หนีบผม ภัยร้ายใกล้ตัว

ขอแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำผมค่ะ
เมื่อวานไปยืดผมมาค่ะ เป็นร้าน ๆ นึงในเชียงใหม่  พี่เค้าได้ที่ 2 แชมป์ยืดผมของชิ
เลยค่อนข้างมั่นใจ เมื่อก่อนไปร้าน ๆ นึงบนห้าง  ปรากฏว่าโดนหลอกค่ะ
บอกว่ายืดชิเชโด แต่เค้าแอบไปปรุงน้ำยาเองหลังร้าน เราไปยืดหนิคะ คิดว่าร้านใหญ่
คงไม่ทำหรอก เชื่อใจเต็มที่ค่ะ  สุดท้าย เป็นน้ำยาอะไรไม่รู้
ผมยืดออกมา ปกติ ผมหยิกเป็นลอน แต่ผลที่ได้คือ ออกมาเปนหมูหยอง หยิก ๆ ตรง ๆ
ตอนนี้ เลยเข็ดค่ะ เสียแพงหน่อย ไปร้านที่น่าไว้ใจ เทน้ำยาให้เห็นต่อหน้าแล้วกัน
เลยตัดสินใจยืดร้านนี้

ก่อนการยืดก็มีการซักประวัติกันค่ะ

ผมของเราเป็นผมหยิก  เคยยืดเมื่อปีที่แล้วตอนนี้ผมที่เคยยืดก็อยุ่ส่วนปลาย ๆ
ส่วนตรงโคนหยิกมาก และเมื่อเดือนที่แล้วก็เพิ่งไปทำสีมาค่ะ
เจ้าของร้าน ขอเรียกว่า พี่พร ละกันนะคะ

พี่พร : น้องไปทำสียี่ห้ออะไรมา
เรา: palty ผสม เรฟร่อนค่ะ 
พอพี่เค้าได้ยินคำว่าพัลตี้ถึงกับ อึ้งเลยทีเดียว
เค้าบอกกับเราว่า น้ำยาพัลตี้ ทำแล้วสีออกมาตามข้างกล่อง แต่ทำให้ผมเสียมาก ทำเคมีไม่ค่อยติด
กับอีกตัวที่เป็นตุ๊กตาบลาย มาแต่ละคน ทำยากมาก พี่เค้าก็บอกว่า ถ้าจะทำสี แนะนำให้เปนพวก ลอริออล หรืออันอื่นดีกว่า
ถึงสีจะไม่กินผมมาก แต่ก็ไม่ทำให้เสีย เพราะน้ำยาไม่ได้แรง ขนาดนั้น

แต่พอเราบอกเค้าว่า แต่ใช้ ตัว สีขาว ๆ ของ เรฟร่อน แต่ใช้ของ พาลตี้นิดเดียว เค้าเลยโล่งอกไป


แต่ภัยร้ายที่ใกล้ตัวที่สุดที่เราต้องการจะบอกคือ

การหนีบผม  นั่นเอง

พี่เค้าบอกว่า ซากดัด ซากยืด หรือซากทำสี  รวมกัน 3 อัน ยังไม่เท่ากับซากหนีบบ่อย ๆ
ใครผมหยิกก็จะรู้แหละค่ะว่าการที่เรา หัวฟูข้างบนแล้วข้างล่างตรงนั้น มันน่าเกลียดแค่ไหน
ความคิดของเราอย่างแรกคือ ต้องหนีบเท่านั้น

แต่ในทางที่พี่เค้าบอก คือ การที่เราหนีบผมบ่อย  จะทำให้เกล็ดผมเปิด และไม่รับเคมี ใด ๆ ทั้งนั้น
สุดท้าย พี่เค้าหั่นคะ หั่นผม ที่เป็นซากหนีบที่ไม่รับเคมีแล้วทิ้งทั้งหมดดก่อนยืด
เสียดายมากค่ะ  จึงอยากมาเตือนเพื่อน ๆ ค่ะว่า

การหนีบผม มันเป็นภัยร้ายแรงมาก ถ้าเป็นไปได้ควรพักผมให้มาก ๆ
ตัวกันความร้อนมันช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกค่ะ
ไม่อยากให้โดนหั่นผมไปแบบนี้ เสียดายก็เสียดายค่ะ