Shanghai World Expo 2010 V.2
Jeban'26มาต่อกันกับทริปเซี่ยงไฮ้นะคะ….
7 พฤษภาคม
วันต่อมาเราก็มีภารกิจกันที่ Coca-Cola China @ Global Innovation and Technology Center at Shanghai ที่นี่จะเป็น green building ที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เช่นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ช่วงครึ่งวันเช้าจะเป็นช่วง GITC Tour หรือนิยามง่ายๆ ก็คือเปิดบ้าน Coca-Cola ให้เราดูนี่แหละ งานนี้พวกเราได้มีโอกาสเข้าชมหลายส่วน “เฉพาะกิจ” ไม่ว่าจะเป็น Ko Lab, R&B center, ห้องวิจัยแพกเกจ (ที่คนสะสมโค้กต้องร้องกรี๊ดแน่นอน), ห้องวิจัยชา Tea Room เพราะโดยวิถีชีวิตคนจีนชอบดื่มชา Coca-Cola จึงต้องคิดค้นเครื่องดื่มให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด แอบอึ้งนิดนึงว่าสินค้าขายดีที่สุดในจีนคือ Sprite Tea สไปร์ทใส่ชา!), ส่วน office, meeting & brain storm centerไฮเทค meeting room ที่มีจอ 360 องศา มีเค้าเตอร์หมุนได้ ซ่อนเครื่องดื่มไว้ข้างใน ประตูนินจาสำหรับพรีเซนท์สินค้าระหว่างประชุม รวมไปถึง vision presentation เกี่ยวกับประเทศจีนในปี 2020 ด้วยรวมไปถึงห้องจำลองการวางกลยุทธต่างๆ ในการทำการตลาดของ Coca-Cola เช่น การเซทแพกเกจของ Mc Donald, การวางตำแหน่งใน Super Market, 7/11 etc. (ขออภัยพี่น้องว่าส่วนต่างๆ เหล่านี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ) บ้านนอกอย่างอิชั้นตื่นตาตื่นใจมาก บริษัทนี้ทำไมมันอลังการอย่างนี้หนออออออ (เอ่อม....รับพนักงานเพิ่มมั้ยคะ?)
7 พฤษภาคม
วันต่อมาเราก็มีภารกิจกันที่ Coca-Cola China @ Global Innovation and Technology Center at Shanghai ที่นี่จะเป็น green building ที่เน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เช่นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ช่วงครึ่งวันเช้าจะเป็นช่วง GITC Tour หรือนิยามง่ายๆ ก็คือเปิดบ้าน Coca-Cola ให้เราดูนี่แหละ งานนี้พวกเราได้มีโอกาสเข้าชมหลายส่วน “เฉพาะกิจ” ไม่ว่าจะเป็น Ko Lab, R&B center, ห้องวิจัยแพกเกจ (ที่คนสะสมโค้กต้องร้องกรี๊ดแน่นอน), ห้องวิจัยชา Tea Room เพราะโดยวิถีชีวิตคนจีนชอบดื่มชา Coca-Cola จึงต้องคิดค้นเครื่องดื่มให้ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด แอบอึ้งนิดนึงว่าสินค้าขายดีที่สุดในจีนคือ Sprite Tea สไปร์ทใส่ชา!), ส่วน office, meeting & brain storm centerไฮเทค meeting room ที่มีจอ 360 องศา มีเค้าเตอร์หมุนได้ ซ่อนเครื่องดื่มไว้ข้างใน ประตูนินจาสำหรับพรีเซนท์สินค้าระหว่างประชุม รวมไปถึง vision presentation เกี่ยวกับประเทศจีนในปี 2020 ด้วยรวมไปถึงห้องจำลองการวางกลยุทธต่างๆ ในการทำการตลาดของ Coca-Cola เช่น การเซทแพกเกจของ Mc Donald, การวางตำแหน่งใน Super Market, 7/11 etc. (ขออภัยพี่น้องว่าส่วนต่างๆ เหล่านี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ) บ้านนอกอย่างอิชั้นตื่นตาตื่นใจมาก บริษัทนี้ทำไมมันอลังการอย่างนี้หนออออออ (เอ่อม....รับพนักงานเพิ่มมั้ยคะ?)
บรรยากาศใน GITC ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ Coca-Cola Branding เต็มไปโหม๊ดดดดด คนรัก Coke คงลัลลาน่าดูเลย......อิชั้นก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า Coca-Cola ไม่ได้มีแค่แฟนต้า สไปรท์ โค้ก แค่ที่เราคุ้นเคย แต่ยังมีแบรนด์เครื่องดื่มหมวดหมู่อื่นๆ อย่างพวกชา กาแฟ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มให้พลังงานอีกมากกว่า 500 แบรนด์เลยทีเดียว!!!!!
ส่วนช่วงบ่ายก็มี Conference กับบรรดา Blogger จากโซนเอเชียแปซิฟิก.....ส่วนรายละเอียดของ Conference ป้าจีนขอยกยอดให้ไปอ่านจากบ๊อกคุณเก่ง → www.keng.com หรือจากบ๊อก Mr.Walter Lim จาก Singapore → http://coolinsights.blogspot.com จะละเอียดกว่า เพราะลองเขียนอะไรๆ ที่มีสาระแล้วมือแข็งพิมพ์ไม่ออกซะทุกที ฮ่าๆๆ
ตัดโชะเข้าวันต่อมากันเลยให้ว่อง
เช้า 8 พฤษภาคม
ตื่นกันแต่เช้าเช่นเคยเพื่อไปงาน World Expo กันอีกครั้ง วันนี้แอบมีสเปเชี่ยลอาเจนด้าครบรอบ 125 ปี Birthday Coca-Cola ซึ่งก็จะมีคอนเสิร์ต พาเหรด และกิจกรรมต่างๆ กับ Coca-Cola ตลอดทั้งวัน ได้บัตรเบ่งกันล่ะงานนี้ หุหุ
เราเปลี่ยนประตูเข้างาน Expo มาอีกข้าง ซึ่งเป็นด้านที่เข้ามาแล้วป๊ะกับ Coca-Cola pavilion เลย....บรรยากาศโดยรอบของบริเวณนี้ก็เต็มไปด้วยสีแดงและการตกแต่งแบบ Full Branding ด้วยคอนเซปท์ Happiness Factory.....มีช่วงเอนเตอร์เทนระหว่างรอคิวเข้าชมงาน เพ้นท์โลโก้ เครื่องวัดความดัง ให้ตะโกน Happy Birthday Coca-Cola กันหนุกหนานมาก......เข้ามาข้างในมีส่วนจัดแสดงประวัติความเป็นมาของ Coca-Cola และเราก็ได้ดู Anime Happiness Factory เวอร์ชั่นเต็มกันไป (เห็นว่าที่ไทยก็เคยมีโฆษณาแต่เป็นเวอร์สั้นๆ ป้าจีนไม่เคยดูอ่ะ ที่บ้านไม่มีทีวี เชยหน่อยนะ).....ตัวละครน่ารักมากกกกกกกกก โปรดักชั่นเริ่ด ออกมามีแต่รอยยิ้มกันถ้วนหน้า......สเตทต่อไปเราได้ลอง Coke Super Chill คนละ 1 ขวดเป็นของที่ระลึกจาก pavilion นี้ที่พอเขย่ากลับหัว 2 รอบจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ใครที่สะสมอย่าพลาด เพราะขวดลิมิเต็ดปั๊มนูน World Expo 2010 ด้วยจ้า ต้องมาแต่เช้าเลยนะคะ เพราะตอนเย็นป้าจีนไปอีกรอบหมดแล้วอ่ะ
จากนั้นเหล่า Blogger ก็แยกย้ายกันไปตามแต่ละ Pavilion ที่สนใจซึ่งทีมไทยเราจะพลาดได้ไง ก็ต้องไป Thai Pavilion สิคะ.....ตะแรกเราแอบนอยด์เล็กน้อยว่าจะต้องต่อคิวนานเท่าไหร่หนอออออ เพราะไทยเราติด 1 ใน 7 ซะด้วย แต่พอลองตะโกนถาม “น้องคะ!” เป็นภาษาไทย ก็มีเจ้าหน้าที่ไทยเดินมาถามว่า “คนไทยเชิญทางนู้นเลยค่ะ” วู้ววววววววว ดีใจกันนอกหน้าจนอาซิ่มที่รอคิวอดหมั่นไส้ไม่ได้เลยนะงานนี้ หุหุ.....จากที่วันก่อนป้าจีนและเดอะแก๊งได้มางาน Expo ดูลาดเลาประเทศอื่นๆ กันแล้วรอบนึง ก็ขอบอกว่า Thai Pavilion นี่เป็นอีก 1 Pavilion ที่ไม่ควรพลาดเลย ถึงข้างนอกจะไม่ค่อยอลังเท่าประเทศอื่นแต่คุ้มค่าน่าเข้าค่ะ ออกมาหลงรักประเทศไทยเข้าจังเบ้อเร้อเลย รายละเอียดเพิ่มเติมที่บ๊อกคุณเก่ง → Thai Pavilion
จากนั้นเราก็ไป Australia Pavilion ที่พลัดหลงกันจนแยกออกเป็น 2 ทีม....และจากการประเมินสถานการณ์แล้วทีมเราก็มีมติว่า จะ “ล่าแต้ม” Stamp Passport กันดีกว่า เข้าได้ไม่ได้ ลองขอ Stamp ก่อนละกันเป็นที่ระลึก เวลามีจำกัดจะได้เยี่ยมชมได้ทั่วถึงหน่อย (ไม่งั้นวันนึงคงได้เข้าแค่ 2-3 ที่อ่ะ) ถ้าประเทศไหนคนไม่ล้นมากก็ลองเข้าดู.....พอได้แรงฮึด เราก็เริ่ม “ล่า” วิ่งกันเดินกันขาแทบหลุด ปานเล่นแรลลี่ ยังดีว่าวันนี้อากาศเย็น เลยชิวมาก
ตกบ่าย ฝนก็ตกปรอยๆไปจนถึงเย็น แต่ทีมแรลลี่เราก็ยังสู้ จนได้มาทั้งหมด 13 stamp!!! (แวะเก็บแต้มที่อินเดียกันด้วย เราบอกกับการ์ดว่าเพิ่งซื้อ passport มาขอ stamp หน่อยเพราะเมื่อวานเข้าไปแล้วเค้าก็ให้เข้าแบบใจดีมาก แต่บางประเทศนี่ไม่ได้เลยอ่ะ โหดมาก) จบมื้อเย็นที่ร้านอาหารเกาหลีที่ชั้น 2 Korea Pavilion พนักงานน่ารักมาก พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าที่อื่น (ที่ผ่านมา) ตอนจ่ายเงิน เราให้ทิปเค้านิดนึง แต่เค้าไม่เข้าใจว่า “เงินอะไร ให้ทำไม” ต้องอธิบายกันยกใหญ่ ตามด้วยคำขอบคุณที่เราได้กลับมาอีกกระบุงใหญ่
พอทุ่มครึ่ง พวกเราก็มารวมตัวกับคนอื่นๆ ที่หน้า Entertainment Hall เพื่อเข้าชมคอนเสิร์ต Happy Birthday 125 ปี Coca-Cola ที่บรรยากาศโดยรวมปานอยู่แยกราชประสงค์ แดงเถือกกกกกกกกกกกก ฮ่า.......ศิลปินที่มาร่วมแจมมีทั้งศิลปินดังๆ ของจีน และจากต่างประเทศ อย่างที่ป้าจีนพอจะคุ้นชื่ออยู่บ้างก็ วัง ลี ฮอม และ K’Naan นี่แหละ (แต่ก็ไม่รู้จักหน้าอยู่ดี) รวมทั้ง Happiness Ambassador ของ Coca-Cola ที่ผ่านการโหวตจากทั่วโลก
4 ทุ่มรถก็มารับกลับโรงแรม.....วันนี้ฝนตก มิสามารถออกไปลัลลาต่อได้ เลยนอนอ่านหนังสือ เก็บของดูวิวชิวอยู่บนห้องเตรียมตัวกลับบ้านพรุ่งนี้
9 พฤษภาคม
ฝนตกตั้งแต่เช้า กินข้าวแล้วเลยขึ้นไปนอนต่อ สายจัดๆ ออกไปเดินเล่น FamilyMart แป๊บนึงดูว่าเมืองจีนเค้าขายอะไรกัน แล้วบ่าย 3 โมงเราก็เดินทางไปสนามบิน......ฝนตกหนักช่วงเย็นเครื่องบินวิ่งวนอยู่นานมาก ขึ้นไม่ได้จนแอบกังวล แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ ......ถึงสุวรรณภูมิ 3 ทุ่มกว่าๆ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 5 ชั่วโมงนานกว่าขาไปเพราะบินย้อนลม......ลูกลิงมารับ เจอหน้าโผเข้าหา “คุณแม่ สวัสดีค้าบบบบบบ” คิดถึงจังเลย
ไว้กลับมาเล่าทริปอื่นที่ดองไว้ต่อบ๊อกหน้าจ้า
Discussion (26)
อยากไปด้วยยยย : )