ความรู้เรื่อง --สิวๆ
BoBe6สืบเนื่องจากตอนนี้สิวอุดตันบุกข้างแก้ม ทั้ง 2 ข้าง เราเลยเครียด จิตตกแบบไม่ไหวแล้ว
เลยตัดสินใจไปหาหมอที่ รพ. รามคำแหง ได้ยา มา 3 ตัว
1. Benzac 5% (ทาทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก)
2. Isotrexin หลอดเขียว (แต้มเป้นจุดๆ บางๆ ก่อนนอน)
3. Robaz (ทาทั่วหน้า เช้า - ก่อนนอน)
พอกลับมาบ้านอ่านฉลากดู โอ้วแม่เจ้า .. สรรพคุณแต่ละตัว สุดแรงงงส์ จนอยากจะกลับไปถามคุณหมอว่า
"คุณหมอคะ จัด มา ชุดใหญ่แบบนี้ คือหน้าหนูมันอาการ หนึก รึว่า ดุหนาจน ไม่เกิดระคายเคืองแน่ๆ คะ? " (55+ แซวเล่นนะคะ *v*)
อ่านฉลากเสร็จ เรานั่งชั่งใจอยู่นานนน ประมาณ 2 ชม. จนแบบ เอาก็เอาวะ อยู่ในมือหใอ ต้องไว้ใจสิ
แต่ก็แอบหาข้อมูลนั่นนี่
ที่หนักใจก็คือตัว Isotrexin ที่บางคนก็ชมว่าดีมากมาย แต่บางคนก็แพ้เกินบรรยาย ไอเราก็ เลยลองทาแค่บางจุด ประมาณว่าถ้ามันเห่อ จะได้เป็นไม่มากจนเกินรับไหว
ตอนนี้ทาครบชุดไป 2 วันแล้ว มันแอบดันสิวออกมา แต่ก็ไม่ได้เม็ดเป้งไรมาก แอบรู้สึกดีมากกว่าที่มันจะลาจากรูขุมขนฉันไปซักที 55+ สะใจ
By the way, แอบเอาข้อมูลมาให้เพื่อนๆ อ่าน เผื่อจะเป้นข้อมูลเป็นกำลังใจได้บ้างนะคะ ^^
สิว (Acne)
ชนิดของสิว แบ่งเป็น
1.2 สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ (blackheads หรือ open comedones)
2.สิวอักเสบ คือสิวที่หัวแดง ๆ หรือ เป็นหนอง ซึ่งพวกนี้ก็คือ comedone ที่มีการติดเชื้อBacteria แทรกซ้อน
สิวจากเครื่องสำอาง มีลักษณะเป็นสิวอุดตันตุ่มเล็กๆ และสิวหัวหนองรอบๆ ปากจึงควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่เหนียวเหนอะหนะ
สิวจากเจลใส่ผม ซึ่งพบบ่อยในวัยรุ่นชายไทยขณะนี้ เพราะนิยมแฟชั่นผมตั้ง พบเป็นสิวอุดตันตามหน้าผากและขมับ
สิวจากสเตียรอยด์ พบเป็นเม็ดมีขนาดเท่าๆ กัน ตามใบหน้า หน้าอกและหลัง อาจเกิดจากการกินเจือปนสารสเตียรอยด์
สิวจากเชื้อเกลื้อน ที่พบเป็นตุ่มแดงและตุ่มหนองเล็กๆ ที่หน้าอกและหลัง มีอาการคันร่วมด้วย (สิวทั่วไปไม่คัน)
สิวหน้าแดง พบในคนอายุ 30 ปีขึ้นไป มีลักษณะเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนองเล็กๆ และเส้นเลือดฝอย การดื่มแอลกอฮอล์และโดนแสงแดดจัด ทำให้สิวชนิดนี้กำเริบได้ และหากเป็นนานๆ จะทำให้จมูกโตผิดรูปร่าง
- 1.2.1 ต่อมไขมันเริ่มสร้าง sebum เมื่ออายุ 3 เดือนและลดการสร้างจนวัดระดับ sebum ไม่ได้เมื่ออายุ 6 เดือน
- 1.2.2 เริ่มสร้าง sebumใหม่เมื่ออายุ 7-8 ปีและเพิ่มจนมากที่สุดเมื่ออายุ 16-20 ปี ระดับsebumคงที่ และจะลดลงเมื่ออายุ 40 ปี ในผู้หญิง เมื่ออายุ 50 ปีในผู้ชาย
- 1.2.3 ยิ่งมีการสร้าง sebumมากก็ยิ่งมีการสร้าง comedone มากก็เกิดสิวตามมา คนเป็นสิวส่วนใหญ่มีระดับฮอร์โมนเพศปกติ
1.5 ความเครียด ท้องผูก เนื่องจากความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันหลั่งไขมันออกมามากขึ้น
1.ร่างกายอ่อนแอ เชื้อ Becteria ในสิว ทำให้มีการอักเสบมากขึ้น
2.Hormone เปลี่ยนแปลง
วิธีปฎิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดสิว มีดังนี้
1. ถ้าเป็นสิวไม่อักเสบ เม็ดเล็กๆ จำนวนไม่มาก ก็ทำความสะอาดผิวหนังและใช้ยาทารักษาสิวบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการอุดตันของไขมันในรูขุมขน (comedone) ก็พอจะช่วยให้สิวลดลงหรือป้องกันไม่ให้สิวใหม่เกิดขึ้น
2. ถ้าเป็นสิวอักเสบ คงต้องปรึกษาแพทย์ เพราะต้องใช้ปฏิชีวนะ (รับประทานหรือทาเฉพาะที่แล้วแต่ความรุนแรงของสิว) ซึ่งควรจะต้องรีบรักษา และหลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็น รอยบุ๋ม ขึ้นภายหลังซึ่งรักษายากมาก
-ส่วนมากต้องใช้เวลานาน 2-4 สัปดาห์ขึ้นไป
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียง
-มีผลต่อทารกในครรภ์ ห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์
-ความผิดปกติของตับ และ ไขมัน etc.
ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นสิวไม่รุนแรงมากนัก หรือใช้ร่วมกับยารับประทาน ในรายที่เป็นสิวรุนแรง
-Retinoic Acid
-1% Clindamycin solution
-4% Erythromycin gel
ยาที่จะกล่าวถึงมีดังนี้
1.Benzoyl Peroxide
มีขายตามท้องตลาดทั่วไปหลายขนาด เช่น 2.5%,5% ในรูปของ cream หรือ gel เช่น Panoxyl,Benzac , Brevoxyl
การทำงาน
-ฆ่าเชื้อ P.acne,ลดการอักเสบ และลดปริมาณไขมันที่ผิวหนัง
วิธีใช้
-ทาวันละ 5-10 นาที วันละ 2 ครั้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำธรรมดา หรือ สบู่อ่อน
ผลข้างเคียง
-อาจเกิดการระคายเอง หรือ แพ้โดยมีอาการคัน หน้าแดง ผิวแห้ง หรือ ลอกเป็นขุย
|
2.Retinoic Acid แบ่งเป็น
|
3.ยาทาในกลุ่มของยาปฏิชีวนะ ที่ใช้กันค่อนข้างบ่อย คือ Clindamycin Lotion หรือ Erythromycin Lotion/Gel
การทำงาน
ลดปริมาณของเชื้อ P.acne ลดการอักเสบ วิธีใช้
ทาวันละ 2 ครั้ง
ผลข้างเคียง
อาการระคายเคือง หรือ แพ้
|
4.ยาในกลุ่ม Salicylic Acid
ส่วนมาก จะผสมในรูปของ Lotion เช่น Acne Lotion ออกฤทธิ์โดยเป็น Comedolytic ซึ่งส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ใช้ตอนก่อนนอน เพราะเวลาทาแล้ว จะมีลักษณะคล้ายแป้งสีขาวบนใบหน้า |
1. ใบหน้า
ถ้าหน้ายังมันอยู่ อาจใช้กระดาษซับมัน (ซับเบาๆเท่านั้น ไม่ใช่ถู)
1) ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นไม่มาก อาจใช้ยาทาเฉพาะที่ แต่ในกรณีทีเป็นมากอาจต้องใช้ยารับประทาน
ซึ่งควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผิวหนังเพราะการรักษาสิวส่วนมาก ใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนานและ
ยาบางชนิดมีอันตรายร้ายแรงได้
- รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอเพื่อลดความมันบนใบหน้า เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรงๆ
- เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไขมัน หรือมีส่วนผผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดสิว
- ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า
- อย่าใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสใบหน้า
- อย่าบีบหรือแกะสิว เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น
- อย่าปล่อยให้ผมมัน สำหรับผู้ที่มีผมมันมีรังแค ควรสระผมบ่อยๆ พร้อมทั้งงดการใช้น้ำมันใส่ผม
- หลีกเลี่ยงความเครียด อารมณ์หงุดหงิดและการนอนดึก
Discussion (6)
เราชอบเป็นสิวอุดตันบ่อยๆทั้งหัวเปิดและหัวปิดเลย T_T
ขอบคุณมากกก
เราเองก็รักษาสิวเอง จากแต่ก่อนเป็นเยอะมากกกกก
ทั้งหน้าทั้งตัว ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่เม็ดแล้วว
แต่ยังเหนื่อยใจกับรอย เฮ้ออออ
รักษากันต่อไป สู้!!!
หาหมอมาเป็นปีแร้วไม่หายซะที
ขอบคุนข้อมูลน๊า
ขอบคุณสำหรับความรู้คะ
แต่อยากถามนิดนึงอ่ะค่ะ ตัว Isotrexin ช่วยเรื่องอะไรอ่ะคะ
วันนี้ไปบูทแล้วเห็น แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร > <'