วิธีจัดการอาการติดช็อปทางเน็ตของสาวๆ

ใครมีปัญหาบ้าซื้อบ้างยกมือขึ้น

(เพียบ เลย)

ยกมือค่ะว่าเป็นอีกคน
แต่มีวิธีแก้ค่ะ


เห็นหลายๆคนเข้า มาบ่น  กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคจิต  หรือกลายเป็นผู้หญิงฟุ่มเฟือยคุมเงินไม่อยู่
บางคนมีปัญหาตรงที่ว่า ช็อปทางเน็ตมันจ่ายทางเครดิตได้  พอสิ้นเดือนบิลยาวเป็นหางว่าว
ชักจะ กังวลกับตัวเองกลัวจะกู่ไม่กลับ


วันนี้เมเลยมีข้อแนะนำดีๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆมาฝากค่ะ


อ๊ะๆ อยากฟังล่ะสิ


ตอนแรกอ่ะก็บ้าซื้อเสื้อผ้าเหมือนกันค่ะ
โดยมีข้ออ้างให้ตัวเองสารพัด
เสื้อ ตัวเก่ามันเชยไปบ้าง  เบื่อบ้าง  หรือเราผอมลงต้องซื้อใหม่บ้าง
แล้วก็ บอกตัวเองว่าไว้ตัวไหนไม่อยากใส่เราก็โละเป็นมือสองก็ได้นี่นา ... ประมาณนั้น

ทีนี้ก็ซื้อเรื่อยๆค่ะ
ดูเหมือน ไม่เยอะอะไร
ตู้ที่หอมีสองตู้แต่มันไม่พออยู่แล้ว  เช่าตู้เสื้อผ้าเพิ่มเป็นสามตู้
ตอนแรกๆมันก็มีพอเก็บค่ะ  พอไม้แขวนเสื้อไม่พอก็ซื้อเพิ่ม
มันก็ยังมีที่ให้แขวน  จนพักหลังๆแม้แต่ที่จะแขวนก็ไม่มี  ยัดแล้วยัดอีกจนผ้ายับไปหมดก็ไม่พอ
ถึง ได้สำนึกค่ะ
(กว่าจะสำนึกได้ก็แย่)
แล้วช่วงนั้นก็อ่านหนังสือเกี่ยว กับเก็บเงิน จนรู้สึกว่าตัวเองน่ะหมดเงินไปกับเรื่องพวกนี้เยอะ
เครื่อง สำอางค์ไม่ค่อยเท่าไหร่นะ   สั่งมาก็จริงแต่เป็นพวกใช้เกลี้ยง
เลยสังเกต พฤติกรรมของตัวเองจากการใช้เครื่องสำอางค์แ้ล้วมาปรับใช้กับเสื้อผ้าค่ะ


ปกติ  เครื่องสำอางค์เม เมจะใช้จนเกลี้ยง (ชนิดว่าถ้าเป็นแบบครีม เมจะเอากรรไกรตัดปลายหลอดแล้วควักใช้ต่อจนหมด)
แล้วด้วยความมีเยอะ ... เช่นตัวสิวพอมาตั้งเรียงกันก็มีหลายตัว  ตัวไวเทนนิ่งก็หลายตัว  เวลาจะทามันสับสนค่ะ
แบบว่าจะใช้ตัวไหนก่อนดี  หรือทาหมดเลยดี (ลังเลมากๆ) ... ในที่สุด
ก็ เลยใช้ไปทีละแบรนด์เพราะจะได้ลองด้วยว่าไม่ใช้ผสมๆกันมันจะดีมั้ย
วิธี นี้ทำให้กว่าจะใช้เครื่องสำอางค์หมดก็นานมากๆค่ะ
พอเวลาเปิดเว็บดูเรื่อง ความสวยความงาม (ขนาดสมัยก่อนไม่รู้จักจีบันนะ) ก็อินไปกับมัน
คิดในใจ ว่าอันนั้นก็น่าซื้ออันนี้ก็น่าซื้อ  แต่ก็ไม่กดสั่งซื้อเลยค่ะ
ด้วย เหตุผลเดียวว่า  ยังใช้ไม่หมดเลย  มีตั้งไว้ตั้งเยอะ
พอเป็นแบบนี้ไป เรื่อยๆไอ้อาการอยากก็ลดลงเองโดยปริยายค่ะ

นอกจากนั้นแล้วเรื่องการ ทำบัญชีรายรับรายจ่ายก็สำคัญนะคะ
คือนอกจากเราจะทำประจำวันแล้ว  พอสิ้นเดือนเราก็มาแยกประเภทว่าเนี่ยเราเสียเงินไปกับเรื่องนี้ๆเท่าไหร่
อย่าง สมมติ  เรื่องความงาม  xxxx บาท เรื่องเสื้อผ้า xxxx บาท
แล้วซื้อมาได้ ใช้เลยมั้ย  หรือซื้อมาดองเก็บไว้
พอเห็นยอดรวม  เราก็ตั้งเป้าว่าเราจะลดยอดลงได้เท่าไหร่  (เอาแบบไม่หักโหมหรือฝืนตัวเองมากนะคะ  ไม่งั้นจะหลุด)
ทีนี้พอคอยทำบัญชีเรื่อยๆ มันก็จะเริ่มคุมได้มากขึ้น  แบบประมาณว่ารู้ตัวว่าช็อปไปเท่าไหร่
แบบว่าบางทีพอเราตั้งเป้าไว้แล้วมีวินัยให้กับตัวเอง  มันก็ช่วยให้เราควบคุมตัวเองได้มากขึ้นนะเมว่า
ตอนตั้งเป้าแล้วดูยอดน่ะ ก็ให้เราลองคิดว่าถ้าเราลดลงมาเหลือเท่านี้ๆต่อเดือน มันจะลำบากมากมั้ย
แล้วเงินส่วนต่างตรงนั้น  ผ่านไปครึ่งปีหรือปีนึงมันเท่าไหร่
บางทีเราอาจเอาเงินส่วนนั้นไปเที่ยว หรือ แบ่งเงินบางส่วนมาทำบุญ (ทำอะไรที่เราอิ่มใจไปนาน) หรืออะไรหลายๆอย่างที่เราอยากทำก็ได้


... เล่าต่อค่ะ
พอเริ่มจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เครื่องสำอางค์ การช็อปเครื่องสำอางค์ก็ลดลง
แล้วพอมาเรื่องเสื้อผ้า  มีคนเค้าบอกว่าตอนซื้อเสื้อผ้ามาใหม่ๆให้หาไม้หนีบหรือเข็มกลัดอะไรมาติด ราคา + จำนวนครั้งที่ใส่ลงไป  พอผ่านมาหลายๆเดือนมันก็ช่วยเรานะว่าเราใส่คุ้มกับที่ซื้อมามั้ย
บางทีมันถูกกว่าก็จริง  แต่ผู้หญิงอ่ะ ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำกันหรอก  มิกซ์แอนด์แมชไปเรื่อยว่ามั้ย
พอทำวิธีนี้เราจะเริ่มรู้สึกว่าการซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆเป็นเรื่องสิ้นเปลือง  มันก็จะเริ่มรู้สึกสำนึกผิดไปนิดนึง
(นอกจากเรื่องตู้ไม่มีพอให้แขวนผ้าแล้วน่ะนะ)

ทีนี้พอเข้าเว็บ (เป็นการหาความสำราญอย่างนึงของลูกผู้หญิงเรา)
เราก็นั่งดู  ดูไปเลยค่ะ  เต็มที่  จินตนาการเลยว่าถ้ามันอยู่บนตัวเราแล้วจะสวยแค่ไหน
ดูเสร็จอย่าเพิ่งกดอะไรนอกจาก bookmark เก็บไว้
ชอบอะไรก็ bookmark เก็บไว้ให้เยอะๆ
ต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้กดซื้อทันทีนะคะ (จะให้เหตุผลกับตัวเองว่าอะไรก็ตามใจแต่อย่าใจอ่อน)
ทำแบบนี้ทุกวัน  ผ่านมาสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ให้เรามาดูในลิสท์ของเราที่ bookmark เอาไว้
มันจะมีเยอะมากจนละลานตาไปหมดค่ะ
แล้วเวลาถึงคราวจะช็อป  เราจะตัดตัวที่เราชอบน้อยลงไปได้  จะทำให้เราซื้อได้เฉพาะตัวที่เราคิดว่าจะใส่ได้บ่อย  หรือมิกซ์แอนด์แมชได้เยอะ  ... คือเป็นการคัดกรองตัวที่เราคิดว่าจะได้ใช้จริงๆ


นอกจากนั้นแล้วเวลานั่งดูเว็บพวกนี้
ก่อนหน้าที่จะดูที่เราจะให้เหตุผลในการช็อปเสื้อผ้าของตัวเอง
(แหม  เวลาดู beauty check มันก็มีแต่แบบล่อตาล่อใจเนอะ เมว่านะ)
เราก็ต้องจินตนาการไว้ก่อนค่ะว่าเราอยากได้เสื้อผ้าแบบไหน
กางเกงทรงนี้  เสื้อทรงนี้  สีนี้ ... ให้คิดไว้ก่อนเลยค่ะเป็นการโฟกัสขอบเขตในการหาของเรา
พอเวลาเปิดเว็บ  เราก็มุ่งตรงไปตรงจุดที่เราอยากได้จริงๆ
อาจมีหลุดๆบ้างแต่ก็ยังดีกว่าดูไปเรื่อยเพราะติดใจในความละลานตา

เมลองทำดูนะ
เวลาเมลอง bookmark อะไร  แล้วปล่อยไว้นานๆ  มีไม่กี่ชิ้นหรอกที่เมกลับไปซื้อ
ที่เหลือก็ลบออกจากลิสท์หมด
มันเหมือนกับว่าตอนที่เรากด bookmark น่ะ เราเล่นกับจิตวิทยาของตัวเองประหนึ่งว่าเราซื้อไปแล้ว
ก็ได้ผลพอควรนะคะ  ตอนนี้ไม่ค่อยช็อปเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางค์เท่าไหร่
จะเริ่มกลับมาช็อปอีกเพราะว่าที่สะสมไว้กำลังจะเกลี้ยง (แต่ก็คงไม่ซื้ออย่างบ้าคลั่ง)
คงต้องอ่าน review ดีๆว่าซื้ออะไรดี ... แอบเสียดายรู้จักจีบันช้าไป


แล้วถ้าเราทำแบบนี้แล้วมันช่วยได้ในระดับนึงแต่กิเลสก็ยังมีอยู่
ก็ต้องรู้จักแทนที่ค่ะ (ทั้งเรื่องเงินและเรื่องที่ไว้)
... เพิ่มที่ว่างในตู้เพื่อจะได้มีเหตุผลในการได้เสื้อผ้าตัวใหม่
อาจจะขายเป็นมือสอง (ขายในเว็บหรือฝากคนไปขายตามตลาดนัดก็แล้วแต่สะดวก)
แม้ว่าจะได้เงินมาไม่เยอะ  แต่ก็ดีกว่าเก็บเสื้อผ้าที่ชาตินึงเราถึงจะหยิบมาใส่เก็บไว้
ที่สำคัญมันช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเราได้นิดนึงตรงที่ว่า ... โหซื้อมาตั้งแพง ขายได้นิดเดียว
(ต่อไปเราก็จะไตร่ตรองในการช็อปมากขึ้น)
ไม่งั้นก็คัดเอาเสื้อผ้าบริจาค  (นอกจากจะได้กำจัดเสื้อผ้าแล้วยังได้บุญด้วย  ต่อไปจะได้มีอาภรณ์สวยๆใช้ตลอด)

ยังไงใครที่มีปัญหาเรื่องการช็อปก็ลองนำวิธีของเมไปปรับใช้ดูนะคะ
เมไม่ได้มีวิธีการลดการช็อปกระเป๋า (เพราะไม่ใช่คนบ้ากระเป๋า เนื่องจากคุณแม่เป็นแทน ๕๕๕)
แต่ก็คิดว่าน่าจะปรับใช้ด้วยกันได้แหละค่ะ




เจอกันเมื่อชาติต้องการและเมื่อน้องเมหายถุงใต้ตาบวม (จะมีวันนั้นมั้ยเนี่ย)


บ๊ายบายค่ะ  จุ๊บๆ ^ ^





ปล. โทษทีนะคะ  เมสรุปความเป็นขั้นตอนไม่เก่ง  ได้แต่เล่ามายาวเหยียดเลย  แหะๆ (- -ll)

Discussion (14)

I am completely agree wth you as well.  

It is one of the best way for saving your money.

thanks for sharing.

เมไปอ่านกระทู้คุณ sensationalist มาเนี่ยล่ะค่ะ  ... เลยปิ๊งไอเดีย

จริงๆยังไม่ใช่กูรูด้านการออมเงินนะคะ  แต่ว่าสาวๆอย่างเราจะให้ไม่ช็อปเลยคงเป็นไปไม่ได้
แล้วอย่างเมเองกิเลสก็เยอะ  พอวิธีไหนได้ผลก็เลยมาเล่าสู่กันฟังค่ะ  ^ ^

555 เรานี่ถึงกับตั้งกระทู้ปรึกษาในจีบันเลยอ่ะค่ะ กลัวจะเป็นโรคจิตหมกมุ่น

แต่ว่า พักนี้ก็เพลาๆลงแล้ว

ทำเหมือนกันค่ะ ชอบอะไรก็จะบุ๊คมาร์คไว้ก่อน แล้วก็ถ้าว่างก็นั่งดูไปดูมาจนซื้อจนได้

เลยพยายามไม่ดูบ่อย ไปติดซีรี่ย์เกาหลีแทนดีกว่า ฮ่าๆๆ

แล้วก็พยายามเช็คว่า อะไรที่มีแล้ว อะไรต้องการจริงๆ อะไรขาดอะไรเกิน ก็จะไม่ซื้ออีก

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะจ๊ะ
 เราทำเหมือน จขกท เลย

ไม่งั้นช้อปแหลก

บ้าเหมือนกันเลยอะค่ะ แก้ไม่หาย

อยากเก็บเงิน อะค่ะ ซื้อทุกสิ่งที่อยากได้

เราอยู่ปี 1 เองเ รียนก็ยังไม่จบ ช๊อปปิ้ง เดือนละ 30,000 รวมๆทุกอย่าง ถ้าทำงานได้เดือนละ 20,000

เอาที่ไหนกินอ่า  คิดนะค่ะ แต่ทำไมได้อ่า ทำไงดี --*