รีวิวครั้งแรกกับ มาสคาร่า Mistine Volume Shock ที่วางตลาดวันนี้วันแรกค่ะ

เนื่องจากวันนี้ไปเดินเล่นงานสหพัฒน์มาค่ะ ได้ของมานิดหน่อย เห็นบูทของมิสทีนเลยเข้าไปดูหน่อยว่ามีอะไรบ้าง เห็นBA บอกว่ามีมาสคาร่ารุ่นใหม่ที่เพิ่งลงโฆษณาเมื่อเช้านี้วันแรก ไม่รู้จริงรึเปล่าเพราะไม่ค่อยได้ดูโฆษณาค่ะ

รุ่นนี้ค่ะ Volume Shock Prolong Mascara โฆษณาไว้ที่แพกเกจว่าทำให้ขนตาหนาขึ้น x20เท่า และ made in japan ค่ะ

หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ หัวแปรงแบบใหม่แนวมาสคาร่าญี่ปุ่นหลายๆตัวด้วยนะคะ

คำโฆษณา

ลองปัดดูจากที่บูตตั้งแต่ตอนบ่ายโมง เพิ่งจะมาถ่ายรูปตอนสามทุ่มค่ะ

นี่รูปก่อนปัดค่ะ (ความจริงคือจากที่ล้างมาสค่าร่าออกไปแล้วค่ะ) จะเห็นว่าตาสองชั้นหลบใน ขนตาที่มีอยู่น้อยนิดเลยแทบมองไม่เห็น

หลังจากปัดเพียงรอบเดียว ไม่มีการดัดขนตาใดๆ ไปเดินที่งานแบบหน้าโล้นๆ แต่บังเอิญเป็นคนขนตาไม่ตกโดยธรรมชาติ ผลออกมาแบบนี้ค่ะ (กลับบ้านมาสามทุ่ม หน้ามันมากๆ แถมเปิดแฟลชอีก น่าเกลียดจิง)

ส่วนตัวคิดว่ามันเด้งขึ้นมาอย่างน่าตกใจ แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามันเน้นทำให้ขนตาดูหนาหรือยาวเป็นพิเศษค่ะ เลยบอกไม่ได้ว่าตัวนี้มันเน้นหนาหรือเน้นยาว รู้แต่ว่ามันเด้งๆๆๆ และที่สำคัญมันไม่ช่วยเรื่องทำให้ขนตาเรียงตัวสวยค่ะ ออกจะค่อนข้างปัดยากเลยแหละสำหรับคนที่ขนตาน้อย หรอมแหรมอย่างนี้ค่ะ

แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ซื้อมาถึงสองแท่งก็คือเนื้อของมาสค่าร่ามิสทีนที่เหมาะกับคนหน้าและรอบดวงตามันอย่างมากถึงมากที่สุด คือส่วนตัวแล้วเวลาที่เลือกซื้อมาสคาร่าเนี่ย จะเลือกซื้อเฉพาะที่ล้างออกมาเป็นก้อนๆเส้นๆ ไม่เอาที่ล้างแล้วไหลเป็นคราบอะคะ เพราะมันจะแปลว่า มันจะไม่มีทางทำให้ตาเราเป็นแพนด้าระหว่างวันได้เลย(อันนี้ทฤษฎีส่วนตัวนะคะ) ตั้งแต่ใช้มาสคาร่ามิสทีนมาหลายรุ่น ไม่เคยมีรุ่นไหนทำให้เราเป็นแพนด้าเลย เวลาล้างก็จะออกมาคล้ายๆกัน คือ ล้างง่ายด้วยโฟมล้างหน้า ล้างแล้วจะหลุดออกมาเป็นเส้นๆ แต่รุ่นนี้ดูจะกันน้ำได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆนะคะ เพราะรุ่นอื่นๆที่เคยลองเนี่ย ถ้าหาวปล่อยให้น้ำตาไหลบางทีจะมีก้อนๆเส้นๆร่วงมาที่ใต้ขนตาล่างบ้าง แต่ตัวนี้โดนน้ำเหมือนจะยังอยู่ดีอยู่เลย ล้างด้วยโฟมแล้วยังเหลือเนื้อมาสคาร่าอยู่ แต่เอานิ้วรูดๆออกก้อหมดเกลี้ยงเลยค่ะ จากรูปจะเห็นว่าสมบุกสมบันจนสามทุ่มก่อนล้างมีแค่ผงร่วงๆลงมาสองสามจุด แต่เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากการขยี้ตามากกว่าค่ะ วันนี้รู้ตัวว่าเผลอขยี้ตาไปหลายรอบเลย

สำหรับเราแล้ว มาสคาร่ามิสทีนไม่ใช่มาสคาร่าที่ปัดแล้วได้ผลลัพธ์ที่สวยที่สุด และจนทุกวันนี้ก็ยังไม่เจอมาสคาร่าในดวงใจ แต่เท่าที่เคยลองมาเรารู้สึกว่าชอบเนื้อมาสคาร่าของมิสทีนที่เป็นเนื้อฟิล์มแบบนี้ที่สุดค่ะ ทั้งในเรื่องไม่ทำให้แพนด้าและเรื่องล้างง่าย แบบไฟเบอร์แนวjet set นี่ไม่แพนด้าก็จริงแต่ปัดยาก ร่วงกราวและทำให้เคืองตามากๆค่ะ

ราคาที่ได้มาวันนี้ 100บาทค่ะ ไม่แน่ใจว่าราคาปกติจะเป็นเท่าไหร่นะคะ