I don't care แต่งสวยประชดความโสด ไปงานแต่งเพื่อน

ห่างหายจากการแต่งหน้าไปนาน มีโอกาสได้ไปงานแต่งเพื่อนไฮโซที่ครองรักกันมานานถึงเจ็ดปี   ก็ต้องแต่งสวยไปฉลองความโสดซะหน่อย ให้รู้ซะบ้างว่าสวย ๆ แบบนี้ก็โสดได้แบบไม่แคร์สื่อค่ะ


มาดูอุปกรณ์กันเลยค่ะ

ขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่ได้แต่งหน้ามานานมาก ๆ แล้ว เนื่องจากงานยุ่ง+ขี้เกียจ อุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็ขุดมาจากกรุซึ่งเก่ามาก ๆ  คาดว่าจะหมดอายุไปนานแล้ว แต่เนื่องจากแต่งไปงานแค่แป๊บเดียว จะถอยเครื่องสำอางใหม่ยกชุดก็เห็นจะไม่ไหวเพราะไม่มีเวลาแต่งหน้าประจำอีก จำใจต้องใช้ของเก่าไปก่อน เพื่อความประหยัดทั้งทรัพย์ส่วนตัวและทรัพยากรธรรมชาติ    แต่ผิดสุขลักษณะที่ดีอย่างแรงสาว ๆ ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ

รูปอาจจะเรียงสับสนหน่อย แล้วก็มีซ้ำไปซ้ำมาบ้าง ลืมบางรูปบ้างขออภัยนะจ๊ะ แก่แล้วแต่เป็นมือใหม่หัดแต่งรูปจ้ะ

 

เรียงลำดับจากซ้ายมาขวานะคะ

1. Eye shadow ของ Cosmic เก่ามาก

2. Avon Sheer nourishment luminous lip color สี Lollipop Dazzle ลิปสีชมพูมีประกายวิ้ง ๆ สีเงินของเอวอน (เลิกผลิตไปแล้ว) ชอบมากทาง่าย แล้วได้ลุคใส ๆ ดีค่ะ แถมมี spf 15 กันแดดได้ด้วย

3. ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้มของคิวเพรส ค่ะ

4. ครีมกันแดดบิโอเรสีชมพู  กันแดดมั่นใจด้วย SPF 50 PA+++ แถมเป็น makeup base ในตัว ทาแล้วหน้าขาวอมชมพูสไตล์เกาหลี  ที่สำคัญคือใช้แล้วหน้าไม่มันค่ะ ^_^

5. รองพื้นแบบน้ำของอีฟโรเช่ รุ่น YRIA สี Porcelain ค่ะ รองพื้นตัวนี้เป็นรองพื้นตัวโปรดในเวลานี้ ใช้แล้วหน้าใสเป็นธรรมชาติไม่โบ๊ะค่ะ

6. Gel eyeliner สีดำประกายของ Palty ซื้อเก็บมานานแล้ว ได้ฤกษ์เปิดใช้ซะที ชอบeyeliner แบบเจลเพราะเขียนง่าย เหมาะกับมือใหม่หัดกรีดที่สุดค่ะ

7. Peel off mask ของ Za  มาร์คลอกสิวเสี้ยนของZaเก่ามาก ๆ เมืองไทยไม่มีจำหน่ายแล้ว  ชอบตรงที่ทาได้ครบT-zone ไม่จำกัดเฉพาะตรงจมูกเหมือนพวกเทปลอกสิวเสี้ยนแบบแปะจมูก ที่สำคัญราคาก็ประหยัดด้วยค่ะ
(ลืมถ่ายรูป&ขี้เกียจถ่ายแล้ว ขอยืมรูปจาก www.za-ny.com หน่อยนะคะ)

8. Eyebrown mascara ของ Palty มาสคาร่าแต่งคิ้วของพาลตี้คาดว่าจะเป็นสีออกเหลืองด้านขวาสุดค่ะ ขอยืมเพื่อนใช้ จำสีไม่ได้ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ ก็เลยต้องเสริชหารูปจากกูเกิ้ล (ขอยืมรูปจากเวป sabuyjaishop.com มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)

9. ชุดเมคอัพสุดหรูของอีฟโรเช่ สอยมาตอนไปเที่ยวเมืองนอก ได้โอกาสเปิดมาใช้เป็นปฐมฤกษ์สักที เป็นเครื่องสำอางเพียงไม่กี่อย่างในรีวิวนี้ที่ยังไม่expire T^T

10. Consealer ของ Naris เก่ามาก ๆ ค่ะ

11. Cream hilighter shading eyeliner and blusher ในตลับเดียวกัน ของ Boot Botanic เก่ามาก ๆ เช่นกัน

12. Cream blush สีชมพูวิ้ง ๆ ของเมลบิลีน เก่าสุด ๆ T_T

13. Trevor Scorbie curl enhancer ครีมแต่งผม

14. อุปกรณ์ม้วนผมจากร้านโดโซะ

15. Fresh light สีบล์อนทอง สีผมที่ทำปัจจุบัน

16. Loose Powder สี Translucent ของ Oriental Princess (ลืมรูปจ้ะ)

17. Mascara Fasio รุ่นด้ามทอง สีดำ (ลืมรูปจ้ะ)

หมดหมวดอุปกรณ์แล้ว  เรามาเริ่มแต่หน้ากันเลยค่ะ ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเป็นการแต่งหน้าทำผมแบบไร้ซึ่งการวางแผน แต่งไปคิดไปค่ะ อาจผิดลำดับขั้นตอนไปบ้างนะคะ

Let's go

 

ก่อนแต่ง หน้าโล้น ๆ มีสิวผุดตรงจมูก 1 จุด


ผมปัจจุบันสภาพยาวตรงทำสีมาหลายครั้ง ไปงานแต่งทั้งทีก็อยากทำผมลอนเปลี่ยนลุคตัวเองบ้าง ก่อนจะไปอาบน้ำและเริ่มแต่งหน้าเราก็มาม้วนผมกันก่อน อาบน้ำแต่งหน้าเสร็จผมจะได้อยู่ตัวพอดี ^_^

เริ่มต้นด้วยการหวีผม ใส่ครีมแต่งผมเล็กน้อยที่ปลายผม หวีอีกรอบ แล้วแบ่งผมเป็นส่วน ๆ ตอนทำนี้แบ่งผมตามแนวนอนเป็นสามส่วน เก็บผมส่วนบนขึ้น ม้วนผมช่วงท้ายทอยก่อน ชั้นล่างสุดม้วนเข้าหาตัว  ชั้นกลางม้วนออกจากตัว ชั้นบนสุดม้วนเข้าหาตัว ใช้ที่ม้วนผมไปทั้งสิ้น 12 อันค่ะ

ก่อน หน้านี้เคยลองใช้ที่ม้วนผมอันนี้ทำมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งนั้นม้วนนอนข้ามคืนจึงไม่ได้เป่าไดร์  แต่ครั้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวม้วนไว้ก่อนเมื่อคืน ก็เลยต้องใช้ไดร์เป่าลมร้อนจ่อสักเล็กน้อย หวังผลให้ลอนอยู่ตัวเร็วขึ้น 

ระหว่าง รอให้ผมเย็นและอยู่ตัว เราก็จะไปอาบน้ำก่อน หลังอาบน้ำขอลอกสิวเสี้ยนบริิเวณ T-zone ออกนิดนึง เวลาแต่งหน้าจะได้ดูเนียน ๆ  สมใจ

มาเริ่มแต่งหน้ากันเลยค่ะ

หลังจากบำรุงผิวตามปกติแล้วก็ทาครีมกันแดดกับเบสสีชมพูในตัวเดียวกันของบิโอเร โดยแต้มห้าจุดบนหน้าแล้วก็เกลี่ยให้ทั่ว แล้วก็ทาที่คอเพื่อการปกป้องที่คอ แล้วก็ทำให้หน้ากับคอสีเดียวกัน เวลาถ่ายรูปแล้วจะได้ไม่ลอยจ้ะ  

แล้วเราก็มาลงรองพื้นกันต่อเลย ใช้รองพื้นเพียงเล็กน้อยแค่เม็ดถั่วเขียว แต้ม 5 จุด (หน้าผาก จมูก คาง แก้ม) แล้วเกลี่ยจากกึ่งกลางหน้าออกไปด้านข้างให้เนียนทั่ว ๆ กันค่ะ

มือบอนไปแกะสิวจนได้ ก็เลยได้รอยแดงมา จึงต้องคว้าคอนซิลเลอร์เลือกหลุมสีเขียวมากด ๆ ตรงรอยแดงเพื่อลดรอยแดงค่ะ

สียังไม่เนียนเท่าไหร ก็เลยคว้ารองพื้นแห้ง ๆ ที่ติดปากขวดมากลบลงไปอีกที (มือใหม่หัดกลบสิว ฝีมืออ่อนหัดยิ่งนัก ทำได้แค่นี้เองค่ะ T_T)

ไปงานแต่งก็ต้องทำหน้าให้ดูมิติหน่อย จะได้ถ่ายรูปขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องมาทำเฉดดิ้งกับไฮไลท์กัน

เริ่มจากไฮไลท์ก่อนนะคะ แตะครีมสีขาวประกายทองวิ้ง ๆ ทาบริเวณสันจมูก ใต้โหนกคิ้ว ใต้ตา แล้วก็คางตามรูปเลยจ้ะ  อย่าลืมเกลี่ยให้จางออกไปทางด้านข้างด้วยนะจ๊ะ เพื่อความแนบเนียน

ส่วนเฉดดิ้งก็แตะครีมสีน้ำตาลแต่เพียงเล็กน้อย ไล้ดั้งไล่ลง แล้วเกลี่ยออกด้านข้างให้กลมกลืนตามรูปเลยจ้ะ เนื่องจากหน้าเหลี่ยมก็เลยต้องเฉดดิ้งลบกรามเป็นแนวโค้ง ๆ ลดความเหลี่ยมของหน้า แล้วก็เฉดดิ้งบริเวณแก้มเป็นรูปสามเหลี่ยมเพื่อช่วยลบมุมกรามอีกแรงนึง  อย่าลืมเกลี่ยให้สีค่อย ๆ จาง กลืนเข้ามาด้านในนะคะ

รูปใหญ่คือหลังทำเฉดดิ้งกับไฮไลท์แล้วดูมีดั้งขึ้นเยอะเลย ^_^

เสร็จจากขั้นตอนไฮไลท์กับเฉดดิ้งแล้ว เรามาลงครีมบลัชกัน แต้มครีมบลัชมา แตะไปที่จุดสูงสุดของแก้มแล้วเกลี่ยออกด้านข้างเป็นแนวกลม ๆ จะได้เด็ก  ชอบครีมบลัชตรงที่ทำให้ดูแก้มใสออกมาจากข้างในดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ 
รูปใหญ่คือหลังจากลงครีมบลัชเรียบร้อยแล้ว สีไม่เข้มมากเพราะวันนี้เราจะเน้นแต่งตาค่ะ สีแก้มก็เลยต้องดรอปลงมา

เสร็จจากขั้นตอนการลงสีพื้นฐานแล้ว เราก็มาลดความมัน เพิ่มความเนียนกันด้วยแป้งฝุ่นค่ะ  ใช้แป้งฝุ่นตัวโปรดคือtranslucent loose powder ของ OP ที่ทาแล้วหน้าใส ๆ ไม่หนาเกินไป แถมยังราคามิตรภาพอีกด้วย

แคะแป้งใส่ฝา ใช้พัฟแตะแป้งขึ้นมาแล้วกด ๆ ไปทั่วใบหน้า จนอย่าถูนะคะเดี๋ยวรองพื้นหลุดหมด

รูปด้านขวาคือหน้าเนียน ๆ หลังลงแป้ง จะเห็นว่าสีแป้งคล้ำกว่าสีจริงนิดนึง แต่ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เนื่องจากจะไปงานตอนกลางคืน ต้องให้สีหน้าคล้ำหน่อย เวลายิงแฟลชถ่ายรูปหน้าจะได้ไม่ขาวเวอร์ลอยออกมาค่ะ ^_^

มาถึงขั้นตอนแต่งตาสีม่วงๆ ให้เข้ากับคอนเซปต์ I don't care นะคะ

1. ใช้แปรงทาตาขนาดใหญ่จุ่ม eyeshadow สีม่วงอ่อน ทาวน ๆ ให้ทั่วเปลือกตา

2. ใช้แปรงทาตาEye Contour Brush ของ oriental princess พู่กันทาตาอันโปรด ใช้อยู่อันเดียวนี่แหล่ะ (ลืมถ่ายรูป) จุ่มสีขาว ทาเป็นไฮไลท์ใต้โหนกคิ้ว ตามรูป

3. เช็ดขนแปรงแต่งหน้าด้วยหลังใช้ด้วยผ้าขนหนู เพื่อกำจัดสีเดิมออก แล้วจุ่มสีม่วงเข้ม ทาตรงเบ้าตา ทำสโมคกี้อาย โดยเริ่มจากชิดขอบตาก่อน ค่อย ๆ ไล่สีให้กระจายออกไปด้านบน  ที่ทาตาเป็นกลม ๆ นี่ก็ช่วยเรื่องลดกรามเหลี่ยม ๆ ได้ด้วยนะคะ ^_^ 


เสร็จเรื่องสีทาตาแล้ว ก็มาดัดขนตากัน  ขนตาสั้น ๆแข็ง ๆ อย่างนี้ต้องที่ดัดขนตาไฟฟ้าเท่านั้นถึงจะเอาอยู่ หนีบโคน แล้วก็ไล่ออกมาด้านนอก สองสามระดับ 

งงกันไหมคะว่าทำไม่ดัดขนตาก่อนกรีดอายไลเนอร์ ก็เพราะว่าเวลาดัดขนตาทีหลัง อายลายเนอร์ชอบหลุดไปติดที่ด้ดขนตาเปื้อนหน่ะค่ะ  ก็เลยชิงดัดก่อนซะเลย  ดัดเสร็จก็ได้ขนตางอนขึ้นตามรูปด้านซ้ายล่าง

เพิ่มความคมของตาให้เหมาะกับงานกลางคืนด้วยการ กรีดเจลอายลายเนอร์สีดำประกายเป็นเส้นหนาพอประมาณชิดขอบตาดังรูป  พยายามใช้พูกันเติมร่องขนตาให้เต็มด้วยจ้ะ

เสริมทิปเล็ก ๆ ของการใช้เจลไลเนอร์คือใช้พู่กันควักเนื้อเจลมาก้อนเล็ก ๆ วางที่หลังมือก่อน แล้วค่อยใช้พู่กันปาดเจลให้ติดพู่กันพอประมาณไม่เป็นก้อน แล้วค่อยไปกรีดที่เปลือกตาจ้ะ

หลังกรีดอายไลเนอร์เสร็จ รู้สึกว่าสีอายชาโดว์ยังไม่เข้มพอ ก็เลยเติมสีม่วงเข้มลงไปอีกครั้ง กลายเป็นทับสีอายไลเนอร์ดำ ๆ ที่กรีดไปแล้วหมด เหลือแต่ตรงที่ทำinnerไว้ที่ทำให้ตาคมขึ้นหน่อย  ช่างมันเลยตามเลย ไม่ได้แต่งหน้านาน ไ่ม่ค่อยคุ้นกับการกรีดอายไลเนอร์ด้วย แค่นี้ก็สวยไปอีกแบบนึง ^_^

ปัดมาสคาร่าสีดำ รุ่นแท่งสีทองของFasio (ลืมถ่ายรูปมาสคาร่าขอยืมรูปของคุณyeengployจากเวปชมพูนะคะ)

 มาสคาร่าตัวนี้มีดีตรงที่แปรงเล็ก ซอกซอนเข้าไปในขนตาสั้น ๆ ของข้าพเจ้าได้ดีนักแล  แต่ไม่ช่วยเรื่องยาวและหนาเลย 

หลังแต่งตาเสร็จ คมขึ้นแบบเป็นธรรมชาติสมใจ

มาถึงขั้นตอนการแต่งคิ้วกันค่ะ

มากำหนดแนวคิ้วกันก่อน รูปแบบคิ้วงามตามหลักโหงวเฮ้งคือ 1. หัวคิ้วอยู่ตรงกับปีกจมูก (คิ้วเดิมได้ระดับดีอยู่แล้ว) 2. จุดสูงสุดของคิ้วอยู่ตรงกับขอบด้านข้างของตาดำ (คิ้วเดิมไม่ได้เป็นอย่างนี้ แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง ปล่อยตามธรรมชาติดีกว่า) 3. หางคิ้วอยู่ในแนวเส้นที่ลากจากหางตาไปยังขอบปีกจมูก (คิ้วเดิมสั้นไปหน่อย ขั้นตอนนี้ดินสอเขียนคิ้วช่วยได้ค่ะ เขียนเส้นต่อความยาวคิ้วออกไปหน่อยนึง ^_^) 

คิ้วที่งามคือส่วนหัวคิ้วกว้างแล้วค่อย ๆ เรียวไปทางปลาย ขนคิ้วที่ขึ้นไม่เป็นระเบียบใต้ต่อแนวนี้ให้ใช้แหนบค่อย ๆ ถอนออกค่ะ (ถอนเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่มีรูป before-after ให้ดูกันค่ะ)

รู้ทฤษฎีแล้วมาเริ่มแต่งคิ้วจริง ๆกันเลยจ้ะ
เริ่มที่ใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเข้มเขียนเส้นใต้แนวคิ้วเบา ๆ ต่อหางคิ้วออกไปนิดหน่อยตามเส้นแดงในรูปจ้ะ
เนื่องจากสีผมกับสีคิ้วไม่เข้ากัน ผมสีน้ำตาลบลอนด์่ แต่คิ้วสีเข้ม ตามทฤษฏีแล้วสีคิ้วต้องอ่อนกว่าสีผมเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนวัย ก็เลยต้องดรอปสีคิ้วลงหน่อยด้วย การใช้อายชาโดว์สีน้ำตาลอ่อนระบายผิวหนังใต้คิ้วให้ทั่วแนวคิ้ว หลังจากนั้นก็ใช้มาสคาร่าคิ้วปัดขนคิ้วให้ทั่ว โดยปัดไปทางด้านข้าง จัดขนคิ้วให้เรียงเป็นระเบียบไปในตัวด้วยค่ะ  รูปหลังแต่งคิ้วเสร็จดูดีมีราศีจับขึ้นเห็น ๆ

 

ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ เหนื่อยจัง การทำHow-to นี่ลำบากจริง ๆ เลยนะคะ 

มาจบขั้นตอนสุดท้ายกันที่ริมฝีปากกันเลยค่ะ

ขั้นตอนนี้สุดแสนจะง่ายค่ะ หลังจากทาลิปแคร์บำรุงริมฝีปากตามปกติแล้ว ก็ทาลิปสติกสีชมพูวิ้ง ๆ จากแท่งโดยตรงเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ลงไปให้เต็มปาก เป็นอันเสร็จพิธี  เนื่องจากเนื้อลิปเป็นแบบมีประกายจึงเสริมร่องในริมฝีปากให้เรียบเต็ม แล้วก็ทาให้เรียบได้ง่ายค่ะ

เสร็จขั้นตอนแต่งหน้าแล้วนะคะ คราวนี้เรามาทำผมกันต่อดีกว่า

ได้เวลาแกะที่ม้วนผมแล้วเย้ ๆ

ค่อย ๆ แกะที่ม้วนผมออกมาทีละอัน ๆ จนหมดทั้งศีรษะ จะได้ลอนเด้งดึ๋ง ๆ อย่างที่เห็นค่ะ  เนื่องจากกลัวจะไม่เป็นธรรมชาติก็เลยใช้นิ้วสาง ๆ ให้ลอนกระจายออกนิดหน่อย 


.........แล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินทางขึ้นรถโดยสารประจำทาง ต่อจักรยานยนต์รับจ้างไปงานแต่งเพื่อนที่อีกจังหวัดทันที   ลืมฉีดสเปรย์ให้ลอนอยู่ตัวอีกครั้ง หลังจากเดินทางอย่างสมบุกสมบัน ถึงโรงแรมที่จัดงาน ลอนผมก็คลายเกลียว เหลือลอนน้อย ๆ ดูสวยแบบไม่ตั้งใจไปอีกแบบหนึ่ง 

เปลี่ยนชุดแล้วก็ไปเฉิดฉายในงานได้เลย แบบ I don't care ค่ะ  

จบแล้วจ้ะ ขอบคุณที่ติดตามชมกันนะคะ ^_^