เห่อ! ประสบการณ์+ เทคนิค ดีๆที่ได้รับจาก Kanebo ค่าาาา

วันนี้ได้มีโอกาสไปแต่งหน้ากับ Kanebo ที่ Central Bangna โดย Make up Artist จากแดนปลาดิบ ชื่อ ซึซึกิเซนเซ (ไม่แน่ใจว่า สะกดแบบนี้หรือเปล่า) ค่ะ เค้าเป็นวิทยากรที่อบรมการแต่งหน้าให้กับพี่ๆ BA ทั้งหลายด้วยแหล่ะค่ะ : ) ไม่แปลกเลยที่ทำไม BA ของ Kanebo นี่น่ารักกันทุกคน อบรมดีมากค่ะ ส่วนตัว Sensei เอง(หมายเหต sensei แปลว่าอาจารย์นั่นเองค่ะ) ก็น่ารักมากค่ะ ขนาดเราเป็นเด็กวัยรุ่น เขายัง ให้เกียรติเรามากๆ พูด Please, sorry อะไรแบบนี้ตลอดเลย กิริยานอบน้อมมากๆค่ะ สมกับคำว่า Service Mind เลยค่ะ ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นก็จะทราบว่างานบริการของญี่ปุ่นนี่ชั้นหนึ่งไม่ว่าเราจะเป็นใครค่ะ .. ขอแค่เป็นลูกค้าก็พอ

ก่อนอื่น Sensei จะถามว่า ชอบแนวไหน ชอบสีไหน อะไรแนวๆนี้อ่ะค่ะ เราก็บอกไปว่าชอบแบบ Natural Look แบบ Sweet ๆ หน่อย
เขาก็เริ่มเลือกสรรค์ผลิตภัณท์อย่างละเอียดมากเลยค่ะ เดินไปนู่นไปนี่ไปหยิบ รองพื้น เบส คอนซีลเลอร์ อะไรต่างต่างนานา สังเกตว่าเขาจะใช้ ''ฟองน้ำ'' ค่ะ ฟองน้ำที่ใช้สะอาดมากๆค่ะ น่าจะเป็นฟองน้ำใหม่นะคะ มาเกลี่ยเบาๆ ทำให้ไ้ด้ลุคทีี่ใส แล้วก็เนียนมากเลยค่ะ เหมือนกับไม่มีอะไรบนใบหน้าเรา

เทคนิคแรกนึงที่ได้รับก็เรื่อง การใช้คอนซีลเลอร์ทาใ้ต้ตาค่ะ... เราเป็นคนมีปัญหาเรื่องใต้ตาดำมาก.. เป็น หมาแพนดี้กันเลยทีเดียว
เซนเซ เขาก็ใจดีนะบอกว่า 'Don't worry, Every beautiful lady has dark undereyes' เราก็ยิ้มๆเขิลๆกลับไป เขาใช้แปรงทาคอนซีเลอร์ทาๆใต้ตาค่ะ เกลี่ยให้เนียน.. แต่ว่า ปัญหาคือ คนที่ใ้ต้ตาดำมากๆ ทาออกมาแล้วจะเป็นสีเทา ค่ะ คือแบบดูออกว่าทาคอนซีลเลอร์ แต่ปิดไม่มิด  เซนเซเขาก็บอกวิธีการทำก็คือ ให้เอาพวก Hilight หรือ eyeshadow ที่สีออก เบจๆ น้ำตาลอ่อนๆ ทองๆ มาทาใต้ตาเรา ... ผลที่ได้คือ... เนียน สุโค่ยยยยยยย!!

เทคนิคที่สอง  ความจริงมันก็ไม่ใช่เทคนิคอะไรหรอกค่ะ แต่ว่าเป็นความรุ้เล็กๆน้อยๆ ว่า การกันคิ้วนี้ทำให้รูปหน้าคนเราเปลี่ยนไปได้เลยค่ะ แล้วต้องหาคนกันที่เก่งๆ หลังจากที่เราได้ shape มาแล้วเนี่ย ก็มากันเองต่อได้ค่ะ อ้อ อีกอย่างนึงคือว่า การกันคิ้วเขาไม่ได้ให้กันบนคิ้ว แต่ให้กันใต้คิ้วขึ้นไปค่ะ... ( ความรู้ใหม่ เพราะเรากันบนคิ้วมาตลอดเลย ) แล้วก็วิธีการเปลี่ยนสีคิ้วให้ซอฟท์ลง ก็เอามาสคาร่าคิ้วมาทาเบาๆ อย่าให้โดนเนื้อเรา แล้วก็ใช้ที่ปัดคิ้วสะอาดๆมาเบลนด์ๆอีกที หากว่าสียังเข้มอยุ่ ให้เอาแป้งฝุ่นมาปัดทับค่ะ :D 

เทคนิคที่สาม  การทาลิปให้ใช้ สปาตูลา ปาดเอาเนื้อลิปออกมาแล้วนำแปรงมาขยี้ๆๆ จากนั้นก็เอามาทาที่ปากเราค่ะ :) จะงามกว่าทาตรงๆเนอะ

เทคนิคที่สี่  การเขียนตาค่ะ ... Sensei บอกว่า คนส่วนใหญ่จะเขียนอายไลเนอร์ บนขนตา แต่เขาบอกว่า มันจะไม่ธรรมชาติ ที่ถูกคือ ต้องเขียนใต้ขนตาอ่ะค่ะ (สำหรับคนถนัดขวา) ให้ศอกขวาวางบนโต๊ะ แล้วก็มือซ้ายเลิกเปลือกตาขึ้นเบาๆ เอามือขวาทำการ dot dot dot เพื่อถมช่องว่างระหว่างขนตาค่ะ :) จะให้ลุคที่ดู ธรรมชาติกว่า แล้วก็ที่สำคัญ คนที่ตาสองชั้นหลบในอย่างเรา ก็ทำได้ด้วยค่ะ ( sensei เลือกใช้ Gel liner พร้อมกับแปรงหัวตัดค่ะ)


แบบว่าพอแต่งเสร็จแล้ว... เรารู้สึกประทับใจมากๆค่ะ ทั้งที่แต่งหน้าสวยด้วย ใส่ใจรายละเอียดด้วย แล้วก็ความเป็น Service mind ของMake up artist ท่านนี้ .. แอบกระซิบว่า เซนเซ ท่านนี้กันคิ้วได้เก่งมากค่ะ สวยมาก ใครสนใจก็สามารถไปขอกันคิ้วได้เลยค่ะ เค้าใจดี :) แล้วก็ เซนเซจะอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นจะบินกลับ ญี่ปุ่นแล้วค่ะ  T T ใครที่เป็นสมาชิกของ kanebo อยู่โทรไปจองคิวได้เลยค่ะ



ขอโทษนะคะที่ไม่มีรูปลง ถ่ายด้วยกล้องมือถือเลยไม่เห็นรายละเอียดเมคอัพใดๆทั้งนั้น เพราะความละเอียดต่ำเกินไป... เลยไม่เอาลงดีกว่าค่ะ ให้ไปสัมผัสประสบการณ์โดยตรงด้วยตัวเองดีกว่า


สรุปแล้ว ประทับใจเครื่องสำอางค์ยี่ห้อนี้มากถึงมากที่สุดค่ะ ทั้งด้านคุณภาพสินค้า และคุณภาพบุคลากรณ์ค่ะ อยากให้หลายๆยี่ห้อดูเป็นแบบอย่างนะคะ  ถ้าโตกว่านี้จะอุดหนุน Kanebo เยอะๆแน่นอนค่ะ !!!!  :D



Thank you so much, sensei.