skin care ระหว่างแบรนด์ตะว้นตกกับเอเชีย

เคยคิดบ้างมั้ยคะว่า skin care ระหว่างแบรนด์ตะวันตกกับโซนเอเชีย มีอะไรที่ดีเสีย ต่างกันอย่างไร แล้วอะไรที่เหมาะสม  เพราะเวลาไปซื้อ ก็จะเห็น BA เค้าก็ภูมิ ใจ ในสินค้าของแบรนด์จากประเทศนั้นๆ อยากทราบความเห็นค่ะ

Discussion (8)

อ่านแล้วได้ความรู้มาก ๆ เลยค่ะ กระทู้นี้ ::))))
agreed with the first comment :)

ตามความคิดของเราไม่ต่างกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์จากฝั่งตะวันตกหรือเอเชีย
แต่ละยี่ห้อที่ผลิตออกมาก็คือ เน้นในเรื่องการบำรุง ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ต่อต้านริ้วรอย หรือลดริ้วรอย ให้ความกระจ่างใสของผิว 
สกินแคร์ที่มีราคาสูงก็ย่อมคุณภาพดีเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ

จริงอยู่ที่ว่าสภาพผิวของคนแต่ละเขตจะต่างกันไปตามอากาศของประเทศนั้น  แต่สิ่งหนึ่งที่ผิวคนเราต้องการเหมือนกันคือความชุ่มชื้นของผิวพรรณค่ะ
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเอเชียหรือคนตะวันตกมีอยู่ผสมกันไปทั่วทุกมุมโลก การเลือกใช้สกินแคร์ที่ประเทศนั้นๆมีวางขายอยู่ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีเพราะสะดวกและหาซื้อได้ง่ายมากกว่า บางทีการเลือกใช้ครีมที่ผลิตในประเทศนั้นๆราคาก็อาจถูกกว่าสกินแคร์ที่นำเข้ามาจากนอกประเทศค่ะ
ถ้าเปรียบเทียบข้อดีหรือข้อเสียของสกินแคร์ของทางเอเชียกับตะวันตก ในสกินแคร์ที่ราคาใกล้เคียงกันนะคะ คำตอบของเราเท่าที่เคยใช้มาทั้งของเอเชียและตะวันตก  คงบอกไม่ได้หรอกว่าของทางฝั่งไหนดีกว่ากันค่ะ  เพราะดีเหมือนๆกันเลย 
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แล้วแต่สภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ 
 
มีสกินแคร์บางยี่ห้อในปัจจุบัน ยี่ห้อเดียวกันแต่ผลิตมาจากคนละประเทศเลยก็มีนะคะ
เพราะเราใช้อยู่ตอนนี้ ยกตัวอย่างนะคะ ชิเชโด้ บางตัวผลิตที่ญี่ปุ่น บางตัวผลิตที่ฝรั่งเศลก็มีค่ะ อีกตัวผลิตที่เมกา  เราก็ใช้ได้ผลดี แต่รู้สึกรุ่นที่มากจากเมกา กับฝรั่งเศลจะราคาแพงขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง อาจเพราะเป็นรุ่นใหม่ๆเพิ่งออกมาก็ได้ค่ะ

ส่วนตัวเราว่ามันแล้วแต่สถาพผิวมากกว่านะคะ แล้วก็ค่านิยม วัฒนธรรมของแต่ละชาติ ที่เห็นต่างกันชัดๆก็ยุโรปกับญี่ปุ่น

อย่างเบรนยุโรปเนี่ยะ หลายๆเบรนชอบใส่น้ำหอมกลิ่นแรงๆ กลิ่นออกแนวกุหลาบหรือไรงี้ อย่าง Dior, Estee ซึ่งเราแพ้น้ำหอม ก็เลยไม่ชอบมากๆ แต่เบรนญี่ปุ่นเนี่ยะส่วนใหญ่น้ำหอมที่ใส่จะกลิ่นอ่อนบาง สดชื่น ใสๆหน่อย

ส่วนเรื่อง skin care จะมีตัวนึงที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ชื่อสิ่งที่เรียกว่า toner ของฝรั่ง ซึ่งจะเน้นเรื่องใช้แล้วทำความสะอาดผิวให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก ส่วนใหญ่เลยมีแอลกอฮอลมาก แต่ฝั่งญี่ปุ่นเขาจะเรียกว่า lotion แทน แล้วไปเน้นเรื่องบำรุงเลย เพราะงั้นจะออกแนวชุ่มชื่นกว่า toner ของฝรั่ง

แล้วฝั่งญี่ปุ่นเขาจะเน้นตัวบำรุงแบบเป็นน้ำๆเยอะมาก ซึ่งเราชอบเพราะมันไม่มันดีแล้วก็ซึมเร็ว เหมาะกับผิวมันของเรา แต่ฝั่งฝรั่งจะไม่ค่อยมีค่ะพวกโลชั่นน้ำอะ จะเป็นครีม gel แล้วก็ lotion เฉยๆ ซึ่ง lotion เนื้อแบบโลชั่นฝรั่ง จะเป็น emulsion ของญี่ปุ่นแทน อาจเพราะสาวญี่ปุ่นบ้าการ mask หน้ามากๆก็ได้ lotion เนื้อน้ำเนี่ยะ บางทีเขาก็เอาไปทำ mask อะ

เนื้อ skin care ทั้งหลายของฝั่งญี่ปุ่นจะค่อนข้างเบาบางนะ ขนาดญี่ห้อถูกๆก็จะเบา (แต่บางครั้งก็ตามมาด้วยแอลกอฮอล์เยอะ) ไม่ค่อยเจอครีมหนักๆบึกๆแบบฝั่งฝรั่ง แต่ฝั่งฝรั่งนี่เห็นเยอะ ครีมหนักๆเนี่ยะ อาจเพราะฝรั่งเขาผิวแห้งเยอะก็ได้ อันนี้ไม่แน่ใจ

ของเกาหลีเราว่าส่วนใหญ่จะคล้ายญี่ปุ่นนะคะ แล้วก็มา adapt  หน่อยอะ

skin care ที่เราใช้ส่วนใหญ่มาจากฝั่งญี่ปุ่นซะเยอะอะค่ะ แต่ก็มีฝรั่งยุโรป เมกาบ้าง ใช้ดีไม่ดีเราว่ามันก็แล้วแต่สภาพผิวคนเรานะคะ สำหรับเราเราไม่คิดว่าเป็นคนเอเชียต้องใช้ของเอเชียอะ ลองใช้ดูกับตัวเองก็จะรู้ดีที่สุดว่าอันไหนใช้แล้วดีไม่ดียังไง แล้วแต่สภาพผิวมากกว่า




We are Thai and Asian of course why don't we used Asian skin care range rather than using The westerner brand.My reasons are 1.The cosmetics from western never get on with the asian skins because they make for the westerner skins and also between Asian and Western skins are different type therefore stick to Asian cosmetics.2.The cosmetics from Western doesn't mean all good some of them more expensive than Asian cosmetics.3.Nowadays the cosmetics from Thailand or from the neighbours such as Korea,Japan,Singkapore etc.They are all good and get on with the asian skins very well also the prices are reasonable and affordable just stick with the asian brands I think it's worth it to go crazy with the western brands.To me I live abroad I have no choice that's why I have to used the cosmetics over here If I have more choices I would used Asain brands.