miNipanda-z มาพาเห่อ...แบบรวมๆ



วันนี้นิมาเห่อของที่ได้มาในระยะหลังๆ
แต่ยังไม่ได้เอามาเห่อให้ดูค่ะ
จริงๆมีเหลืออีกหลายอย่างเลย แ่ต่ว่าเหนื่อยๆ
เลยเอาแค่นี้ก่อน
ไปดูกันเลยดีกว่า ^^








เห่อแรก...เห่อเรื่องได้ไปเที่ยวสนามฟุตบอลชื่อดังระดับโลกค่า
แอบมายั่วสาวกแมนยู และลิเวอร์พูลกันซักหน่อย
พอดีว่าพี่ชายจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ
และประจวบเหมาะกับที่นิเคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เลยได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างเมืองบ้าง
จุดหมายของทริปนี้ เอาใจคอบอลอย่างเด็กผี และเด็กหงส์จริงๆ
สำหรับคนที่ไม่ดูบอลอย่างนิ
ก็เพลิดเพลินไปกับการช๊อปปิ้งตามเคย
แต่ไหนๆได้ไปเหยียบสนามของทีมดังแล้ว จะไม่แชะภาพมาเลยก็กะไรเนอะ
ยืมผ้าพันคอพี่ในแก๊งมายืนถ่ายเสมือนของตัวเอง ฮ่าๆ

2 ภาพบน : เป็นภาพของสนาม Anfield ของที Liverpool
2 ภาพล่าง : เป็นภาพของสนาม Old Trafford ของ Manchester ค่ะ













ภาพซ้าย : เป็นภาพของโบสของเมืองลิเวอร์พูล
ชื่อว่า Liverpool Cathedral
ใหญ่มากกกกกกกก และสวยมากกกกกก

ภาพขวา(บน) : เป็นภาพของหน้าต่างภายในโบส
เอาแค่หน้าต่างก็อลังค์การณ์แล้ว ประทับใจมากค่ะ

ภาพขวา(กลาง) : เป็นผับเล็กๆในถนน Mathew Street
แต่ถึงจะเป็นผับเล็กๆ แต่ตำนานของเค้าไม่เล็กเลยทีเดียว
ผับนี้มีชื่อว่า Cavern Pub
อาจจะมีหลายคนคุ้นกับชื่อนี้บ้าง
นี่เป็นผับแรกที่ตำนาน 4 เต่าทองอย่าง The Beatles ขึ้นแสดงเป็นที่แรกค่ะ
และในผับนี้ัยังมีเซเลบดังๆหลายคนเคยแวะเวียนมาแล้ว
อย่างเช่น John Lennon เป็นต้น

ภาพขวา(ล่าง) : อันนี้เป็นความประทับใจส่วนตัวที่มีให้กับร้านอาหารญี่ปุ่นของเมืองนี้
ชื่อร้าน ETSU ค่ะ
อาหารอร่อยมากๆ การจัดวาง ความสด สะอาด สุดยอด
แล้วร้านนี้มีโถชักโครกแบบญี่ปุ่นแท้ๆ(ตามแบบ พี่โน๊ต อุดม เล่าในเดี่ยว 8 เลย)
พนักงานก็เป็นคนญี่ปุ่น ร้านก็แนวญี่ปุ่น
เรียกได้ว่า ยกความเป็นญี่ปุ่นมาไว้ในร้านนี้เลยค่ะ













มาต่อที่เมือง Manchester กันบ้าง
เนื่องจากได้มาเที่ยวที่นี่แค่วันเดียว เลยไม่ได้เก็บภาพสวยๆมากนัก
เพราะใช้เวลาส่วนมากอยู่ในสนาม Old Trafford ค่ะ
นี่เป็นภาพบางส่วนที่ถ่ายไว้ตอนหาของกิน ฮ่าๆ

ภาพซ้าย(บน) : เป็นภาพบรรยากาศของชานชาลารถรางในเมืองค่ะ
มองตรงไปในภาพ ที่เห็นตึกไกลๆนั่นเป็นแหล่งช๊อปปิ้งค่ะ(น้ำลายไหล)

ภาพซ้าย(กลาง) : ภาพของรถรางที่ใช้ทั่วไปในเมืองนี้ค่ะ
ในลอนดอนและลิเวอร์พูล นิไม่เห็นรถรางเลย เพิ่งจะมาเห็นที่นี่ที่แรกเลยค่ะ

ภาพซ้าย(ล่าง) : ถ่ายตั๋วเก็บไว้ดู อันนี้เป็นตั๋วแบบ 1 Day Ticket
ขึ้นกี่รอบก็ได้ ไปไหนก็ได้ เริดส์มากๆ

ภาพขวา : เป็นส่วนของ China Town ของเมืองนี้ค่ะ
ตอนนี้กะลังหาของกินอยู่ และได้ไปเจอร้านอาหารประทับใจของเมืองนี้อีกแล้ว
เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารไทยค่ะ ชื่อร้าน แปซิฟิค อร่อยมากกกกกกก











หลังจากเห่อที่เที่ยวแล้ว มาเห่อไอเทมใหม่ๆดีกว่า




เซทนี่เป็นเซทสกินแคร์ตัวใหม่ๆที่ได้ลองค่ะ
มาดูกันดีกว่าว่า มีอะไรบ้างเอ่ย...


ภาพบน : เป็นตัวฮิตในจีบันพอสมควร
สำหรับ CLINIQUE moisture surge extended thirst relief
มอยส์เจอร์ที่เติมเต็มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวที่ขาดน้ำ
ใช้ได้ทั้งผิวแห้งยันผิวมัน โดยไม่ทำให้ผิวดูมันยิ่งกว่าเดิม
หลังจากที่มาอยู่ลอนดอนก็ได้รับรู้ว่าตัวเองเป็นคนผิวแห้งมากๆ
เนื่องจากอากาศที่นี่ค่อนข้างแห้ง และหนาว
หน้าแห้งและลอกเป็นขุยๆน่าเกลียดมากๆ
เลยได้หาข้อมูลและมาเจอกับเจ้าตัวนี้
ตัดสินใจซื้อทันทีที่ได้ลองเทสที่เคาท์เตอร์
เพราะทำให้ผิวดูชุ่มชื่นขึ้น และนิ่มมากๆ ชอบสุดๆเลยค่ะ
ตัวนี้ซื้อมาในราคา 30 ปอนด์

คะแนน


เอาไปเลยเต็ม 5
ในเรื่องของคุณสมบัติให้เต็มอยู่แล้ว และในเรื่องราคา
ถึงจะแพงก็จริง แต่ในแต่ละครั้งที่ใช้ จะใช้ในปริมาณน้อยมากๆ
แตะนิดเีดียวก็ทั่วหน้าแล้ว ใช้ได้นานแน่นอนค่ะ







ภาพกลาง :
1) CLINIQUE liquid facial soap mild
สำหรับตัวนี้เป็นสบู่ล้างหน้า ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ล้างแล้วรู้สึกสะอาดมากๆ
หลังล้างแล้วทำให้ผิวแห้งตึงเล็กน้อย แต่ถือว่าดีกว่าตัวอื่นที่เคยลอง
ก็ชอบในระดับนึง แต่ยังไม่ที่สุดค่ะ
ตัวนี้ได้แถมมาจากการที่ซื้อ Moisture Surge ค่ะ

คะแนน


ให้ 4 คะแนน
ชอบที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น นั่นหมายความว่า
ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ล้างได้สะอาดดี
แต่ตัดที่ยังรู้สึกว่าตึงๆหน้าหลังล้างค่ะ



2) CLINIQUE clarifying lotion clarifiante 1
เป็นโทนเนอร์เช็ดหน้าหลังล้างหน้า
ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยรู้สึกเห็นผลแตกต่างอะไรเลยจากการใช้โทนเนอร์
เลยไม่แน่ใจว่าตัวนี้มีผลดียังไง เพราะไม่เห็นความแตกต่าง
อีกอย่าง กลิ่นแอลกอฮอล์ แรงมากกกกกก
ได้แถมมากับ Moisture Surge ค่ะ

คะแนน


ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ในเรื่องของกลิ่นแอลกอฮอล์
มันฉุนเกินไป จนรู้สึกว่า มันต้องรุนแรงกับผิวหน้าแน่ๆ
และคิดว่าไม่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย และผิวบอบบางแน่นอน
ไม่ค่อยปลื้มค่ะ




3) CLINIQUE dramatically different moisturizing lotion
เป็นมอยส์เจอร์อีกตัวที่ใช้ทาหลังโทนเนอร์ และก่อน Moisture surge
ส่วนตัวเพิ่งได้ลองใช้เลยยังไม่เห็นความแตกต่าง
แต่ในเรื่องความชุ่มชื่น ก็ดีในระดับนึง
ได้แถมมากับ Moisture Surge อีกเช่นกันค่ะ

คะแนน


กั๊กคะแนนไว้เท่านี้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจในสรรพคุณเท่าไหร่








มาดูฝั่งของ ลังโคม บ้างดีกว่า เซทนี้ได้แถมมาจากเค้าท์เตอร์(อีกแล้ว)
เพราะคุณแม่ไปซื้อเซท Eyes Cream ค่ะ

ภาพล่าง :
1) LANCOME primordiale skin recharge
เป็นตัวโทนเนอร์แบบน้ำเหลวๆ คิดว่าน่าจะเหมาะกับคนผิวผสมถึงผิวมัน
เพราะทาแล้วแอบรู้สึกว่าหน้าแห้งไปหน่อย

คะแนน


ที่ให้ 3 คะแนนเพราะว่าไม่เหมาะกับสภาพผิวนิค่ะ
ยังไม่กล้าฟันธงมากว่าดีไม่ดียังไง ถ้าใช้กับผิวที่เหมาะสมอาจจะดีก็ได้




2) LANCOME tonique confort
เป็นโทนเนอร์ตัวแรกที่ประทับใจสุดๆ
เนื้อของโทนเนอร์จะข้นๆนิดๆ ไม่ใช่แบบน้ำเหลวแบบโทนเนอร์ทั่วไป
เหมาะกับผิวแห้งแน่นอนค่ะ
ทาแล้วรู้สึกมีความชุ่มชื่นเครือบอยู่บนผิว
ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะ ชอบมากๆ

คะแนน


ในไลน์ของโทนเนอร์ ไม่เคยชอบตัวไหนเท่าตัวนี้
อาจจะเพราะเป็นคนผิวแห้งมาก
พอเจอตัวที่ให้ความชุ่มชื่นเลยประทับใจสุดๆ
เป็นโทนเนอร์ตัวเลิฟของนิเลยค่ะ
และคิดว่าจะซื้อไซส์จริงมาใช้แน่นอน ^^




3) LANCOME blance expert GN-WHITETM
เป็นตัวสำหรับทาหลังโทนเนอร์เพื่อลบเลือนริ้วรอยสิว
ใช้ดีมากๆ เห็นผลจริง แต่ใช้เวลานานพอสมควร
ต้องขยันหมั่นทาทุกวันค่ะ
แต่ถ้าเป็นรอยแดงๆที่เพิ่งหายจากสิวใหม่ๆ ก็ลดได้เร็วดีค่ะ

คะแนน


ตักคะแนนตรงที่ใช้เวลานานเกินไปนิด และราคาแอบสูงไปหน่อย
ยังคิดอยู่ว่าถ้าใช้หลอดทดลองนี้หมดจะไปซื้ออีกมั้ย? แพงเหลือเกิน




4) LANCOME promordiaje nuit skin recharge
มอยส์เจอร์สำหรับทาตอนกลางคืน
เพื่อให้ผิวชุ่มชื่น และผ่อนคลาย
เนือครีมซึมซาบเร็ว นุ่มละเอียดดีค่ะ
ชอบกลิ่นและสีชมพูอ่อนๆของเนื้อครีมมากค่ะ

คะแนน


ให้ความชุ่มชื่นดีทีเดียว แต่ัยังสู้ Moisture Surge ไม่ได้ค่ะ เลยต้องตัดคะแนนไป




5) LANCOME primordiale skin recharge
เป็นตัวอีมัลชั่นใช้ทาในตอนกลางวัน
คุณสมบัติคล้ายๆกลับตัวที่ 4) แต่ต่างตรงเหมาะกับกลางวัน
ไม่ทำให้หน้าเยิ้ม เพราะผิวเวลากลางวัน จะมันกว่ากลางคืน
เนื้อครีมและสีของครีมคล้ายๆของตัวที่ 4) เลยค่ะ

คะแนน


ไม่ได้รู้สึกว่ามีความโดดเด่นอะไรมาก ใช้แล้วธรรมดาไปหน่อยค่ะ















แอบเห่อ LUSH กับเค้าบ้าง
ซื้อมา 2 ตัว(จริงๆอยากเหมาทั้งร้าน แต่ไม่มีตังค์)

ตัวบน
เป็นไลน์ของ Shower Jelly ค่ะ
ตัวนี้ชื่อ Sweety Pie กลิ่นออกแนว องุ่นๆ บลูเบอร์รี่ๆ นี่แหละ
หน้าตาเป็นแบบเจลลี่ น่าทานมากๆ
เวลาใช้ก็หยิบออกมานิดหน่อยแล้วถูตัวแบบสบู่ปกติ
ชอบมากๆ หอมมากๆ น่ากินมากๆ(แต่กินไม่ได้อ่ะ)


ตัวล่าง
เป็นในไลน์ของ Bath Ballistics
ตัวนี้เป็นกลิ่น วนิลลา ค่ะ หอมสุดยอดดดดด
หอมจนเอาไปใส่ในตู้เสื้อผ้าเป็นน้ำหอมได้เลย
ส่วนตัวนิเป็นคนเมากลิ่นง่าย แอบรู้สึกว่า มันหอมไปมะเนี่ยะ?
ไลน์นี้ให้ความรู้สึกในเรื่องของกลิ่นค่ะ
จะมีอีกไลน์เป็นส่วนของฟองฟู่ๆ ในอ่างน้ำ ไว้วันหลังจะลองไปสอย ^^










มาถึงเซทสุดท้ายของวันนี้กันแล้ว
ขอบอกว่า เซทนี้ คุ้มสุดคุ้ม ไม่มีคุ้มกว่านี้อีกแล้วค่า
มาเริ่มกันที่

ซ้าย(บน) :

Model Co Lip Service
มีลิปสติก 3 แท่ง Peony(hot pink), Kitty(sheer nude pink), Nude(natural fresh tone)
ลิปกลอส 3 แท่ง Passionfruit, Lynchee, Watermelon
และมาสคาร่าอีก 1 แท่ง





ซ้าย(ล่าง) :
Model Co Bronze Airbrush Sun
เป็นสเปรย์ทำสีผิวให้แทน
ใช้ได้ทั้งบริเวณใบหน้า และลำตัว
นอกจากจะแทนแล้วยังทำให้ผิวดูฉ่ำวาวๆดูสุขภาพดีด้วยค่ะ




ขวา(บน) :
Model Co Glow Summer Bronze & Blush Brush
เป็นบอรนซ์ที่ทำให้ผิวดูโกลวๆ
มาเป็นเซทพร้อมแปรงที่ทำจากขนแกะ





ขวา(ล่าง) :
Elizabeth Arden Hydra-Gentle Cream Cleanser
เป็นครีนเซอร์ชนิดครีม
ใช้ล้างเครื่องสำอางค์ได้หมดจดดีในระดับนึง
เนื้อครีมละเอียดและข้นดี











หมดแล้วสำหรับวันนี้ เหนื่อยจริงๆค่ะ
ไว้รอบหน้าอาจจะมาเห่อเสื้อผ้าที่ขนซื้อมาอีกทีน้า
ตอนนี้ขอนอนดูการ์ตูนต่อละ
กะลังติดการ์ตูนสุดๆเลยค่ะช่วงนี้ ฮ่าๆ











หากใครจะแอด Facebook นิ ก็ขอให้ส่งข้อความมาหานิก่อนนะคะ
ตอนนี้ยอด Friend Requests นิเต็ม
ไม่สามารถรับแอดได้แล้ว แต่นิสามารถไปแอดคนอื่นๆได้น้า
ยังไงก็ส่งข้อความมาบอกด้วยนะคะว่ารู้จักมาจากไหน
ขอบคุณค่า ที่ติดตาม ^^

 

Discussion (18)

shower jelly น่าใช้ม๊ากมาก
สถานที่น่าเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะ Old Trafford


อร๊ายย น่าช๊อปสุดๆเลยค่า
ราคาลดแล้วตกใจกันไปเลย

ยั่วจริงๆ ด้วย 555+
อยากไปมากมายยย
>> Old Trafford ของ Manchester ..  -^^-