ขอคำปรึกษา...เมื่อเพื่อนไปทำบริษัทขายตรง

จริงๆโดนมาซักพักแล้วค่ะ อดทนมาตลอด ตอนนี้อยากได้คำปรึกษาจากสาวๆหน่อยค่ะว่าเราจะพูด
กับเพื่อนคนนี้ยังไงไม่ให้เสียน้ำใจกัน

เรื่องมีอยู่ว่าเรารู้จักเพื่อนคนนี้ผ่านเพื่อนของเราอีกที ไม่ได้คุยสนิทอะไรมาก
จนประมาณต้นปีเขาก็โทรมาคุยถามทุกข์สุข ถามว่าได้งานยังแล้วก็พูดกับเราว่า

"นี่ๆเสาร์ที่จะถึงนี้ว่างไหม? เราอยากไปฟังสัมนาอ่ะน่าสนใจมาก ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ ไม่มีคนไปเป็นเพื่อน"
พอเราถามก็ไม่ยอมบอกค่ะ บอกว่าเป็นสัมนาเชิงธุรกิจ เราเลยบอกว่าไม่ว่าง ก็เลยไม่ได้คุยกันไปพักนึง
(อันนี้เธอโทรมาหาเราตอนตี 2 ค่ะ)

ช่วงกุมภาเราไปเที่ยวกับคุณแฟนค่ะ เพื่อนคนนี้ก็โทรมาค่ะถามว่าอยู่ไหน เราเลยบอกว่าอยู่สยามกำลังกินข้าว
เธอคนนี้ก็ถามว่าแถวไหนอยู่สยามเหมือนกันจะเข้าไปทัก แล้วเธอก๋มาจริงๆค่ะ - -" พอเห็นคุณแฟนด้วย
เธอก็ชวนคุย แต่ที่แย่คือเธอเอาโบรชัวมาอวดเราค่ะ......ด้วยการวางบนโต๊ะแล้วก็ถามใหญ่ว่าเราสนใจตัวไหนบ้างไหม?
คุณแฟนเราหน้ามุ่ยเลย พอตื๊อมากๆแฟนเราก็บอกกลับไปว่า "ไหนบอกจะมาทักทาย? มาทักหรือมาขายของ?" แล้วก็หายไป

ล่าสุดเมื่อกี้เธอโทรมาหาเราค่ะ ถามว่าเย้นนี้เราว่างไหม? จะชวนไปกินข้าว แต่เราปฏิเสธไปแล้ว บอกว่าโอกาสหน้าละกัน
วันนี้เลิกงานดึก (จริงๆวันนี้เราโดดงาน *-*")

จริงๆเราเคยคุยกับเพื่อนสนิทของคนนี้ เพื่อนบอกเลยค่ะว่าเลิกยุ่งตั้งแต่ไปทำขายตรงชวนซื้อของไม่หยุด
หายใจเข้า-ออกเป็นขายของ ตอนนี้เพื่อนหลายคนเริ่มไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว โทรมาก็ไม่รับสาย บล๊อคMSN
แต่ทุกคนก็อยากบอกเขาตรงๆเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะบอกยังไงดี?

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ ^^

Discussion (14)

เราคงเป็นนักขายที่ไม่ดีมั้งคะ ปกติเพื่อนเราเค้าก็รู้ว่าเราทำขายตรง แต่เราก็ไม่เคยจะก้าวล่วงไปชวนซื้ออะไรหรือแม้กระทั้งลูกค้าเราเอง เรากะแค่ยื่นข้อเสนอต่างๆให้แล้วรอการตัดสินใจ ให้คำแนะนำเท่านั้น ส่วนกะเพื่อนๆถ้าเค้าไม่เอ่ยปาก เราก็ไม่เปิดการขาย อยากเจอคนที่สนใจมากกว่าซื้อเพราะเกรงใจนะคะ
55555 อยากหัวเราะแต่หัวเราะไม่ออก
ป้าจ๋าก็เคยเจอค่ะ
ตอนนั้นเพิ่งคลอดลูกคนโตได้ไม่กี่วัน มันมาแล้วเพื่อสมัยมัธยมมันมาขายประกันค่ะ
สรุปไปสรุปมาต้องจ่ายปีละ 30000 กว่า โคตรแพง
คุยไปคุยมาเกรงใจมันแต่พักหลังมันจะออกแนวว่าถ้าเราไม่ซื้อกลายเป็นเพื่อนไม่ดีไมช่วยเพื่อนสรุปไม่ซื้อค่ะ
ปิดบ้านปิดม่านหนีเลย
แต่มันยังวนเวียนอยู่หน้าบ้าน
หลังจากนั้นเจอใครก็พูดเรื่องเจ้าหมอนี่แหละ และไม่คบมันอีกเลย

ประเด็นต่อมา
พวกขายตรง
ตอนนี้ Agel กับ น้ำมันรำข้าวโคตรระบาดยิ่งกว่าหวัด 2009
ป้าจ๋าก็เซ็งมาก เจอพวกนี้หลอกหลอน
เพื่อนป้าจ๋าขายจนได้เบนซ์แล้ว....
ดิฉันพอใจขับ toyota ต่อไป
เพื่อนก็จะแอบสมเพชในใจว่า " ไม่รู้จักความเจริญก้าวหน้า " 
สรุป ใครไม่อยากมีเพื่อนให้ขายประกันและขายตรง เพื่อนหายหมดแน่นอน
เหมือนกัลเยย
เพื่อนสมัยเรียน ยึ๋ย สมัยเรียน เล่นซะนาน
ไม่เคยโทรมาเลย ตั้งแต่จบ
อยู่โทรมาจะมาหาให้ได้ จะให้สมัครขายตรงให้ได้
ก็เลยปฎิเสธไปตรงๆ

แถมยังมาบอกว่า ไม่อิจฉาเหรอคนอื่นเค้ามีรถ
มีบ้านเที่ยวต่างประเทศ

เราก็เลยตอบว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับความสุข
เอามา อวดอ้างซะงั้น

เราก็ปฎิเสธสุดตัวนะ
แล้วก็เงียบไปเลย  ไม่โทรมาอีกเลยทั้งที่ตอนแรกๆ โทรเช้าเย็น

ขายประกันชีวิตกลับไปสิคะ รับรองหายวับไปในบัดดล และไม่กล้าโทรหาเราอีกเลย เคยใช้มาแล้วเวิร์คมาก 555+++
 

 อ่านบทความคุณแอนดรูว์แล้วเห็นด้วยทุกอย่างเลยค่ะ    
และจริง ๆ ก็น่าสงสารคนที่เค้าเข้าไปทำธุรกิจตรงนั้น
แล้วจะต้องติดงอมแงมอย่างนั้นน่ะค่ะ  

และก็เห็นด้วยมากค่ะ ที่จะส่งบทความนี้ไปให้เพื่อนอ่าน  
ยังไงก็ขอให้มิตรภาพของเพื่อนเป็นมิตรภาพดีๆ ตลอดไปนะคะ  ..