ถามสาวๆ ที่ใช้ iphone 3G กะ 3Gs ค่ะ
mamiyari18iphone 3G กะ 3Gs มานต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วแบบไหนดีก่า
3G มานมีข้อเสียอารายมั้ย
พอดีเปนนักศึกษาอยู่อ่ะค่ะ มีตังซื้อได้แค่ 3G ตอนนี้คิดหนักมากๆ
สาวๆช่วยหน่อยนะ
iphone 3G กะ 3Gs มานต่างกันยังไงหรอคะ
แล้วแบบไหนดีก่า
3G มานมีข้อเสียอารายมั้ย
พอดีเปนนักศึกษาอยู่อ่ะค่ะ มีตังซื้อได้แค่ 3G ตอนนี้คิดหนักมากๆ
สาวๆช่วยหน่อยนะ
Discussion (18)
แต่โดยรวมค่อนข้างพอใจมาก วีดีโอที่ถ่ายออกมาไฟล์ใหญ่ใช้ได้เลยค่ะ (ใหญ่จนเวลาอัพลงเฟสบุคทีวุ่นวายไปหมด ฮึ่ม - -)
ต้องถามตัวเองด้วยค่ะว่าต้องการมันเอาไปทำอะไร ถ้าเอาไปใช้ทำงาน ใช้โทรเข้าออก ฟังก์ชั่นที่จำเป็นน่าจะมีอยู่แล้วในตัว 3G (หรือพูดให้เจ็บกระดองใจเล่นคือมีได้ในมือถือทั่วไปที่ถูกกว่านี้มาก
ถ้าอยากซื้อ 3GS ลองรอ 4 ออกก่อนก็ได้ค่ะ มันอาจจะลงอีก แต่เราว่าคงไม่มาก เพราะราคาแบรนด์นี้ค่อนข้างเสถียร
ปล. ส่วนตัวแล้ว ไม่สน 4 สักกะติ้ดเลยค่ะ คิดว่าฟังก์ชั่นยังไม่ดึงดูดใจพอ แบบก็ชอบแบบเดิมมากกว่า บ้านไม่ได้เงินถุงเงินถัง ใช้ 3GS น้อย ๆ ของเราต่อไปดีกั่ว
1.) มันเร็วขึ้น ทาง Apple นั้นได้ออกมาประกาศเอาไว้ว่ามันเร็วกว่า iPhone 3G ถึง หนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียว ส่งผลให้การเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ตลอดไปจนถึงการปิดโปรแกรม นั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่อืดอาด ให้เราต้องหงุดหงิด
2.) มีความจุที่เพิ่มขึ้น Apple นั้นจะขาย iPhone 3GS อยู่เพียงสองแบบก็คือแบบ 16GB และ 32GB ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยขายในความจุ 4GB, 8GB และ 16GB เท่านั้น
3.) ถ่ายวิดีโอได้ โดยทั่วไปแล้วการที่เราจะทำการถ่ายวิดีโอนั้น เราจำเป็นที่จะต้องหาโปรแกรมเสริมเข้ามาช่วยเพื่อที่จะให้สามารถถ่ายวิดีโอ ได้ เพราะใน iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ ไม่มีลูกเล่นนี้ติดมาให้ด้วย แต่ในรุ่นล่าสุดนี้ มันกลายเป็น ลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไป ดังนั้นมันต้องเจ๋งแน่นอน
4.) กล้องมีความละเอียดเพิ่ม ขึ้น ในรุ่นก่อนหน้านี้กล้องที่ติดมากับ iPhone นั้นจะมีความละเอียอดสุงสุดที่ 2 Mega Pixel เท่านั้น แถมยังไม่มีระบบ Auto Focus อีกต่างหาก แต่ในรุ่น 3GS นี้ กล้องได้ถูกปรับปรุงให้มีความสามารถในการถ่ายภาพได้ถึง 3 Mega Pixel และที่สำคัญก็คือมี “ระบบ Auto Focus” มาให้อีกด้วย
5.) ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Control) ระบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ใน iPhone 3GS ลองนึกดูนะครับ มันจะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถสั่งให้มัน เล่นเพลงได้ โดยแค่เรา พูดกรอกลงไปกับเครื่อง ไม่ต้องกดปุ่มอะไร แค่พูดว่า “เปิดเพลง” ทำนองเนี้ย แจ่มมั้ยละ หรือจะเป็นการโทรออกโดยใช้เสียง นึกอยากจะโทรหาใครก็ แค่ ยก ขึ้นมาแล้วพูดว่า “น้องแนท” แค่นี้ มันก็จะโทรหาน้องแนทให้ ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกตั้งเยอะเลยนะเนี้ย
6.) มีเข็มทิศให้ใช้ด้วย นี่คือระบบเข็มทิศแบบดิจิตอล ซึ่งเป็นลูกเล่นใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ ซึ่งถ้าได้เอามาใช้ร่วมกับ Google Map ละก็มันจะช่วยให้คุณดูแผนที่ได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว จะได้ไม่ต้องหลงทิศ อีกต่อไป
7.) สามารถแชร์อินเตอร์เนท ให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ ระบบนี้เราจะเรียกมันว่า “Internet Tethering“ ซึ่งมันจะทำตัวมันเองให้ทำงานคล้าย Modem ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านสาย USB หรือจะเป็น Bluetooth ก็ได้ แค่นี้เราก็จะสามารถแชร์เนทไปให้ Mac หรือ PC ที่เราต้องการได้แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ ท่านใช้งานอยู่ ว่ารับรองกับระบบนี้หรือไม่
8.) ความสะดวกในการใช้งานที่ เพิ่มขึ้น ทาง Apple ได้เพิ่มฟังค์ชั่นที่จะช่วยให้เราใช้งานได้สะดวกขึ้น อาทิเช่น ระบบ VoiceOver ที่จะคอยอ่านข้อความที่อยู่บนจอภาพให้ออกมาเป็นเสียง หรือจะเป็นระบบ zoom ที่ทำให้เรา zoom เข้าไปได้ถึง 5 ครั้ง และระบบปรับสภาพ contrast จออัตโนมัติในกรณีที่ต้องอ่านข้อความสีขาว บนพื้นสีดำ
9.) ใช้งาน Nike+ iPod ได้ด้วย โดยก่อนหน้านี้ระบบนี้ได้ถูกนำเข้าไปใช้งานกับ iPod Nano ก่อนแล้ว โดยมันจะใช้งานร่วมกับรองเท้า Nike ที่สนับสนุนการทำงาน Nike+ ซึ่งจะส่งผ่านข้อมูลทาง Bluetooth ทำให้เรารู้ว่าเราวิ่งได้ระยะทางแค่ไหน เสียพลังงานไปเท่าไหร่ แล้วมันจะตีออกมาเป็นสถิติให้
10.) หูฟังแบบใหม่ โดยหูฟังแบบใหม่นี้จะมีปุ่มแบบ multi-button ซึ่งทำให้เราสามารถปรับเสียง ดัง-ค่อย ได้ ซึ่งหูฟังในรุ่นหน้านี้จะไม่สามารถทำได้
ตั้งแต่ใช้มา มีข้อเสียแค่อย่างเดียวเท่านั้นเอง คือ แบตหมดเร็วค่ะ หรือเพราะว่าเราใช้ทั้งวันก้อไม่รู้นะ ต้องชาร์ตตลอดเลย กลัวแบตหมด เพราะพนักงานขายเค้าแนะนำว่า ห้ามให้แบตหมดจนเครื่องดับอ่ะค่ะ