทั้งพ่อด้วย เราก็ผอมลงน้ำหนักลดฮวบ

ตอนหลังตัดสินใจบอกแม่ไป เราก็เตรียมใจเรื่องที่แม่จะโกรธแล้วล่ะค่ะ

แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด

ตอนนั้นบีไปที่ห้องนอนแม่แล้วนอนข้างๆแม่อยู่ แล้วบีก็เล่าเรื่องทั้งหมด

แม่กลับกอดบีไว้ แล้วบอก ไม่เป็นไรนะ

บีนี้น้ำตาไหลพราก บีถามแม่ว่า แม่คิดว่ามันแฟร์หรอ ที่เวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วบีมาหาแม่

แม่บียิ้มแล้วบอกว่า แม่ก็น้อยใจนะ ที่บีไปหลงกับอะไรไม่รู้ แต่แม่อยากให้บีร่าเริงเหมือนเดิม

แล้วแม่ก็เดินไปหยิบตุ๊กตาที่แฟนเก่าเราให้ แล้วแม่ก็พูดว่า นี่ ทำลูกสาวแม่ร้องไห้ใช่มั้ย แล้วแม่บีก็ตีๆตุ๊กตา

บีก็ยิ้มทั้งน้ำตา กับการกระทำของแม่บี แล้วแม่บีก็บอกว่า เดี๋ยวจะเอาตุ๊กตาตัวเนี่ยไปเก็บไว้ในตู้

แล้วรอวันที่บีมองหน้ามันแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย ระหว่างนั้นบีก็พยายามยืนด้วยตัวเองนะ จิ๊กซอร์ที่มันไม่ใช่ยังไงมันก็ต่อไม่ได้อยู่ดี

ตอนนั้นมันทำให้บีฉุดคิดได้เลยว่า ไม่ใช่ไม่มีใครรักเราเลย

เพียงแค่เราไม่หันมองพวกคนที่รักเรามากกว่า

หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเราหยุดเรียนไป 1 วัน

แล้วก็มาโรงเรียน พอเข้าห้องเรียนก็แปลกใจ

เพื่อนๆในห้องต่างมารุมถามว่าเป็นไงบ้าง เป็นอะไรมากรึเปล่า แค่ผู้ชายคนเดียวเองนะ อย่าคิดมากล่ะ

ความรู้สึกตอนนั้น มันแบบว่า บรรยายออกมาไม่ถูกเลย มันรู้สึกแบบ ยังมีคนที่เป็นห่วงเราอีกหรอ

แล้วพอเราไปห้องพยาบาล(บีเป็นเด็กห้องพยาบาล) อาจารย์ห้องพยาบาล เค้าก็มาถามบีด้วยความเป็นห่วง

อาจารย์บอกว่า ยัยบีครูได้ข่าวแล้วล่ะ เป็นไงบ้างล่ะเนี่ย ดูซิผอมหมดเลย แบบนี้ใครเค้าจะมาชอบเราต่อล่ะเนี่ย

ตอนนั้นบีก็หน้าจ๋อยเลย 555 แล้วอาจารย์ก็พูดต่ออีกว่า ครูให้เวลาเธอทำใจ 1 อาทิตย์นะ ไม่งั้นไม่ต้องมาคุยกันเลย

บีก็ยิ้มให้เค้า

หลายๆอย่างที่บีได้มาเล่าให้ฟังนะค่ะ มันทำให้รู้จริงๆว่า เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

เรายังมี พ่อ แม่ เพื่อน คนรอบข้าง ที่คอยดูเราอยู่ห่างๆ และคอยเป็นกำลังใจให้เราเสมอ

ตอนนี้อาการ(เฮิท)ของบีดีขึ้นเยอะแล้ว บีสามารถยิ้มได้ หัวเราะได้ และทำตัวเป็นอย่างปกติได้แล้ว (แม้กระเพาะจะยังไม่ค่อยฟื้นฟูก็เหอะ 555)

กำลังใจคือ สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยเยียวยา ความบอบช้ำได้

บีต้องขอบคุณ คุณแม่ คุณพ่อ(ที่แอบให้กำลังใจอยู่ห่างๆ) พี่สาวของบีหลายๆคน น้องสาวและน้องชาย เพื่อนๆบี อาจารย์ ที่เป็นกำลังใจให้บีได้ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

อยากให้สาวๆได้ลองอ่านแล้วนำไปเป็นข้อคิดนะค่ะ

หวังว่าเรื่องของบี จะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้างนะค่ะ

รักสาวจีบันทุกๆคนค่ะ ^^

Discussion (3)

ถูกคะ..พ่อ แม่ นี่แหละคือรัก ที่ไม่หวังอะไรตอบแทน 
คนสุดท้ายที่จะยืนอยู่ข้างเราจริงๆๆ คือ พ่อ แม่
ผช ที่เคยบอกว่ารักเรา เค้ารักเราไม่ได้ครึ่่งเลย เวลาเค้าจากไป...เค้าก้อไม่เคยจะแคร์ว่าเราเสียจัย
จากไปก้อไปเปนคนอื่น..ดูซิครายละ รักและอยู่กับเราตอนเราเสียจัย....
สู้ๆๆจร้า....
ขอบคุณนะคะ ที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาแบ่งปันกัน

ยังไงก็ขอให้คุณบีเจอคนที่ใช่จริงๆสักทีนะคะ

จะได้ไม่ต้องรู้สึกแบบนี้อีก