ถามคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก หรืออยุ่เมืองนอกตอนนี้

คือเรามีความสนใจที่อยากไปอยุ่เมืองนอก เลยอยากถามเพื่อนๆพี่ๆที่เคยอยุ่หรือตอนนี้ก็ยังอยุ่ที่เมืองนอกนั้น หรือคนที่ไม่เคยอยุ่ก็ได้นะค๊ะ แต่มีความรู้เกี่ยวกับประเทศนั้นๆ มาเล่าสู่กันฟังก็ได้ค่ะ คำถามก็คือ

ประเทศไหนที่คุณคิดว่าหน้าอยู่และสังคมดีที่สุด และอยากไปอยุ่มากที่สุด

ส่วนคนที่เคยอยุ่ หรืออยู่ ณ ตอนนี้ ประเทศนั้นๆ เป็นยังไงบ้างค๊ะ เล่าให้ฟังบ้าง อยากรุ้มากอ่าค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะค๊ะ

Discussion (14)

ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น(โตเกียว) หลังจบ ป.ตรีค่ะ

กำลังไฟแรง อยากมีอิสระ อยู่ห่างครอบครัวบ้าง
แรกๆก็สนุกค่ะ แปลกใหม่ตื่นตาตื่นใจ
พอชินแล้วก็เริ่มเห็นจุดที่ชอบ ไม่ชอบชัดขึ้น


ข้อดีคือ

เปลี่ยนตัวเองให้รับผิดชอบมากขึ้น ตรงเวลาขึ้น รอบคอบเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
ใช้จ่ายเงินอย่างมีเหตุผลขึ้น รู้ค่าของเงิน
ได้ภาษาญี่ปุ่นซึ่งช่วยให้งานก้าวหน้าขึ้นมากๆๆ
ได้ร่วมงานกับทีมงานเก่งๆทำให้ตัวเองได้โอกาส ได้ฝึกฝน
เห็นตัวอย่างดีๆในการรักษาสิ่งแวดล้อม การประยุกต์วัฒนธรรมเข้ากับยุคสมัย
ความพยายามสร้างสรรค์ผลงานทุกแขนงให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะอาหาร เสื้อผ้า เครื่องจักร บริการ
ใส่ใจในรายละเอียดระดับที่มีแต่คนญี่ปุ่นที่คิดได้

ข้อดีส่วนตั๊ว ส่วนตัวอีกอย่างคือ เค้กอร่อย มากๆๆๆๆๆ



ข้อเสีย

ค่าใช้จ่ายสูง การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นทำให้กลายเป็นคนคิดมาก ขี้ระแวงกว่าแต่ก่อน
บางเรื่องไม่เคยถือ โอเคตลอด พอกลับมาแล้วทำเหมือนเดิมไม่สนิทใจ
แผ่นดินไหว ไต้ฝุ่น อากาศร้อนจัดหนาวจัด อาหารใส่สารปรุงแต่งเยอะ(แพ้อ่ะค่ะ)
ค่านิยมแบบวัตถุนิยมที่ค่อยๆกัดกร่อนสังคมจนวุ่นวาย
ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม คนโรคจิต คนแปลกๆเยอะ
เพราะสังคมเค้าไม่เปิดเหมือนคนไทย
มีความกดดันเยอะ ห้ามล้ำเส้นกัน หลายอย่างที่ไม่มีในไทย

ข้อเสีย(ของตัวเอง) คือไม่ได้รู้จักเว็บจีบันตั้งแต่ตอนโน้น

อยู่ญี่ปุ่นชอบอ่านการ์ตูน แต่ไม่สนใจแฟชั่น เครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า ไม่เอาซักอย่าง
รู้สึกตัวเองขาดทุนมากมาย ไม่รู้ไปงมอยู่หลุมไหน



สรุปๆๆๆ ข้อดีข้อเสียมันเอามาบวกลบกลบกันไม่ได้
โดยรวมแล้วได้เรียนรู้อะไรมากมายและคิดว่าคิดถูกที่เลือกเรียนต่อญี่ปุ่นค่ะ



แต่ที่สุดของที่สุด รักเมืองไทย ภูมิใจ คิดว่าตัวเองโชคดีสุดๆแล้วที่เกิดเป็นคนไทย
เกิดเป็นลูกพ่อหลวง ได้เจอศาสนาพุทธ



ขอให้คุณ จขกท ได้พบกับประเทศที่โดนใจนะคะ

เห็นด้วยกับคห ข้างบนนะคะ ว่าแต่ล้ะที่มีดีเสียไม่เหมือนกัน
ตอนนี้เราอยู่อังกฤษก็โอเคอ่ะค่ะ แต่ว่าบางทีก็เซ็งบ้างเนื่องจากอยู่ลอนดอน
แบบคนหลายเชื้อชาติมาก แล้วบางทีนิสัยเค้าก็ไม่ค่อยถูกใจเราโดยเฉพาะคนต่างชาติอ่ะ่ค่ะ
แต่พอออกนอกลอนดอนก็ขาดสีเสียง ตอนนั้นไปบ้านรุ่นพี่ที่ NCL แบบเงียบเลย แต่ก็สงบดีแล้วแต่คนชอบ
ลอนดอนสิ่งอำนวยความสะดวกมันเยอะมากๆอ่คะ่

ส่วนยุโรปตอนนี้เราพึ่งไปเยอรมันกลับมา ชอบมากๆเลยนะ ชอบกว่าอังกฤษอีก
ไปมาหลายประเทศ ติดใจเยอรมันที่สุดในยุโรปเลย อยากไปเรียนที่นู่นแทน...แต่ติดที่ว่าเราเก่งอังกฤษอย่างเดียวอ่ะค่ะ
เยอรมันพูดไม่ได้ แล้วมาเรียนตรีก็ต้องได้ภาษาระดับนึงอ่ะค่ืะ

นิวซีแลนด์เราก็ชอบนะ...แต่กะว่าตอนโทอาจจะไป USA อ่ะค่ะ

แต่ที่สำคัญที่สุด จิงๆเลยนะว่า ไม่ว่าที่ไหนดียังไง ที่บ้านเี่ราก็ดีสุด่อคะ่ะ
เราอยู่นี่ใจจดใจจ่ออยากกลับบ้านมากๆ แต่พรุ่งนี้ก็ได้กลับล้ะ จบปีหนึ่งซะที!
เคยอยู่นิวซีแลนด์ค่ะ สามปี
ปีแรกที่ไปเราอายุแค่ 15 ค่ะ ไปอยู่เองอะไรเอง บอกตามตรงว่ามันเป็นอะไรที่หนักมาก
ไหนจะเรื่องเพื่อน ภาษา อาหาร เงิน หลายๆอย่างรวมกัน ตอนนั้น homesick มากแบบจะกลับไทยให้ได้
แต่ความรู้สึกเรานะคะ การที่ได้ไปเรียนเมืองนอกเนี่ยมันได้ประสบการณ์เยอะมากๆๆๆๆจริงๆ
คือมันหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เราว่าถ้ามีโอกาสก็น่าจะลองไปนะคะ
ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะท้อบ้างอะไรบ้าง แต่พอเราปรับตัวได้แล้วทุกอย่างก็สบายค่ะ
ตอนที่เราเริ่มไปเรียน highschool ปีแรก เราเหมือนแกะดำเลยค่ะ ไม่มีใครอยากให้เข้ากลุ่ม ไม่มีใครพูดด้วย
เราน้อยใจมากๆ โดนล้อเรื่องสำเนียงอะไรต่างๆนาๆ
ต้องบอกก่อนว่าเราไปเรียนอกเมืองนะคะ เลยต่างจากในเมื่องที่มีคนไทยเต็มไปหมด
หลังจากเราปรับตัวได้แล้วขอบอกว่าสนุกมากกกกก พวกฝรั่งเค้าจะแบบทำไรทีก็สุดๆอ่ะค่ะ อารมแบบว่าไม่แคร์สื่อ
เมื่อเราได้เพื่อนที่เป็นคนที่นู่นแล้วก็จะพ่วงได้เพื่อนที่มาจากทางยุโรปด้วยเช่น เยอรมัน บราซิล บลาบลา เยอะอ่ะค่ะ นักเรียนต่างประเทศเยอะมาก ขอแค่เราอดทนได้ในช่วงแรกๆ โหยมีเรื่องเราอีกเยอะอ่ะค่ะ แต่ว่าแค่นี้ก็คงพอจะนึกภาพออกละเนอะ
ขอให้ตัดสินใจได้เร็วๆนะคะ เอาใจช่วยจ้า <3
แต่ละประเทศก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันนะคะ ไม่มีประเทศไหนที่จะเป็น ประเทศที่perfect หรือว่า ideal หรอกนะคะ ลองคิดดูว่าจุดประสงค์ของเราที่จะไปเนี๊ยะ มันคืออะไร ลองหาข้อมูลดูว่าเราชอบประเทศนั้นๆหรือเปล่า อย่าไปตามแฟชั่นนะคะ เพราะคนแต่ละคน มีความชอบ กับการปรับตัวไม่เหมือนกัน แล้วอีกอย่างคืออย่าลืมเป้าหมายของเรา ถ้าเราจะไปเรียนต่อ ก็ลองเลือกมหาวิทยาลัยที่ดีและดังในสาขาที่เราจะไปเรียน  ไม่ใช่ว่าจะไปเรียนส่งๆไปเพื่อให้ขึ้นชื่อว่าจบเมืองนอกแค่นั้นเอง เพราะคนเค้าก็รู้กันละคะ ว่าที่ไหนสอนดีหรือไม่ดียังไง เป็นมหาวิทยาลัยห้องแถวรึเปล่า ส่วนเรื่องที่ว่าเจอคนไทยเยอะแล้วจะไม่ได้ภาษานั้น มันขึ้นอยู่กะตัวเราเองค่ะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าดูๆแล้ว คนไทยก็ไปไกลทั่วโลกเหมือนกันล่ะค่ะ แค่น้อยกว่า จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี แค่นั้นเอง

ที่อยู่ก็ต้องเลือกเขตที่ปลอดภัยหน่อยนะคะ  ถ้าเราหาข้อมูลดีๆ เราก็จะทราบได้ค่ะ ว่าที่ไหนน่าอยู่ หรือว่าไม่น่าอยู่  ลองเข้าเว็บแล้วลงคอมเม้นท์ถามก็ได้ค่ะ ทุกๆคนเค้าก็จะช่วยให้คำแนะนำได้

อีกอย่างนึงคือ อยู่ต่างประเทศต้องอดทน เพราะเราต้องทำอะไรเองเป็นทุกอย่าง ต้องพึ่งตัวเอง ไม่ใช่หวังว่าจะมีใครมาช่วยเราได้ทุกอย่างนะคะ เพราะพวกฝรั่งเค้ามีความเป็น individualistic อย่างสูง

ส่วนเรื่องว่าเราจะเสียคนไหม ก็ขึ้นอยู่กะตัวเราเองละค่ะ ว่าจะเลือกคบเพื่อนแบบไหน มันเป็นทางที่เราต้องเลือกเอง ไม่สามารถที่จะไปโทษคนอื่นได้ว่าเป็นเพราะเค้า เราเลยเป็นแบบนี้ เพียงแต่ว่าที่ต่างประเทศนั้นมันค่อนข้างฟรี แล้วใครจะทำอะไรก็ไม่ค่อยมีใครสนใจค่ะ เพราะฉะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราล้วนๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งเราคิดว่ามันก็ไม่ต่างไปจากการที่เราเลือกคบเพื่อนเหมือนตอนเราอยู่เมืองไทยหรอกนะคะ





ทุกประทศมีข้อดีข้อเสียนะค่ะ  ที่อยากไปอยู่ต้องถามตัวเองว่าอยากไปเพราะอะไร  หาคำตอบให้ตัวเองให้ได้แล้วเลือกประเทศที่ตอบคำถามเราได้มากที่สุด
แต่การอยู่เมืองนอกไม่ได้สบายสวยหรูอย่างที่คิด  ในกรณีที่มาด้วยเงินเก็บตัวเอง  มาหาเอาเอง  ไม่ได้มีคนsupport อันนี้ต้องอาศัยใจแกร่งกายแกร่งเลยหละ
ตอนนี้เราอยู่เมืองใกล้ ๆ ซานฟรานประมาณขับรถ 30 นาทีถึงตัวเมืองซานฟราน  อยู่มา 2 ปีแล้วค่ะ   แทบที่อยู่อากาศดี  ไม่แออัด   แต่คนเอเชียเยอะเลย  คนไทย คนลาว  คนจีน  อยู่เพียบ    เรามาอยู่เพราะแฟนอยู่และทำงานที่นี่   การปรับตัวเรียกว่าลำบากเลย  จากที่เราเป็นสาวออฟฟิตทำงานกรุงเทพ  คงนึกภาพออกนะค่ะ  แล้วมาอยู่ในเมืองที่สมถะมาก ๆ แบบว่าไม่ค่อยจะมีแสงสี   ถ้าเป็นคนสังคมจัด ๆ หน่อยจะอีกอารมณ์นึงเลย   แต่ถ้าอยู่ในตัวเมืองซานฟรานเลยก็จะแนว ๆ จอแจนิดนึง 
ข้อดีในแง่มุมเราที่ได้รับจากประสบการณ์ 2 ปีนะค่ะ  คือเราต้องเข้มแข็งมาก ๆ เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเองทุก ๆ ด้าน  ในบ้านก็ต้องรู้จักทำ ต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่ถนัดงานบ้านงานเรื่อนแต่ก็พอทำเป็นบ้าง แต่มาอยู่ที่นี่ก็ต้องทำหมดค่ะ  งานบ้าน และอาหาร   ซึ่งงานบ้านไมได้ยากเย็นอะไรเพราะที่นี่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ช่วยทุ่นแรงทุ่นเวลาไปได้เยอะค่ะ  นอกบ้านก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีให้ได้   เราทำงานไม่นาน เพื่อนร่วมงานที่นี่มีหลายแบบ  คนดีก็จะดีมาก ๆ แบบเห็นใจกัน  คนที่แย่ ก็แย่แบบสลดใจไปเลย    ต่อมาอย่างที่บอกอากาศที่นี่ดีมาก ๆ ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป  เพราะเมืองติดทะเล   เราจะชอบมาก ๆ เลยในหน้าร้อน  สว่างนานขึ้น  อากาศสบาย ๆ เราจะชอบอากาศที่นี่มาก ๆ เพราะปรกติเราเป็นโรคภมูิแพ้  ตอนอยู่เมืองไทยกินยามาตั้งแต่เด็ก  ตอนมาอยู่ที่นี่่ใหม่ ๆ ก็ตุนยามาเพียบเพราะรู้ว่าหาหมอที่นี่แพงมาก  แต่สรุปว่าไม่เป็นอะไรเลย  ในส่วนของกฎหมาย  กฎหมาายคุ้มครองสิทธิเราเต็มที่   ถ้าเราทำตามกฎ  เราก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีปัญหาเลย   แค่ทำตามกฎเท่านั้น  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกฎหมายคุ้มครองเรา  อันนี้เป็นเรื่องที่ชอบที่ลองลงมาจากอากาศค่ะ   ค่าครองชีพ  หากไม่อยู่ใจกลางเมืองก็ถือไม่มาก   ของกินของใช้ที่จำเป็นจริง ๆราคาไม่ได้แพงเลยเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณ  แต่ถ้าเป็นสินค้าฟุ้มเฟือยละก็แพงมากมายค่ะ   อีกเรื่องนึงคือที่นี่สินค้าอุปโภคบริโภค หรือแม่แต่บริการต่าง ๆก็จะมีการคำนวณ tax  ซึ่งมีวิธีการคิดคำนวณแตกต่างกันไป  บางอย่างก็ต้องจ่ายบางอย่างก็ไม่ต้องจ่าย  ที่สำคัญ tax แต่ละเมืองก็มี rate ต่างกันด้วยค่ะ   ข้อดีเอาคร่าว  ๆที่นึกออกก็ประมาณนี้นะค่ะ
ข้อเสีย  อย่างแรกเลยเรื่องคาสิโน  ที่นี่เสรีมาก ๆ หากใครชอบเล่นการพนันหรือซ์้อลอตโต้หละก้อ  ลำบากแน่ ๆ เพราะมันมีทั่วไปหมด  ถ้าอายุถึงก็ต้อนรับกันเต้มที่ค่ะ 
ในส่วนตัวเราไม่เล่นการพนันอะไรเลย   (ฟ้งดูเว่อร์เนอะ  จริง ๆ ก็เคยเล่น ป๊อก 8 ป๊อก 9 ตอนไปต่างจังหวัดกะญาติ ๆ นะ แต่ก็แค่นั้นแหละ เฉย ๆ) 
เรื่องต่อมา  เกือบทุกเมืองไม่ว่าจะสวยหรูแค่ไหนก็ต้องมีบางตรอกบางซอยที่เป็นพวกติดเหล้า ติดยา ติดการพนัน  อาญชยากรรมเกิดขึ้นทุกวันก็มีในแทบที่มีคนเหล่านั้นอยู่  อันนี้ก็ต้องระวังกันไป   คือคนดีก้ดี  คนเลวก็เลวมาก ๆ ไปเลยค่ะ  ตำรวจที่นี่ก็เข้มงวดมาก  ในส่วนตำรวจเราชอบนะ  เรารู้สึกว่าปลอดภัยดี แฟร์ดี 
เรื่องต่อมาก็คือเรื่องเพื่อน  อันนี้เรื่องใหญ่สำหรับเราหน่อย  คงเป็นเพราะเราเคยใช้ชิวิตแบบสังคมเมืองเพื่อนเยอะ ๆ   ไม่ว่าจะเพื่อนกิน  เพื่อนเที่ยว  เพื่อนร่วมงาน  ตรงนี้ต้องระวังให้มาก ๆ ไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี ก็แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันทั้งนั้น    หากมาอยู่ตอนอายุยังน้อยก็ยังมีเวลาได้คบหาเรียนรู้กัน  แต่ถ้ามาตอนโตอย่างเรา  โตแบบจะแก่แล้วเนี่ยะ  ลำบากหน่อย  ไว้ใจกันยาก  ในส่วนของเรา  คนที่เรากลัวและคบยากสุดก็คนไทยด้วยกันนะ   ไม่รู้สิบอกไม่ถูก  ไม่ถึงกับ 100% นะค่ะ  แต่มันเกินครึ่งที่ทำให้เรารู้สึกแล้วก็เริ่มกลัว ๆ ไปเลย แต่คนไทยในต่างแดนที่ดี ๆ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันก็มีเยอะค่ะ  อันนี้เป็นความเห็นและประสบการณ์ส่วนบุคคล
 
ยังมีข้อดีช้อเสียอีกมากมายอะค่ะ  เอาไว้รอฟังจากหลาย ๆ ความคิดเห็นนะค่ะ  แต่ก่อนที่จะตัดสินใจไปอยู่ที่ไหนถาวร  ก็ลองไปอยู่เป็นระยะสั้น ๆ พอให้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ที่แตกต่างด้วยตัวเองจะดีกว่า  เพราะตัวเองเท่านั้นที่จะตอบตัวเองได้ว่า  ที่นี่ใช่หรือไม่   เหมาะหรือไม่  กับตัวเรา   พอเรารู้สึกว่าเราชอบ เราอยู่ได้  มันใช่แล้ว   ต่อให้ลำบากแค่ไหน  ใจก็ยังสู้อยู่เพราะเราเป็นคนเลือกทางเดินของเราเอง