เมื่อฉัน ป่วยเป็น โรค SLE หรือ โรคพุ่มพวง
*NANA*89เราป่วยเป็นโรคพุ่มพวงมานานแล้ว แต่เพิ่งรู้ตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากเรา มีอาการคันเมื่อโดนฝุ่นละออง ตอนแรกเป็นนิดเดียว ก้อเลยไม่ไปหาหมอ พอเป็นหนักเข้ากินยาก้อไม่หาย ไปหาหมอผิวหนังทุกที่ก้อไม่หาย ตอนแรกในใจเราคิดว่าเป็น เอชไอวีป่าวว่ะ ก้อเลยเสริตหาข้อมูลดู ไม่มีอาการไม่ตรงนิว๋า ตรงอย่างเดียวคือคัน แฟนก้อให้ไปตรวจเลือดด้วยที่โรงพยาบาล(เพราะแฟนบอกว่าไม่ไว้ใจแฟนเก่าเขาทั้งๆที่เลิกมา3 ปีแล้ว)เราก้อไปตรวจหา เอชไอวีด้วย ตรวจตอนเช้าผลออกประมาณ 4 โมง ไม่มีผลเลือดบวกทั้งคู่ แต่คุนผู้ ญ เป็นโรค sle งง!!!!!! มันคือโรคอะไรค่ะ หมอบอกว่า เป็นโรคเหมือนพุ่มพวงคับ ตกใจเล็กน้อย แต่น้ำตายังไม่ไหล ไอ้คนน้ำตาไหล คือคุนแฟนค่ะ ร้องไห้นำไปก่อนแระ หมอแนะนำแค่ว่าตัวเรามีประกันสังคมไหม เพราะค่ายาต่อเดือนประมาณ 20000 (โอ้ว..แม่เจ้า) เราก้อเลยกลับบ้านไปปรึกษากับ แม่แฟน พี่แฟน (เราไม่อยากให้ที่บ้านรู้ แต่ที่บ้านพึ่งรู้เมื่อเดือนที่แล้วเองอ่ะ) พี่แฟนจะออกค่าใช้จ่ายให้ เราบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ เพราะมันต้องกินตลอดชีวิต เราก้อเลือกใช้ประกันสังคม ตอนนี้รักษามาเกือบ 4 เดือนแระ อาการก้อเบาบ้างบางเวลา แฟนเราตะก่อนชอบเที่ยว พอเป็นโรคนี้แฟนเราเปลี่ยนไปมาก เลิกเที่ยว เลิกบุหรี่ ดูแลอย่างดี บังคับให้ออกจากงาน(แต่เราไม่ออกแบบว่างกค่ะ) ทางบริษัทก้อใจดีให้เราหยุดรักษาตัวให้หายก่อนค่อยมาทำงานแถมจะะออกค่ารักษาให้ที่นอกเหนือจากประกันสังคม หมอที่รักษาอยู่พูดจาดีม๊ากมาก ให้กำลังใจดีมาก นับจากนี้จะเป็นยังงัยไม่รู้ รู้แต่ว่าทำอย่างไรให้ชีวิตอยู่ได้นานที่สุด และมีฟามสุขที่สุด
ปล..แฟนขอแต่งงานปีหน้า คนเราไม่โชคร้ายเสมอไป
ปล..แฟนขอแต่งงานปีหน้า คนเราไม่โชคร้ายเสมอไป
Discussion (89)
อย่างที่ทุกคนบอกอ่ะครับ ,, ภายใต้ความเลวร้าย
ก็ยังมีเรื่องดีดีอยู่เสมอ เป็นกำลังใจให้นะครับ
สำหรับว่าที่เจ้าสาว ของเราทุกคน ,,
ก็ยังมีเรื่องดีดีอยู่เสมอ เป็นกำลังใจให้นะครับ
สำหรับว่าที่เจ้าสาว ของเราทุกคน ,,
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยค่ะ
ยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยค่ะ
แฟนเก่าเราเป็นโรคนี้ค่ะ โรคนี้รักษาไม่หาย แล้วแต่มันไปที่อวัยวะไหน อาการมันจะออกที่นั่น แต่สามารถควบคุมได้ แบบว่าต้องกินยาสม่ำเสมอ ยาเสตรียรอยด์ กินแล้วมีอาการข้างเคียงเยอะเหมือนกันค่ะ เช่นผมบาง ตอนนี้ต้องไปผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเพราะเลือดไม่ไปเลี้ยง เป็น effect ของยาค่ะ แต่ช่วงที่อาการดีขึ้นก็ลดปริมาณยาลงค่ะ ต้องไปหาหมอประจำ ห้ามโดนแดดเลยนะคะ
ลองเข้าไป web thai-sle นะคะ ได้ความรู้มากมาย มีเว็บบอร์ดเกี่ยวกับโรคนี้ และมีเพื่อนๆสมาชิกที่เป็นโรคนี้ให้คำแนะนำได้เยอะค่ะ
ยินดีกับว่าเจ้าสาวด้วยนะคะ
สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจ
รักษาสุขภาพ อย่าเครียดนะคะ
คนที่แย่กว่าเรายังมี อะไรไม่ดีๆ ก็ตัดทิ้งออกไปอย่าเอามาคิดให้รกสมองเลยนะคะ^^
ยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยนะคะ ตักตวงความสุขใส่ชีวิตเยอะๆ นะคะ
สู้ๆคะ
รักษาสุขภาพ อย่าเครียดนะคะ
คนที่แย่กว่าเรายังมี อะไรไม่ดีๆ ก็ตัดทิ้งออกไปอย่าเอามาคิดให้รกสมองเลยนะคะ^^
ยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยนะคะ ตักตวงความสุขใส่ชีวิตเยอะๆ นะคะ
สู้ๆคะ
มาดูการรักษาโรคนี้กัน
การฟื้นฟูรักษาด้วยชีวะโมเลกุล สำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันนี้คนเราเกิดภาวะตรึงเครียดเนื่องด้วยหลายๆสาเหตุ และปัจจัย ทำให้ร่างกายและจิตใจของเกิดโรคต่างๆขึ้นมากมาย แต่พวกเรายังโชคดีที่ว่ามีการค้นพบการป้องกันสภาพที่เสื่อมโทรมนี้
โดยปรัชญาเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญพื้นฐานสำหรับการมีสุขภาพที่ดีคือ แสงแดด, ออกซิเจน, น้ำ, การได้รับสารอาหารที่สมดุล และ การออกกำลังกายที่เพียงพอ
การวิจัยใหม่ค้นพบว่าห้าข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต แต่เนื่องด้วยชีวิตปัจจุบันทำให้สิ่งต่างๆ สารอาหาร น้ำดื่ม อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ การได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือผิดช่วงเวลา ทำให้เราได้รับสิ่งไม่มีคุณภาพเพียงพอเราจึงต้องอาศัยตัวช่วยเพื่อให้ได้รับสิ่งสำคัญที่เพียงพอ
ผลของการบำบัดด้วยเซลล์ :
-ต่อต้านความชราและการแก่ก่อนวัยอันควรที่เกิดจากความเหนื่อยล้าทั้งทางร่ายกายและจิตใจ
-ฮอร์โมนไม่สมดุลและไม่มีประสิทธิภาพของต่อมไร้ท่อ
-ปัญหาเรื่องความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ, ความเจ็บป่วยเนื่องจากความเครียด
-อาการอ่อนล้าเรื้อรัง(Chronic Fatigue Syndrome CFS)
-การพักฟื้นหลังจากโรคหรืออุบัติเหตุ
-กระดูกสันหลังและไขข้อเสื่อม
-ความบกพร่องของกล้ามเนื้อและระบบประสาทบางประเภท
-โรคเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเยื้อเรื้อรัง
-ปัญหาระบบหมุนเวียน
-โรคเกี่ยวกับระบบย่อย
-ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสภาพและการติดเชื้อ
-การสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะขึ้นมาใหม่
-ภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการอักเสบ
-การควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ
-โปรโมทและบำรุงรักษาการหมุนเวียนเลือด
-เพื่อให้มั่นใจการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการรักษาบาดแผล
-การเพิ่มประสิทธิภาพของการฟื้นฟูระบบประสาท
-ควบคุมความสมดุลของระบบฮอร์โมน
-ปรับปรุงระบบทางเดินอาหารที่จะนำไปสู่การกำจัดอาการท้องผูก
-เพิ่มความยืดหยุ่นที่ข้อต่อและหมอนรองกระดูก
-ปรับปรุงการรับรู้และการตื่นตัวของสมองและเสริมสร้างความชุ่มชื้นของผิวหนังชั้นนอกซึ่งนำไปสู่ผิวที่กระชับ สดใสและเรียบเนียน
-เพิ่มความหนาแน่นของชั้นหนังแท้โดยการเร่งคอลลาเจน