ผลแอดมิดชั่น.......เคลียด เคลียด ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

 

Discussion (35)

อย่าเศร้าไปเลยค่ะ...สิ่งที่น้องเลือกเป็นสาขาวิชาที่น้องอยากเรียน เป็นสิ่งที่น่ายินดีนะคะ...
เป็นคนนึงเป็นตัวอย่างของการตัดสินใจผิด...โดยเลือกชื่อเสียงของมหาลัยและตามใจพ่อแม่...
แต่ไม่ได้เป็นคณะที่อยากเรียน...ทำให้เวลาเรียนมันคือช่วงเวลาที่ไม่ความสุขกับสิ่งที่เรียน...หาความกระตือรือร้นไม่เจอ...เรียนไปวันๆเอาแค่ผ่าน...คือใจจริงอยากเรียนมหาวิยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งและเป็นคณะที่อยากเรียนมาก แล้วก็สอบติดแล้วด้วย...แต่ที่บ้านไม่เห็นด้วย...ทำให้รู้สึกผิดมาถึงทุกวันนี้ว่าถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเองและเรียนในสิ่งที่เรารัก...อะไรหลายๆอย่างคงจะดีกว่านี้...เพราะฉะนั้นอย่าได้เสียใจเลยค่ะ บางทีชื่อเสียงมหาลัยก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดอนาคตเรานะคะ...เราเป็นคนกำหนดอนาคตเราเองค่ะ...สู้ๆ

โอ้วว อย่าคิดมากค่ะ
ผู้ใหญ่เค้าก็เป็นอย่างงั้นแหละ
ชอบดูถูกมหาวิทยาลัยว่า
จะต้องเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังเท่านั้นถึงจะเก่ง

ความจริงแล้วมันไม่ใช่หรอกค่ะ
อย่างที่ที่พี่ไปฝึกงาน เป็นบริษัทใหญ่ ติด1ใน4ของประเทศ
ยังไม่เห็นใครจะจบมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศ

พี่เลี้ยงของพี่เค้าก็จบจาก มรภ สวนสุนัน
เค้าก็ยังทำงานได้ดีไม่แพ้คนที่จบจากมหาวิทยาลัยดังๆเลยนะคะ

จบมาแล้วอะ เค้าก็ไม่ได้ดูหรอก ว่าคุณจบจากที่ไหนมา
เค้าดูที่การทำงานของคุณมากกว่า ว่าทำได้ดีแค่ไหน

ยังไงก็อุส่าเอ็นท์ติดแล้ว ก็ภูมิใจเถอะค่ะ ตั้งใจเรียนๆนะคะ
อย่างประสบการณ์จากตัวพี่เอง ตอนพี่สอบเอ็นท์ตรงเข้ามหาลัย
พี่ติดอยู่สองที่คือ ราชมงคลกับเอแบค ก็ยังลังเลว่าเรียนไหนดี
แม่พี่ก็พูดมาคำนึงว่า ราชมงคลอะ เค้ารับแค่20 คน
แล้วเราสอบติดเข้าไปแล้วเนี่ย ไม่ภูมิใจหรอไง

เท่านั้นแหละค่ะ ก็เลยไปลงเอยที่ราลมงคลแทน

อย่าอายค่ะ  เรียนจบภูมิใจกว่าเอ็นท์ติด


เอ็นท์ติดแค่เริ่มต้น แต่การที่จะเรียนจนจบได้เกียรตินิยม
มันเป็นอะไรที่สุดยอดดด สำหรับเรา

เพื่อนเราคนนึง อยากเรียนจุฬามาก มันเลือกจุฬาหมดเลย 4 อันดับ
เราก็บอกมันว่า ลองเลือกสักอันดับไว้เผื่อเรียนดีไม๊ มันก็ไม่เอา
สุดท้ายคือมันไม่ติด เราก็ได้แต่ลุ้นให้มันได้เข้าเรียน

เราก็ขอให้คุณตั้งใจเรียนกับสิ่งที่คุณได้มา เพราะคุณเป็นคนเลือกเองค่ะ
 


เรียน มรภ. ไม่น่าอายหรอกนะคะ
เราก็จบจาก มรภ. มา
(ตอนที่เราจะเลือกเรียน เราก็เคยคิดแบบน้องเหมือนกันละค่ะ คิดยิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ คิดว่าคงเป็นมหาวิทยาลัยที่เรียนง่ายๆ จบง่ายๆ แต่จริงๆแล้ว ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยนะคะ กว่าจะผ่านแต่ละวิชา ก็หินอยู่เหมือนกันค่ะ)

คนเก่งๆ ที่มีคุณภาพ จบมาจาก มรภ. ก็เยอะแยะค่ะ

จริงๆ น่าจะพูดได้เต็มปากและก็ไม่ต้องกลัวใครมานินทาว่าเรียนที่ มรภ. หรอกค่ะ 
เพราะรู้หรือเปล่าคะ ว่า ตราประจำ มรภ. มาจากไหน? 


มหาวิทยาลัยราชภัฏ จากเดิมเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู วิทยาลัยครูที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล่งเห็นความสำคัญ
ทรงมีพระราชดำริให้เป็นสถาบันราชภัฏและตราพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏขึ้น
เพื่อยกระดับการศึกษาด้านปริญญาตรี
พระองค์ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อและตราพระราชลัญจกรให้แก่สถาบันราชภัฏใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำสถาบัน
 
"ตราพระราชลัญจกรของพระองค์" ก็คือตราราชภัฏที่เราเห็นอยู่กัน
นั้นคือตราประจำพระองค์ มีพระนามว่าพระที่นั่งอัฏฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ซึ่งหมายความว่าพระที่นั่งของพระราชาที่มีฐานแปดทิศ แล้วคำว่า ราชภัฏ
 
พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานความหมายว่า
นักปราชญ์ของพระราชา ข้าราชการของพระราชา คนของพระราชา คนของประชาชน นั้นเอง

 
จนกระทั่งพระองค์ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พรบ.มหาวิทยาลัยราชภัฏขึ้นใน มิ.ย.2547 มีผลบังคับใช้ในสถาบันราชภัฏทั้ง41แห่ง
ให้เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 41 แห่ง นั้นเอง
ตามโปรดเกล้าฯของพระองค์ เราชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏ

"จงภูมิใจเถิดที่ได้มาเรียนที่ของพระราชา"




จะติดที่ไหน หรือ ว่าจะเรียน มรภ. ก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ
ขอแค่ ตั้งใจเรียน จบออกมา อย่างมีคุณภาพ
และมีงานที่ดีทำ สามารถเลี้ยงดู บุพการีได้

คุณพ่อ คุณแม่ ท่านก็ภูมิใจแล้วละคะ ^^

เราก็ติดสวนนัน นะ แต่เป็นแบบ สอบตรงน่ะ

เธอยังดีนะ อย่างน้อย เธอยังติดในระบบแอดกลาง เพราะเราไม่ติดสักอันดับ

ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้สอบตรงของสวนสุนัน ไว้นะ

วันเปิดเทอม เราอาจจะยังไม่มีที่เรียนก็ได้

ยังไงเราก็มาทำให้ดีที่สุดนะ

อย่างที่พี่ๆว่า

"แม้น้องจะได้เรียนจุฬา ธรรมศาสตร์ หรืออะไรก็แล้วแต่

แต่ถ้าไม่ตั้งใจเรียน...มันก็เปล่าประโยชน์

เดี๋ยวนี้ราชภัฎเค้าไม่ใช่ขี้ๆแล้วค๊าาาาา" >>> ยืมหน่อยนะค่ะ พี่ ืN.E.S.

^0^