ระบาย & ระบาย ปัญหาชีวิตทั้งหมด

 
ขอโทษนะคะที่ทำให้กระทู้รก   แต่มันอึดอัดมาก ๆ จริง ๆ 
TT^TT



เราเป็นคนขี้เหงามาก ๆ   อยู่คนเดียวไม่เป็น
และเป็นพี่คนโตของบ้าน   ซึ่งต้องเก๊กทำเป็นว่าเรามีความเป็นผู้ใหญ่สูง
ที่บ้านเป็นครอบครัวคนจีน   จึงไม่ค่อยมีคำว่า "อ้อน" เกิดขึ้นในบ้าน

ใครที่มาอ้อนคนนู้นคนนี้   จะถูกมองว่าสำออยทันที

บางครั้งเราก็เหนื่อยนะ   กับการเก๊กว่าเรามีความรับผิดชอบสูง
ทำเป็นขรึม   ต้องคอยกระตือรือร้นทำนู่นนี่   ขยัน   เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่น้อง ๆ ในบ้าน
ทั้ง ๆ ที่บางทีก็อยากขี้เกียจ   อยากอู้บ้าง   แต่ถ้าทำอย่างนั้นเราจะโดนด่าคนแรกทันที

นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของปัญหาทั้งหมดที่เรามีตอนนี้



ฐานะบ้านของเรา   อยู่ในระดับปานกลาง   แต่สำหรับคนนอกอาจมองว่าฐานะดี
ป๊ารักและตามใจเราค่อนข้างมาก   ชอบซื้อของนู่นนี่ให้   จนบางครั้งแม่บอกว่าเราได้ของง่ายเกินไป
เราไม่ได้อยากได้ของอะไรหรอกนะคะ   พูดตรง ๆ 
เราแค่อยากให้ป๊ากับแม่เข้าใจเราบ้าง

ครั้งหนึ่งตอนเอ็นทรานซ์    เราอ่านหนังสือจนเหนื่อย
พอแม่ถามว่าอ่านหนังสือเป็นไงบ้าง
เราก็ตอบกลับไปว่า  "ก็ยากดีแม่     ท้อจัง   หนูจะเอ็นท์ติดไหมคะ"

แม่โมโหมาก   บอกกลับมาว่า  
"ถ้าไม่อยากเรียน   ก็ลาออกจากโรงเรียนซะ   พรุ่งนี้แม่ไปลาออกให้เลยมั๊ย"
ตอนนั้นก็วัยรุ่นอารมณ์ร้อน   ก็เถียงแม่ไป   ว่าเราไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นนะ
แม่ก็โกรธอีกที่เราขึ้นเสียงใส่
สุดท้าย   เราก็ได้แต่คิดในใจว่า  ทำไมแม่ไม่เข้าใจความรู้สึกของเราเลย

หลังจากวันนั้น   ก็ทำตัวเป็นเด็กดีในสายตาป๊ากับแม่ตลอด
มีโกหกบ้าง   เพื่อให้ป๊ากับแม่เห็นว่าเราเป็นเด็กดี   เขาจะได้สบายใจ
เราสอบเอ็นทรานซ์ได้ในคณะที่มีเกียรติ   ถือว่าเป็นคณะที่รวมคนระดับหัวกะทิของประเทศ
แต่ปมอะไรต่าง ๆ ในใจไม่ได้หายไปตามกาลเวลาเลย

ซึ่งเรื่องนี้   ก็นำไปสู่การมีแฟนตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย



โชคดีอย่างหนึ่งตรงที่   เรามีหัวคิดในการดำเนินชีวิตมากเพียงพอ   ที่จะไม่ทำอะไรโง่ ๆ 
คนไหนที่ทัศนคติไม่ตรงกัน   ในช่วงนั้นก็มักจะมีคนใหม่เข้ามา   ก็เลยรัก ๆ เลิก ๆ มาได้ 3 คน

คนแรก   เลิกเพราะเขาทิฐิสูง   ชอบคุยแต่เรื่องของตัวเอง   พูดอยู่เสมอว่าดวงของเขาเกิดมาสบาย   จะ
ไม่ลำบากตลอดชีวิต   แต่ทำอะไรด้วยตัวเองไม่เป็น   พูดคาดหวังให้เราทำอะไร ๆ ให้เสมอ

คนที่สอง  เลิกเพราะเขาเห็นแก่เงิน   ทำงานทุกอย่างเพื่อให้ได้เงิน   เห็นเงินคือพระเจ้า

จนถึงคนปัจจุบันนี้   คบกันตอนที่อยู่มหาลัยแล้ว
ทัศนคติในชีวิตตรงกันมาก   คุยกันได้ทุกเรื่อง   มีความเห็นและจุดมุ่งหมายในชีวิตเหมือน ๆ กัน
รักและเคารพในการเป็นตัวของเรามาก
ถ้าเราเดือดร้อนอะไร   เขายินดีช่วยเหลือตลอด
ไม่เคยนอกใจเรา   ไม่เคยปฏิบัติกับผู้หญิงคนอื่นแบบใกล้ชิดสนิทสนม   ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
มีก็แต่เย็นชาบ้าง   เพราะอายุค่อนข้างห่างกัน   



ชีวิตเราผู้ติดกับแฟนค่อนข้างมาก    เพราะความคิดลึก ๆ รู้สึกว่าเขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจเรา
หลายครั้งพยายามหัดอยู่คนเดียวให้เป็น    เพราะไม่อยากทำตัวให้เขารำคาญ

เราเริ่มหัดแต่งหน้า   เริ่มช้อปปิ้ง   เผื่อว่ามันจะช่วยให้เราอยู่คนเดียวได้มากขึ้น

ทุกครั้งที่เราเครียด   เราก็พยายามคุยกับแฟนให้หายเครียด   
แต่ถ้าเขาไม่มีอารมณ์อยากคุยตอนนั้น   ก็จะนำไปสู่การทะเลาะ
ซึ่งความเครียดมักเกิดขึ้นช่วงก่อนสอบทุกครั้ง   ทำให้การเรียนเริ่มตก    



มีอยู่ครั้งหนึ่ง   คิดอยากจะกลับไปหาพ่อแม่    อยากหลุดจากวงจรที่ต้องเฟคทำตัวเป็นเด็กดีเข้มแข็งกับพ่อแม่สักที
ตอนนั้นอ่านหนังสือสอบไม่ทัน    เลยโทรไปบ่นให้ป๊าฟังขำ ๆ ประมาณว่า  
"หนูไม่ชอบวิชานี้เลย    ไม่อยากอ่านแล้ว   อ่านเยอะ ๆ แล้วเบื่อมาก"

ไม่รู้ว่าเราเลือกใช้คำพูดผิด   ถึงได้ทำให้พ่อแม่เข้าใจผิดหรือเปล่า
แม่โมโหมาก   บอกมาด้วยประโยคเดิม ๆ ว่า  
"อยากไม่อยากเรียนก็ซิ่วไหม    พรุ่งนี้แม่ไปลาออกจากมหาลัยให้ตอนเช้าเลย
แล้วก็ไปเรียนดนตรีอย่างที่ตัวเองชอบ    อย่างนั้นดีมั๊ย"

เราร้องไห้หนักมาก   จนอ่านหนังสือต่อจากนั้นไม่ได้อีกเลย   ทำให้สอบตกวิชานั้น 

ความรู้สึกแรกจากการสอบตก   รู้สึกเฉย ๆ   ไม่ได้คิดอะไร   เพราะคิดแล้วว่ามันต้องสอบตก
คิดอย่างเดียวแค่   ไม่อยากเห็นหน้าพ่อแม่ทำหน้าผิดหวังใส่เราเลย

หลังจากนั้นก็ได้บทเรียนอันยิ่งใหญ่ว่า     เฟคกับพ่อแม่ไปเถอะ   ดีกว่าทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก




สุดท้าย   แฟนคือที่พึ่งทุกครั้งสำหรับเรา   เป็นคนที่คอยรับฟังเราทุกอย่าง   เข้าใจเราทุกอย่าง
เรารักแฟนเรามาก

ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านช่วงปิดเทอม
แฟนก็กลับบ้านเช่นกัน
ทำให้ไม่ได้คุยกันเลย    โทรไปเขาไม่รับสายเสียเป็นส่วนใหญ่   โดยเขาบอกว่าไม่ว่าง
เราเชื่อใจแฟนนะ
แต่มันเหงามาก   เพราะปกติคุยกันทุกวัน   และโทรหาทุกครั้งที่มีโอกาส

เขาไม่โทรหาเราเลย

ไม่มีแม้ sms

พยายามมองโลกในแง่ดีมาก ๆ      ว่าเขาไม่ว่าง    แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้จริง ๆ 



พอแฟนไม่ว่าง   เราก็ไม่เหลือใคร   ไม่รู้จะระบายออกมายังไง

อยากบ่นให้เขาฟัง   ว่าอึดอัดมาก ๆ ที่ต้องทำตัวเฟคตลอดเวลาที่อยู่บ้าน   ว่าเราเป็นเด็กดี

ป๊า  แม่  กับผู้ใหญ่ในบ้าน    เห็นเราแต่งหน้า   ก็ไม่พอใจ   ด่าว่าบ้างล่ะ   เพราะบ้านเราไม่มีใครแต่งหน้า
เราดูแลสุขภาพ    ออกกำลังกาย   พอกหน้า   ทาโลชั่น   คนที่บ้านก็บอกว่าเราสำอางค์เกินไป

บ่อยครั้งที่เราทำนู่นทำนี่ให้คนที่บ้าน    เพราะรู้ว่าเขาชอบ
กลับถูกมองว่า   ทำดีเพราะอยากได้ของ   หรือทำเพื่อตัวเอง
ทั้ง ๆ ที่ในหัวไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย

ทำอะไรไม่เคยพอใจคนที่บ้าน     เราพยายามทำดีแค่ไหน    ถ้าไม่ถูกใจ   ก็ถูกด่าตลอด
ไม่เคยฟังเหตุผลหรอกว่าเราทำแบบนี้   เพราะหวังดีกับเขามากแค่ไหน

ทำอะไรพลาด    ถูกด่าซ้ำเติมตลอด    แต่ถ้าทำอะไรดี   ก็ไม่เคยได้รับคำชม

พอแม่รู้ว่ามีแฟน   ก็โดนด่า   "ความรักจากคนที่บ้านมีไม่พอใช่ไหม   จึงต้องหาความรักนอกบ้าน"



ถ้าเป็นไปได้    อยากแลกเงินทองของมีค่าทั้งหมดที่มี   แลกชื่อเสียงเกียรติคณะที่เรียน
เพียงแค่ขอให้เราอยู่บ้านอย่างมีความสุขเหมือนกับคนอื่น ๆ เขาบ้าง






เนี่ยแหละนะ...   กิเลสของคน

อยากได้อะไรในสิ่งที่ตัวเองไม่มีเสมอ  TT^TT


Discussion (23)

เป็นเหมือนเราเลย  แต่เราแย่กว่าอีก ถึงจะมีแฟนไปเล่าอะไรไปเค้าก็ไม่เคยเข้าใจ แต่ก็นะ บ้านเค้ากะบ้านเรามันคนละบ้านกัน แค่เล่าให้ฟังมันจะไปรู้รสอะไรเท่ากับได้เจอด้วยตัวเอง  จิงมั้ยคะ
 
ตอนนี้เราก็ไม่อยากอยู่บ้าน เราเป็นเหมือนหลายๆคนที่บอกว่าอยู่บ้านตัวเองแล้วอึดอัด  นึกว่าจะมีแค่เราคนเดียวที่เป็นแบบนี้ ซะอีก 

เห้อออ เป็นเหมือนกันอะค่ะ
อยู่บ้านแล้วอึดอัด แปลกๆ พูดไม่ถูกเหมือนกัน

มาเป็นกำลังใจให้ จขกท อีกคนค่ะ

สู้ ๆนะคะ ใครไม่เข้าใจเรา ก้ปล่อยไปเถอะ (เพราะเราคงแก้ไขอะไรไม่ได้)

อย่างน้อยเรา เข้าใจตัวเอง ว่าเรากำลังทำอะไร ทำเพื่อใคร ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ





 

/me กอดๆ

ไม่รู้จะหาคำพูดอะไรดีน่ะค่ะ แหะๆ กอดแทนแล้วกัน ^^

เราเองก้อเจอเรื่องคล้ายๆกันนะ  เราก้อเข้าใจ ตอนนี้เราเองก้อทุกข์มากเหมือนกัน

เราเป็นลูกคนเดียวแต่แม่เอาลูกน้องชายมาเลี้ยงอีกคน แก่กว่าเราก็เป็นพี่สาว

เราไม่เคยได้ในสิ่งที่เราขอแม่ เราไขว่ขว้าให้ได้มาเอง

ส่วนพี่เราเหรอ แม่ให้ทุกอย่าง

แม่บอกเราว่า เค้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ แต่เรามีทุกอย่าง เราต้องให้เค้าก่อน

เราก็พูดไรไม่ออกเหมือนกันนะ จนมาตอนนี้พี่สาวไปอยู่เมืองนอก เรียนโทมาหลายปียังไม่จบ

ใช้เงินไปหลายล้าน ประจวบกับลุงที่เลี้ยงเรามาด้วยกันป่วยหนัก ค่าใช้จ่ายก็มาตกอยู่กับแม่

เราได้แต่แบกรับปัญหา เราเพิ่งเรียนจบ อยากพัก แต่แม่กับบังคับให้เราทำงาน

ถามเราว่าจะหายใจทิ้งไปทำไม แม่ไม่ถามเราด้วยซ้ำว่าอยากไปเมืองนอกรึเปล่า

เราแค่อยากให้แม่ถาม แค่อยากรู้ว่าแม่จะสนใจไหม เราอยากไปนะ แต่เราก้อพูดไม่ได้

ค่ารักษาพยาบาลมันมากมายเหลือเกิน เราเองก็คงไม่ต่างกัน ทุกข์เหมือนกัน

เราเองก้อแค่อยากให้แม่ถามเราบ้างว่าเราไหวไหม อยากได้ไรรึเปล่า

ไปเที่ยวไหนไหมเราก็หวังแค่นี้เหมือนกัน